ส.ส.ปชป.แถลงข่าวย้ำมารดา “จตุพร” ฝากเตือนอย่าด่า “ป๋าเปรม” อีกเลยจริง ด้านเจ้าตัวพร้อมเพื่อน ส.ส.พท.ล้อมวงประจัญหน้า “วัชระ” แหย่ขอจับมือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่ไอ้ตู่เก็บอาการไม่อยู่ตะเพิดพ้นโต๊ะแถลงข่าว
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวหลังการประชุมสภาฯ ว่า การที่ตนได้พูดพาดพึงถึงนางนวม พรหมพันธุ์ มารดารของนายจตุร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ขอชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนเก่าที่เคยรักกัน จึงได้กล่าวตักเตือนในฐานะเพื่อนว่า นางนวมมารดาของเพื่อนซึ่งมีอายุ 80 กว่าปี อาศัยอยู่ที่บ้านควนสร้อยทอง อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานื ได้ฝากข่าวตนมาเมื่อคราวที่ตนไปเยี่ยมท่านเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยนางนวมได้ฝากถามว่าตู่ได้เลิกด่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษแล้วหรือยัง ซึ่งตนก็ได้ตอบท่านไปว่า “ตู่ได้เลิกด่าท่านแล้ว” เพื่อให้นางนวมได้สบายใจ พร้อมกันนั้นตนได้ซื้อพัดลมตั้งโต๊ะ และสละ 1 ตะกร้าไปฝากด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน นำโดยนายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี นางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ นายอดุลย์ วันชัยธนวงศ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นางสาววิสาระตี เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย ได้เข้าไปนั่งในห้องแถลงข่าวด้วย โดยนายจตุพรได้นั่งประจันหน้าตรงกับนายวัชระที่นั่งแถลงข่าวอยู่ นอกจากนี้ นายวิเชียรยังได้กล่าวแทรกระหว่างการแถลงข่าวของนายวัชระว่า “ทำไมไปดูแลแม่คนอื่น แม่ตัวเองทำไมไม่ดูแล” นายวัชระจึงได้กล่าวตอบว่า “ผมดูแลทั้งแม่ผม และแม่เพื่อนครับพี่ และขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง หากนายจตุพรจะฟ้องร้องผมอีกกี่คดีก็ทำได้ แต่ผมจะไม่ฟ้องร้องเพื่อน”
ระหว่างนั้น ส.ส.เพื่อไทยได้ถามขึ้นมาว่า “ทำไมต้องอภิปรายในสภาฯ ถึงแม่นายจตุพรทั้งที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้ถามสดที่นายจตุพรจะถาม” นายวัชระกล่าวตอบว่า “เป็นการพูดเตือนให้สติในฐานะเพื่อนที่เคยรักกัน” เพราะดูแล้วว่ากระทู้ถามสดนี้ไม่เข้าในข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 157 และข้อบังคับการประชุมสภาฯ มาตรา 143 ว่าจะละเว้นเรื่องใด เพราะการทำหน้าที่ของรองประธานสภาฯ ที่บรรจุกระทู้ถามสดนี้เป็นวาระก็ไม่สมควร เพราะกระทู้ชัดเจนว่าไม่มีความเป็นกลาง ดังนั้น การทำหน้าที่ของรองประธานสภาฯ ผู้นี้คือ นาย สามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ ก็ไม่เป็นกลาง จึงไม่สมควรทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ ควรพิจารณาตัวเองลาออกจากตำแหน่งนี้ได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายวัชระแถลงข่าวจบก็พยายามจะเดินเข้าไปจับมือกับนายจตุพร แต่นายจตุพรกลับปฏิเสธว่า “มือเพิ่งไปล้างแอลกอฮอลล์มา” และได้ไล่ให้นายวัชระลงจากโต๊ะแถลงข่าวไปอีกด้านหนึ่ง