“เพื่อไทย” ประชุมวิเคราะห์การเมือง เชื่อ ปชป.อยากแก้ รธน. เหตุกลัวถูกยุบพรรค เผยตารางเดินสายสัมมนา-รณรงค์ทวงคืน รธน.40 ปลาย ต.ค. ด้าน “ประชา” ล่วงเกิน “ป๋าเปรม” พรรคน่ารังเกียจมากหรือ
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมคณะปฏิบัติการการเมือง โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน มีตัวแทนส.ส.แต่ละภาคเข้าร่วมประชุมด้วย เช่น นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ นายชวลิต วิชยสุทธ์ ส.ส.สัดส่วน นอกจากนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เห็นความไม่จริงใจของพรรคประชาธิปัตย์ที่กลับไปกลับมาตามความต้องการกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ ทหาร และพรรคร่วมรัฐบาล เงื่อนไขต่างๆ ที่ออกมาเป็นระยะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ หรือการทำประชามติล้วนเป็นการทำเพื่อซื้อเวลาเท่านั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เอาด้วยพรรคประชาธิปัตย์จึงได้โอกาสที่จะล้มโต๊ะ อย่างไรก็ตาม ท่าทีล่าสุดของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่ายในพรรคตัวเอง โดยกลุ่มหนึ่งไม่อยากให้แก้ไขส่วนอีกกลุ่มที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทราบมาว่าเพราะพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกยุบจากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและเงินสนับสนุนจาก กกต.29 ล้านที่อนุกรรมการ กกต.จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ในต้นเดือน พ.ย. ทำให้ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่แปลกออกไป เหมือนกับอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ห้ามยุบพรรคการเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวล ทั้งนี้ หาก กกต.ตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์จริง กระบวนการต่างๆ จะต้องใช้เวลาอีกนาน ถ้ารัฐบาลตัดสินใจแก้รัฐธรรมนูญก็จะทันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้น ทุกกระบวนการของสภาฯที่กำลังจะทำในขณะนี้เราจะไม่ไปร่วม ปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการไปเอง พรรคเพื่อไทยจะออกไปรณรงค์ต่อประชาชนในการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ ไม่ยอมรับในทุกสิ่งทุกอย่างของรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะมีการยุบพรรคที่ประชาชนศรัทธาไปถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้พรรคจะจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.เป็นต้นไป
ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาเตือน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าหากทำไม่ดีจะเหมือนเป็นการทรยศชาติบ้านเมืองว่า อยากถาม พล.อ.เปรม ว่าพรรคเพื่อไทยมันน่ารังเกียจมากหรืออย่างไร พล.อ.เปรม ควรให้กำลังใจ พล.อ.ชวลิต ในฐานะทหารแก่ไม่มีวันตายเหมือนกัน และควรให้กำลังใจเพื่อนรักเพื่อนเก่า อวยพรให้ไปเป็นโซ่ข้อกลาง อย่ามองหรือมีอคติกับพรรคเพื่อไทย มองในแง่ชั่วร้ายตลอดเวลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ท่านชื่นชอบวันนี้ก็เห็นแล้วว่าไปสร้างหนี้กู้เงินมาทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจและความสมานฉันท์ก็แก้ไขไม่ได้ ส่วนตัวแล้วยังสงสัยด้วยว่าเหตุใดคนที่ร่วมลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงออกมาโจมตี พล.อ.เปรมเพียงคนเดียว ไม่โจมตีองคมนตรีคนอื่นเลย ไม่รู้ไปทำอะไรให้เขาเครียดแค้นหรือปล่า
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมคณะปฏิบัติการการเมือง โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน มีตัวแทนส.ส.แต่ละภาคเข้าร่วมประชุมด้วย เช่น นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ นายชวลิต วิชยสุทธ์ ส.ส.สัดส่วน นอกจากนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เห็นความไม่จริงใจของพรรคประชาธิปัตย์ที่กลับไปกลับมาตามความต้องการกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ ทหาร และพรรคร่วมรัฐบาล เงื่อนไขต่างๆ ที่ออกมาเป็นระยะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ หรือการทำประชามติล้วนเป็นการทำเพื่อซื้อเวลาเท่านั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เอาด้วยพรรคประชาธิปัตย์จึงได้โอกาสที่จะล้มโต๊ะ อย่างไรก็ตาม ท่าทีล่าสุดของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่ายในพรรคตัวเอง โดยกลุ่มหนึ่งไม่อยากให้แก้ไขส่วนอีกกลุ่มที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทราบมาว่าเพราะพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกยุบจากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและเงินสนับสนุนจาก กกต.29 ล้านที่อนุกรรมการ กกต.จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ในต้นเดือน พ.ย. ทำให้ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่แปลกออกไป เหมือนกับอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ห้ามยุบพรรคการเมือง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวล ทั้งนี้ หาก กกต.ตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์จริง กระบวนการต่างๆ จะต้องใช้เวลาอีกนาน ถ้ารัฐบาลตัดสินใจแก้รัฐธรรมนูญก็จะทันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้น ทุกกระบวนการของสภาฯที่กำลังจะทำในขณะนี้เราจะไม่ไปร่วม ปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการไปเอง พรรคเพื่อไทยจะออกไปรณรงค์ต่อประชาชนในการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ ไม่ยอมรับในทุกสิ่งทุกอย่างของรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะมีการยุบพรรคที่ประชาชนศรัทธาไปถึง 2 ครั้ง นอกจากนี้พรรคจะจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.เป็นต้นไป
ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาเตือน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าหากทำไม่ดีจะเหมือนเป็นการทรยศชาติบ้านเมืองว่า อยากถาม พล.อ.เปรม ว่าพรรคเพื่อไทยมันน่ารังเกียจมากหรืออย่างไร พล.อ.เปรม ควรให้กำลังใจ พล.อ.ชวลิต ในฐานะทหารแก่ไม่มีวันตายเหมือนกัน และควรให้กำลังใจเพื่อนรักเพื่อนเก่า อวยพรให้ไปเป็นโซ่ข้อกลาง อย่ามองหรือมีอคติกับพรรคเพื่อไทย มองในแง่ชั่วร้ายตลอดเวลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ท่านชื่นชอบวันนี้ก็เห็นแล้วว่าไปสร้างหนี้กู้เงินมาทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจและความสมานฉันท์ก็แก้ไขไม่ได้ ส่วนตัวแล้วยังสงสัยด้วยว่าเหตุใดคนที่ร่วมลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงออกมาโจมตี พล.อ.เปรมเพียงคนเดียว ไม่โจมตีองคมนตรีคนอื่นเลย ไม่รู้ไปทำอะไรให้เขาเครียดแค้นหรือปล่า