เตรียมล่ามือมืด แสดงพฤติกรรมถ่อย กรีดรถนักข่าว-ขรก.บนที่จอดรถเขาดิน หลังตรวจกล้องวงจรปิดพบชายสูทฟ้า ติดบัตร ส.ส.ป้วนเปี้ยนบริเวณที่จอดรถเพียงลำพัง ขณะที่ รปภ.เขาดิน แฉท่าน ส.ส.คนนี้มักชอบโวยวายเรื่องที่จอดรถตลอด
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อวันพุธที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกตินั้น ได้เกิดเหตุรถยนต์ของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา และข้าราชการสภา ถูกกรีดเป็นแนวยาวจำนวนหลายคัน บริเวณลานจอดรถสวนสัตว์ดุสิต ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เช่าพื้นที่จอดรถไว้รองรับสมาชิกสภา ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนประจำรัฐสภา สำหรับจอดรถในวันที่มีการประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้สื่อข่าวและข้าราชการที่ถูกกรีดรถต่างสงสัยว่าเป็นฝีมือของผู้ใด เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวใช้เป็นสถานที่จอดรถมานาน และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้มาก่อน จึงได้ติดต่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ลานจอดรถชั้น 2 ของสวนสัตว์เขาดิน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากจุดจอดรถรถของผู้สื่อข่าวอยู่ในมุมมืด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะตรวจสอบให้อีกครั้ง เนื่องจากรถทั้ง 3 คันถูกกรีดในวันเดียวกัน โดยเป็นรถของนักข่าวสาวหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ถูกกรีดบริเวณประตูด้านหลังคนขับ ยาวประมาณ 1 คืบ รถของนักข่าวสาวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถูกกรีดประตูหน้าด้านซ้าย และรถของข้าราชการสภาถูกกรีดบริเวณด้านหลังรถ โดยทั้งหมดถูกกรีดยาวประมาณ 1 คีบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสวนสัตว์ดุสิต ได้เปิดกล้องวงจรปิด กรณีของข้าราชการถูกกรีดในช่วงวันที่ 14 ต.ค.เวลา 12.22 น.พบชายใส่สูทพร้อมติดป้ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มือซ้ายถือร่ม มือขวากำวัตถุบางอย่างเดินเข้ามาบริเวณที่จอดรถของข้าราชการดังกล่าว ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวา หลังจากเห็นว่าไม่มีใคร จึงได้เดินเข้าไปบริเวณด้านหลังของรถข้าราชการ แต่ไม่สามารถมองเห็นว่า ชายใส่สูทดังกล่าวได้กระทำการอะไรหรือไม่ เนื่องจากรถจอดซ้อนคันจึงทำให้มองไม่เห็น โดยชายคนดังกล่าวหายเข้าไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่ชายใส่สูทจะเดินออกมา พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวาแล้วเดินหนีไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน กระทั่งเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกัน พบว่าชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาจอดในชั้นดังกล่าวอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เช่าพื้นที่บริเวณชั้น 2 สำหรับไว้บริการเป็นที่จอดรถของข้าราชการ ส.ส.ส.ว.และสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์ไม่ได้เข้าไปดูแล แต่ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยประจำรัฐสภา ทั้งนี้ บังเอิญว่าในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่บางส่วนเดินทางไปทอดกฐินที่ต่างจังหวัด ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีน้อย แต่ทางสวนสัตว์ก็ได้ดูแลผ่านกล้องวงจรปิด และเหตุการณ์กรีดรถไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสวนสัตว์ดุสิตอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ชายที่พบในกล้องวงจรปิดมักจะมีปัญหาและโวยวายกับเจ้าหน้าที่ตลอดว่าที่จอดรถไม่พอ และปล่อยให้ข้าราชการและสื่อมวลชนที่ไม่มีสติกเกอร์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาจอดได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ชั้น 2 เป็นที่จอดรถของ ส.ส. ส.ว.ข้าราชการและสื่อมวลชน อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ข้าราชการที่ถูกกรีดรถมาจอดตรงที่ชายคนดังกล่าวมาจอดเป็นประจำ
เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวว่า เนื่องจากลานจอดรถดังกล่าวไม่ได้ระบุหมายเลขทะเบียนจอด แต่ได้นำเชือกฟางพร้อมทั้งป้ายติดบอกเท่านั้นว่าเป็นที่จอดรถบริการเฉพาะ ส.ส. ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนเท่านั้น ใครมาถึงก่อนมีสิทธิ์จอดทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส. ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนที่ที่สามารถนำรถไปจอดในลานจอดรถของสวนสัตว์เขาดินต้องมีสติ๊กเกอร์อนุญาตจอดจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทุกคัน โดย ส.ส. ส.ว.จะเป็นสติกเกอร์สีแดง ส่วน สื่อมวลชน และข้าราชการ จะเป็นสติกเกอร์สีเขียว
ด้านผู้สื่อข่าวสาวที่ถูกกรีดรถคันหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุผู้อำนวยการกองงานสถานที่ของรัฐสภา ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจะขอไปตรวจสอบกล้องวงจรผิดอีกครั้งหนึ่งว่าชายดังกล่าวเป็นใคร เพื่อที่จะได้เรียกตัวมาคุย หากพบว่าได้กระทำจริงแนะนำให้ตนและผู้หายคนอื่นเรียกร้องค่าเสียหายได้ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดนี้ เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ดูแลอย่างดี แต่วันที่เกิดเหตุการณ์ทราบมาว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเดินทางไปทอดกฐินหลวงของรัฐสภา จึงเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะที่จอดรถดังกล่าวได้มีการกันพื้นที่จอดรถไว้อยู่แล้ว
ขณะที่ นายทวีเกียรติ เชาวลิตถวิล ผอ.สำนักงานรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวจะขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีใครอยู่ในข่ายที่ต้องสงสัยอีกครั้ง โดยจะดูให้รอบคอบทุกจุด หากพบว่ามี ส.ส.กระทำผิดจริง จะได้เชิญมาดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดด้วย หากเป็นการกระทำของ ส.ส.จริง จะได้เจรจารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเพราะเกี่ยวข้องกับผู้สื่อข่าว และ ส.ส.
วันนี้ (22 ต.ค.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อวันพุธที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกตินั้น ได้เกิดเหตุรถยนต์ของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา และข้าราชการสภา ถูกกรีดเป็นแนวยาวจำนวนหลายคัน บริเวณลานจอดรถสวนสัตว์ดุสิต ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เช่าพื้นที่จอดรถไว้รองรับสมาชิกสภา ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนประจำรัฐสภา สำหรับจอดรถในวันที่มีการประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้สื่อข่าวและข้าราชการที่ถูกกรีดรถต่างสงสัยว่าเป็นฝีมือของผู้ใด เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวใช้เป็นสถานที่จอดรถมานาน และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้มาก่อน จึงได้ติดต่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ลานจอดรถชั้น 2 ของสวนสัตว์เขาดิน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากจุดจอดรถรถของผู้สื่อข่าวอยู่ในมุมมืด โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะตรวจสอบให้อีกครั้ง เนื่องจากรถทั้ง 3 คันถูกกรีดในวันเดียวกัน โดยเป็นรถของนักข่าวสาวหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ถูกกรีดบริเวณประตูด้านหลังคนขับ ยาวประมาณ 1 คืบ รถของนักข่าวสาวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถูกกรีดประตูหน้าด้านซ้าย และรถของข้าราชการสภาถูกกรีดบริเวณด้านหลังรถ โดยทั้งหมดถูกกรีดยาวประมาณ 1 คีบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสวนสัตว์ดุสิต ได้เปิดกล้องวงจรปิด กรณีของข้าราชการถูกกรีดในช่วงวันที่ 14 ต.ค.เวลา 12.22 น.พบชายใส่สูทพร้อมติดป้ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มือซ้ายถือร่ม มือขวากำวัตถุบางอย่างเดินเข้ามาบริเวณที่จอดรถของข้าราชการดังกล่าว ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวา หลังจากเห็นว่าไม่มีใคร จึงได้เดินเข้าไปบริเวณด้านหลังของรถข้าราชการ แต่ไม่สามารถมองเห็นว่า ชายใส่สูทดังกล่าวได้กระทำการอะไรหรือไม่ เนื่องจากรถจอดซ้อนคันจึงทำให้มองไม่เห็น โดยชายคนดังกล่าวหายเข้าไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่ชายใส่สูทจะเดินออกมา พร้อมทั้งมองซ้ายมองขวาแล้วเดินหนีไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน กระทั่งเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกัน พบว่าชายคนดังกล่าวได้ขับรถมาจอดในชั้นดังกล่าวอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เช่าพื้นที่บริเวณชั้น 2 สำหรับไว้บริการเป็นที่จอดรถของข้าราชการ ส.ส.ส.ว.และสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสวนสัตว์ไม่ได้เข้าไปดูแล แต่ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยประจำรัฐสภา ทั้งนี้ บังเอิญว่าในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่บางส่วนเดินทางไปทอดกฐินที่ต่างจังหวัด ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีน้อย แต่ทางสวนสัตว์ก็ได้ดูแลผ่านกล้องวงจรปิด และเหตุการณ์กรีดรถไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสวนสัตว์ดุสิตอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ชายที่พบในกล้องวงจรปิดมักจะมีปัญหาและโวยวายกับเจ้าหน้าที่ตลอดว่าที่จอดรถไม่พอ และปล่อยให้ข้าราชการและสื่อมวลชนที่ไม่มีสติกเกอร์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาจอดได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ชั้น 2 เป็นที่จอดรถของ ส.ส. ส.ว.ข้าราชการและสื่อมวลชน อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ข้าราชการที่ถูกกรีดรถมาจอดตรงที่ชายคนดังกล่าวมาจอดเป็นประจำ
เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวว่า เนื่องจากลานจอดรถดังกล่าวไม่ได้ระบุหมายเลขทะเบียนจอด แต่ได้นำเชือกฟางพร้อมทั้งป้ายติดบอกเท่านั้นว่าเป็นที่จอดรถบริการเฉพาะ ส.ส. ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนเท่านั้น ใครมาถึงก่อนมีสิทธิ์จอดทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส. ส.ว.ข้าราชการ และสื่อมวลชนที่ที่สามารถนำรถไปจอดในลานจอดรถของสวนสัตว์เขาดินต้องมีสติ๊กเกอร์อนุญาตจอดจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทุกคัน โดย ส.ส. ส.ว.จะเป็นสติกเกอร์สีแดง ส่วน สื่อมวลชน และข้าราชการ จะเป็นสติกเกอร์สีเขียว
ด้านผู้สื่อข่าวสาวที่ถูกกรีดรถคันหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุผู้อำนวยการกองงานสถานที่ของรัฐสภา ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจะขอไปตรวจสอบกล้องวงจรผิดอีกครั้งหนึ่งว่าชายดังกล่าวเป็นใคร เพื่อที่จะได้เรียกตัวมาคุย หากพบว่าได้กระทำจริงแนะนำให้ตนและผู้หายคนอื่นเรียกร้องค่าเสียหายได้ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดนี้ เพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ดูแลอย่างดี แต่วันที่เกิดเหตุการณ์ทราบมาว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเดินทางไปทอดกฐินหลวงของรัฐสภา จึงเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะที่จอดรถดังกล่าวได้มีการกันพื้นที่จอดรถไว้อยู่แล้ว
ขณะที่ นายทวีเกียรติ เชาวลิตถวิล ผอ.สำนักงานรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวจะขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ชัดเจนอีกครั้งว่ามีใครอยู่ในข่ายที่ต้องสงสัยอีกครั้ง โดยจะดูให้รอบคอบทุกจุด หากพบว่ามี ส.ส.กระทำผิดจริง จะได้เชิญมาดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดด้วย หากเป็นการกระทำของ ส.ส.จริง จะได้เจรจารับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเพราะเกี่ยวข้องกับผู้สื่อข่าว และ ส.ส.