สวนดุสิต เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ชี้ไม่เห็นด้วยฝ่ายค้านยื่นกระทู้ถามเรื่อง "ป๋าเปรม" ทำสภาโต้แย้งหนัก ติงเป็นเรื่องคน 2 คนอย่าดึงเรื่องเข้าสภา ทั้งบอกรู้เบื่อหน่ายการเมือง อยากให้ยุติปัญหา
วันนี้(24 ต.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป ที่สนใจติดตามข่าวในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,161 คน ระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2552 เกี่ยวกับกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการปะทะคารมอย่างดุเดือด กรณีกระทู้ถามสดเรื่องคำให้สัมภาษณ์ทรยศชาติ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จนเกิดการปะทะคารมในสภาฯระหว่าง ส.ส.ประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย จนต้องสั่งปิดการประชุมทันที
โดยประชาชนร้อยละ 43.75 ไม่เห็นด้วย กรณีพรรคเพื่อไทยยื่นกระทู้เรื่องการให้สัมภาษณ์ทรยศชาติ ของพล.อ.เปรม เนื่องจากเห็นว่า เป็นเรื่องระหว่างคน 2 คน ที่ไม่ควรดึงสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง และอยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย ยุติประเด็นนี้ ขณะที่ร้อยละ 39.28 เห็นว่า การโต้ตอบการประท้วงถึงขั้นท้าทายกันในสภาของ ส.ส.เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ควรรักษาภาพพจน์ของนักการเมืองไว้ ร้อยละ 82.58 เห็นด้วย กับการที่ประธานสภาสั่งปิดการประชุม
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนร้อยละ 62.54 รู้สึกเบื่อการเมืองไทย และร้อยละ 34.28 เห็นว่า ควรมีกฎระเบียบข้อบังคับ บทลงโทษที่ชัดเจนและเข้มงวดกับนักการเมือง ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในสภา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
วันนี้(24 ต.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป ที่สนใจติดตามข่าวในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,161 คน ระหว่างวันที่ 22-23 ตุลาคม 2552 เกี่ยวกับกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการปะทะคารมอย่างดุเดือด กรณีกระทู้ถามสดเรื่องคำให้สัมภาษณ์ทรยศชาติ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จนเกิดการปะทะคารมในสภาฯระหว่าง ส.ส.ประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย จนต้องสั่งปิดการประชุมทันที
โดยประชาชนร้อยละ 43.75 ไม่เห็นด้วย กรณีพรรคเพื่อไทยยื่นกระทู้เรื่องการให้สัมภาษณ์ทรยศชาติ ของพล.อ.เปรม เนื่องจากเห็นว่า เป็นเรื่องระหว่างคน 2 คน ที่ไม่ควรดึงสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง และอยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย ยุติประเด็นนี้ ขณะที่ร้อยละ 39.28 เห็นว่า การโต้ตอบการประท้วงถึงขั้นท้าทายกันในสภาของ ส.ส.เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ควรรักษาภาพพจน์ของนักการเมืองไว้ ร้อยละ 82.58 เห็นด้วย กับการที่ประธานสภาสั่งปิดการประชุม
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนร้อยละ 62.54 รู้สึกเบื่อการเมืองไทย และร้อยละ 34.28 เห็นว่า ควรมีกฎระเบียบข้อบังคับ บทลงโทษที่ชัดเจนและเข้มงวดกับนักการเมือง ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในสภา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก