ปธ.วิปรัฐบาลข้องใจรอง ปธ.สภาฯ บรรจุกระทู้สดของ “จตุพร” พาดพิงบุคคลภายนอก ทั้งที่ไม่เข้าข้อบังคับ อัด “ตู่” ชินเวที นปช.จึงปรับตัวระบอบสภาไม่ได้ ชี้เจตนารมณ์พรรคเพื่อไทยและ นปช.ต้องการล้มอำมาตยาธิปไตย จึงใช้เวทีกระทู้ของสภาเพื่อเคลื่อนไหว
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังประธานสั่งปิดการประชุมว่า เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขี้น เพราะความจริงกระทู้เรื่องการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีนั้น ประธานและรองประธานสภา และตนได้หารือกันในช่วงเช้าและเห็นว่าไม่น่าจะเข้าข่ายกระทู้สดตามข้อบังคับที่ 143 เพราะเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอก คือองคมนตรี และอาจมีแนวโน้มพาดพิงไปถึงสถาบันด้วย แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงชื่อกระทู้แต่เนื้อหายังคงเดิม ทำให้นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภากลับบรรจุเข้าสู่วาระ ดังนั้น เห็นว่านายสามารถควรจะทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพราะการวินิจฉัยที่ผิดพลาดได้สร้างความเสียหายขึ้น เพราะนายจตุพรก็มีเจตนาที่จะใช้เวทีสภาเป็นเวที นปช. กล่าวพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์
“เป็นที่ชัดเจนว่ากระทู้นี้ตรงกับข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทยและนปช.ที่ต้องการล้มอำมาตยาธิปไตย จึงใช้เวทีกระทู้ของสภาเพื่อเคลื่อนไหว พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องใคร แต่ทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน ไม่ให้ใช้เวทีสภาพาดพิง และเรื่องนี้นายจตุพรควรทบทวนตัวเอง เพราะทุกครั้งที่ลุกขึ้นพูดจะเกิดการประท้วงจนวุ่นวาย แสดงว่าเป็นตัวการของความขัดแย้งใช่หรือไม่ หรืออาจเป็นเพราะนายจตุพรยังปรับตัวกับระบอบรัฐสภาไม่ได้” นายชินวรณ์กล่าว
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนกระทู้ถามสดดังกล่าวหากไม่ได้ถามในสัปดาห์นี้ถือว่าตกไป แต่หากยื่นกลับมาใหม่ก็ต้องพิจารณาว่าถูกข้อบังคับหรือไม่ ส่วนบรรยากาศความวุ่นวาย หรือมีการท้าต่อยกันนั้น ตนยอมรับว่าบางครั้งการตอบโต้ทางการเมือง บางครั้งก็ย่อมมีอารมณ์เกิดขึ้นได้ แต่ไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับชม ส.ส.จึงควรควบคุมสติและอารมณ์ให้อยู่