xs
xsm
sm
md
lg

สภาถกเครียด หาข้อสรุป กม.วิธีพิจารณาศาล รธน.ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าว
สภาถกเครียด หาข้อสรุป กม.วิธีพิจารณาศาล รธน.ไม่ได้ จน “ปู่ชัย” ต้องสั่งเบรกการประชุม เพราะปวดหัวกับ “ส.ส.เพื่อแม้ว” ที่ทำตัวป่วน เอะอะจะขอเสนอนับองค์ประชุมอย่างเดียว ไม่สนอย่างอื่น โดยพอครบกำหนดเวลาพัก กลับเข้าห้องประชุมก็ยังคงเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียดเหมือนเดิม จึงหาข้อยุติไม่ได้

วันนี้ (21 ต.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้เสนอมาตามที่คณะกรรมาธิการสามัญฯพิจารณาเสร็จสิ้น ต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมาค้างในมาตรา 3 เกี่ยวกับนิยามซึ่งคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากได้แก้ไขจากว่า “คดี” เป็น “เรื่องพิจารณา” โดยในซีกฝ่ายค้าน ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ต่างอภิปรายสนับสนุน เห็นด้วยกับการแก้ไขดังกล่าว ขณะที่ซีกรัฐบาล ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นเสียงข้างน้อยกลับอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข โดยขอให้กลับไปใช้ตามร่างเดิมที่มีศาลรัฐธรรมนูญเสนอไว้และพยายามขอปิดอภิปราย

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย อภิปรายเห็นด้วยในการวุฒิสภาแก้ไขคำว่าคดีเป็นเรื่องพิจารณา โดยจะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่อง กกต.หากใช้คำว่าคดีก็จะเหมือนศาลทั่วไป ต้องเขียนให้คนทั่วไปได้ใช้ ดังนั้น ควรใช้เรื่องพิจารณา มิฉะนั้น จะเป็นตราบาปหากมีการใช้คดี ซึ่งใน กมธ.เห็นด้วย กับเสียงข้างมากว่าไม่ควรใช้คำว่าคดีเพราะบางเรื่อง ยังไม่เป็นคดี

ด้าน นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เสนอให้คณะกรรมาธิการฯ ถอนร่างกลับไปพิจารณาใหม่ เพราะเขียนนิยามดังกล่าวไม่ชัดเจน เพราะศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันมีลักษณะเหมือนศาลพิเศษ ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการพิจารณาคดีที่ผ่านมา และร่างกฎหมายนี้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้เสนอเอง หากสภาดึงดันใช้เสียงข้างมากลากให้ผ่าน จะไม่สง่างาม แต่ทุกฝ่ายควรมาเห็นสอดคล้องกัน

ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปรัฐบาล ได้ขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านว่าร่างฉบับนี้ แม้กรรมาธิการเสียงข้างมากและกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เห็นต่างในหลายมาตรา แต่หากให้คณะกรรมาธิการฯถอนร่างออกไป แล้วเสนอเข้ามาใหม่ อาจไม่ทันพิจารณา ก่อนปิดสมัยประชุมวันที่28พ.ย.นี้จึงควรช่วยกันพิจารณาให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านไป

ทั้งนี้ หลังใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากแก้ไขในมาตรา 3 ด้วยเสียง 226 ต่อ 138 ไม่ลงคะแนน 7เสียง

จากนั้นได้เริ่มพิจารณาในมาตรา 4 โดยคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากได้แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับให้อำนาจประธานศาลรัฐธรรมนูญออกข้อกำหนดของศาล จากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นให้ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร

บรรยากาศการอภิปรายยังเป็นในทำนองเดียวกัน ซีกรัฐบาลให้คงไว้ตามร่างเดิม แต่ซีกฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยเพราะกระบวนการพิจารณา ควรผ่านฝ่ายนิติบัญญัติตัวแทนของประชาชน หลังอภิปรายใช้เวลานานพอสมควร ส.ส.รัฐบาลได้ลุกเสนอขอปิดอภิปราย ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุม ในที่สุดผลนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีเสียงในห้องประชุม 243 เสียง แต่ฝ่ายค้านยังข้องใจ อ้างเสียงเกินกึ่งหนึ่งไม่ถึง25เสียง จึงขอเสนอให้นับองค์ประชุมใหม่ด้วยการขานชื่อ นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯทำหน้าที่ กำลังจะดำเนินการให้นับแบบขานชื่อ แต่ได้มีการถกเถียงกันจนหาข้อยุติไม่ได้ ทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯขึ้นทำหน้าที่ จึงได้สั่งพักประชุม 5 นาที

ต่อมาเวลา 19.10 น. เมื่อเริ่มประชุมอีกครั้ง นายชัย ได้ข้อหารือว่าเมื่อปัญหาเกิดขึ้นในสภาจะต้องใช้สภาในการแก้ไข จึงขอปรึกษาขอให้ที่ประชุมชี้ขาดอีกครั้งปรากฏว่ายังมีการถกเถียงต่อเนื่องเหมือนนาน 1ชั่วโมงยังหาข้อสรุปไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น