xs
xsm
sm
md
lg

“น้องเดียว” ยัน ปชป.ไม่มีก๊วน ยืนข้าง “เทือก” เชื่อล่าชื่อปลดยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
รมต.สำนักฯ ยัน ปชป.ไม่มีก๊วน ระบุ แนวคิดล่ารายชื่อปลดเลขาธิการพรรคเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค ลั่นทุกอย่างจะได้ข้อยุติภายในที่ประชุม เชื่อไม่ใช่เป็นปัญหาความขัดแย้งภายใน จนนำไปสู่ความแตกแยกภายในพรรค ฟุ้งงานใหญ่รออยู่ เพราะต้องแบกความหวังของ ปชช.ต่อไป

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ในพรรคจะมีการล่ารายชื่อปลด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและเลขาธิการพรรค ว่า ข่าวที่ปรากฏออกมานั้นเป็นแค่ข่าวปล่อย พรรคตั้งมา 60-70 ปี พรรคมีวินัย พรรคมีอะไรก็คุยกันในพรรค แต่เข้าใจว่าเวลานี้มีคนพยายามทำข่าวให้พรรคแตกแยก แต่ก็ป่วยการที่พรรคจะต้องออกมาชี้แจงทุกวัน ยืนยันได้ว่า พรรคไม่ได้มีปัญหา คนในพรรคเองทุกคนก็รู้ว่าพรรคมีบทบาทในการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นพรรคทำอะไรก็อยู่ภายใต้ ความคาดหวังของประชาชน ถ้าเราทำให้ประชาชนเสื่อมเสียความคาดหวังก็มีผลกระทบต่อพรรค ทุกคนในพรรคก็รู้ดี มีคนที่แน่นอน ที่ต้องการเห็นพรรคมีปัญหา แต่ข้อเท็จจริงก็เป็นข้อเท็จจริง ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกรณี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กับ นายวัชระ เพชรทอง นั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ก็เป็นผู้นัดว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ พรรคควรจะคุยกัน ซึ่งก็มีการคุยกันแล้วด้วย โดยมีข้อยุติระดับหนึ่งในพรรคแล้ว

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า การที่ นายชาญชัย เองก็ออกมาระบุว่าจะล่ารายชื่อปลด เป็นเพียงความเห็นของนายชาญชัย แต่ในพรรคทุกคนรู้ดีว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและแบกความหวังของคนทั้งประเทศ ในการแก้ไขปัญหา ถ้ามาทำให้เกิดปัญหาเสียเองพรรคก็เสื่อมความนิยม ตนไม่คิดว่า สมาชิกคนอื่นจะทำให้เรื่องนี้เป็นปัญหาขึ้นมาด้วย ในการประชุมพรรคทุกครั้งก็มีการชี้แจงแนวคิดนี้กันทุกครั้ง

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมพรรคแต่ละครั้งก็จะเคลียร์กันไม่เข้าใจจึงทำให้เกิดปัญหา นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะพรรคประกอบด้วยคนจำนวนมาก แต่ที่สุดมันก็ต้องจบลงด้วยเสียงข้างมากของคนในพรรค อย่างไรก็ตาม หากยังมีการออกมาแสดงความเห็นเช่นนี้บ่อยๆ จะต้องกำชับกันอย่างไรนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า จริงๆ ก็โตๆ กันแล้วและเป็น ส.ส.ก็มีความรับผิดชอบ แต่ภายในพรรคความคิดเห็นแต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้

“จริงๆ เวลาประชุมพรรคดุเดือดกว่านี้เยอะ แต่ว่าแนวทางของพรรคก็มีอยู่ เพราะฉะนั้นพรรคเองก็ต้องเคารพความเห็นของสมาชิกทุกคน เวทีของพรรคที่เปิดให้คุยเรื่องรัฐธรรมนูญก็เปิดไปแล้วคุยกันแล้ว ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรค ต่อการทำงานของรัฐบาล ไม่น่าที่จะเป็นปัญหาต่อจุดยืน หรือแนวทางที่นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคประกาศไปแล้ว เรื่องในพรรคคุยกันได้ไม่น่ามีปัญหา ภารกิจหนักใหญ่กว่านั้นคือการแก้ปัญหาประชาชนหนักกว่านี้เยอะ” นายสาทิตย์ กล่าวว่า

เมื่อถามว่า การที่บอกว่าภายในพรรคคุยกันได้ แต่พอหลังประชุมพรรคก็มักจะมีปัญหาออกมาทุกทีทั้งจากรายงานข่าวบ้างแหล่งข่าวบ้าง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องรายงานข่าวอยู่แล้ว เพราะรายงานข่าวไม่รู้รายงานจากไหน จากใคร แต่เป็นเรื่องดี ในการให้สัมภาษณ์ มีการระบุความคิดชัดเจน แต่พรรคที่มีโครงสร้างเป็นประชาธิปไตย อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องจบด้วยการพูดคุยหารือกันและหาความเห็นของเสียงส่วนใหญ่ภายในพรรค

เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญควรจะเป็นฟรีโหวต หรือมติพรรค นายสาทิตย์ กล่าวว่า มี 2 แนว และในรัฐธรรมนูญก็รองรับเรื่องเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคน แต่แนวปฏิบัติของพรรคที่ผ่านๆมาคือการจะทำอะไรก็ต้องหารือกันก่อน ฉะนั้นสมาชิกก็มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวได้ แต่ก็ต้องเป็นความเห็นที่รับผิดชอบต่อแนวคิดของตนเองและต่อสังคมด้วย เพราะพรรคมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรที่จะทำให้คนมีความรู้สึกว่าในพรรคขัดแย้งกัน แนวคิดนี้ ตนยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคที่จะนำไปสู่ความแตกแยก ส่วนจำเป็นที่จะต้องคุยกันนอกรอบนั้น ก็คงไม่จำเป็น

“ทุกเรื่องควรคุยในที่ประชุม ผมเข้าใจว่า อาจจะมีบางฝ่ายที่ต้องการเห็นพรรคแตกแยก คนในพรรคเองก็ต้องมองเห็นในจุดนี้ด้วย เพราะความจริงคนที่วิเคราะห์เรื่องนี้ไว้คือท่านบัญญัติ เป็นคนวิเคราะห์ว่าขณะนี้ยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามในการโจมตีพรรค ก็มี 2 เรื่อง คือ ความพยายามยกว่าพรรคขัดแย้งกัน และเรื่องที่พยายามจะบอกว่ารัฐบาลก็มีทุจริตเยอะ ดังนั้น ในส่วนที่ 1 ก็จะต้องเป็นความรับผิดชอบของคนภายในพรรคที่จะต้องทำให้เห็นเอกภาพภายในพรรคแต่ความเห็นที่ไม่ตรงกันมีได้ แต่ต้องยุติลงด้วยกระบวนการภายใน เพราะประชาธิปัตย์ ตั้งมา 60-70 ปี ไม่มีกระบวนการภายใน ที่มีโครงสร้างที่เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องทุจริตเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องไปแก้ไขปัญหา และการที่บอกว่าต่อรองก็ไม่รู้จะมาต่อรองหาอะไร เพราะไม่มีอะไรให้ต่อรอง” นายสาทิตย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น