xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” อึ้ง ลูกพรรคนับร้อยไม่เอาด้วยแก้ รธน. แต่อ้างไม่ขัดแย้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“หัวหน้ามาร์ค” งงลูกพรรคประชาธิปัตย์นับร้อยไม่เอาด้วยแก้ รธน. แต่ยังอ้างไม่ได้ขัดแย้ง ยันในที่ประชุมพรรคส่วนใหญ่เห็นด้วยแก้ รธน. บอกอย่าเพิ่งตื่นตูมให้รอร่างก่อน เชื่อหากประชามติออกมาอย่างไร พรรคร่วมรับได้ ไม่เห็นด้วยจำกัดสิทธิ์ถามประชาชนเอาฉบับปี 40 หรือ 50



วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ร่วมลงชื่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญกว่า 100 คน ว่าเวลานี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะไปลงชื่ออะไร เวลานี้เป็นเรื่องที่สภาไปดำเนินการยกร่างตามมติของคณะกรรมการสมานฉันท์ตามที่ 3 ฝ่ายได้ตกลงกันไว้ยังไม่มีประเด็นที่ต้องไปลงชื่ออะไร

เมื่อถามว่าท่าทีของ ส.ส.ในพรรคดูเหมือนจะขัดแย้งกับท่าที่นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรขัดแย้งวันนั้นก็คุยกัน ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคได้พูดเรื่องรัฐธรรมนูญ และได้ทบทวนประเด็นต่างๆ ที่จะแก้ไข พรรคมีความคิดเห็นอย่างไร และก็มีความคิดเห็นเหมือนเดิมเท่าที่มีการอภิปรายกันในวันนั้นก็เท่านั้นเอง และขั้นตอนระหว่างนี้เป็นขั้นตอนที่สภาไปดำเนินการตามมติของ 3 ฝ่าย เสร็จแล้วจึงมาถึงขั้นการทำประชามติ พอถึงจุดที่ทำประชามติก็เป็นเรื่องที่พรรคสามารถแสดงความเห็นได้ นี่เป็นแนวทางที่กำหนดไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงว่าพอถึงจุดที่การแสดงความเห็นในการทำประชามติไม่ใช่ว่าพรรคจะสนับสนุนการทำประชามติทั้ง 6 ประเด็น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แต่ละพรรคแต่ละคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตนอย่างเป็นอิสระ โดยเฉพาะในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เคยสนับสนุนอย่างไรไว้ก็ต้องยืนยันอย่างนั้น เช่น อย่างตนที่พูดมาตลอดว่ามีความเห็นว่าเขตใหญ่ดีกว่าเขตเล็ก จะให้ตนไปรณรงค์ว่าเขตเล็กดีกว่าเขตใหญ่ตนก็ไม่ทำ ตนก็จะบอกว่าเขตใหญ่ดีกว่าอย่างไรเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่าต้องไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวนี้หรือไม่ นายอภสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าวันนั้นอยู่ในที่ประชุมก็น่าจะเข้าใจ และวันนั้นก็ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นที่เป็นปัญหาความขัดแย้งอะไร แต่ถ้าไปถามความคิดเห็น ส.ส.อยากแก้ไม่อยากแก้ ก็ได้ความเห็นหลากหลาย เมื่อถามว่าทำไมมีข่าวว่ากว่าร้อยคนในพรรคไม่เห็นด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่านับร้อยคนอย่างไร

เมื่อถามว่าแสดงว่า 6 ประเด็นนี้ทุกพรรคไม่ต้องไปรณรงค์เพื่อให้ผ่านการประชามติ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ จะไปบังคับให้แต่ละคนแต่ละพรรคจะมีความเห็นตามนี้ ซึ่งแต่ละคนสามารถไปบอกกับประชาชนได้ว่าตัวเองคิดเห็นอย่างไร ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน สิ่งที่เราได้พูดในพรรคคือว่าในกระบวนการที่เหมาะสมในการสมานฉันท์คือถ้าเรายึดว่าประชาชนตัดสินใจอย่างไร เราก็มาช่วยกันทำให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของประชาชนก็น่าจะเป็นเริ่องที่เหมาะสม

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการรณรงค์การทำประชามติไปแนวทางเดียวกันหรือต่างคนต่างรณรงค์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คิดว่าจะรอดูตัวร่างให้เรียบร้อยก่อน และพรรคจะมีปรึกษากันอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่าแสดงว่าขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ชั้นประชามติโดยไม่มีการนำเข้าสู่สภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าประชาชนบอกไม่แก้จะแก้ได้อย่างไร อันนี้คือหลักของประชามติคือต้องการไปสอบถามว่าจะแก้ดีหรือไม่ ถ้าประชาชนบอกไม่แก้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเดินหน้าแก้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลยอมรับตามแนวทางนี้จะไม่มาเรียกร้องให้แก้ไขถ้ามีผลจากประชามติแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนก็คิดว่าทุกคนก็น่าจะเคารพมติของประชาชน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านการประชามติมาแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ตนจึงเห็นว่าจะแก้ไขอะไรต้องผ่านประชามติเสียก่อน เมื่อถามว่าผ่านมา 2 ปีนักการเมืองก็ไม่เคารพประชามติแล้วก็พยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วจะมั่นใจอย่างไรว่าการทำประชามติครั้งนี้ออกมาอย่างไรแล้วจะเคารพ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องพูดด้วยความเป็นธรรมว่าการทำประชามติในปี 2550 ตนเป็นคนหนึ่งที่ลงประชามติแล้วบอกว่ารับ และพูดตลอดว่าตนรับเพราะเชื่อว่าน่าจะมีการแก้ไขในบางประเด็น ฉะนั้นจะบอกว่าการรับแปลว่าไม่ให้มีการแก้ไข คงเป็นข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง เพียงแต่ว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งผ่านประชามติมา ตนเห็นว่าควรให้ประชาชนยืนยันเจตนารมณ์ว่าจะแก้ในประเด็นนั้นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตนไม่สนับสนุนการไปถามประชาชนว่าจะแก้ไขหรือไม่เฉยๆ เพราะว่าเราจะไม่มีทางทราบเลยว่าประชาชนต้องการให้แก้ไขในประเด็นใด และจะถูกบิดเบือนว่าประชาขนอยากให้แก้เรื่องหนึ่ง กลับไปแก้เรื่องหนึ่ง และไม่เห็นด้วยกับการไปจำกัดสิทธิ์ของประชาชนว่าต้องเลือกระหว่างรัฐธรรมนูญปี 40 กับ 50 ตนคิดว่ารัฐธรรมนูญในภาพรวมประชาชนได้มีมติรับเพื่อให้มีการเลือกตั้ง กระบวนการเดินมาได้ถึงวันนี้ เมื่อมีความจำเป็นจะแก้ไขอะไร ก็ไปปรับปรุงในประเด็นที่เห็นว่าเหมาะสม โดยสอบถามความเห็นประชาชนก่อน ก็น่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะหาเอกภาพในเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วเมื่อวันอังคารก็ได้มีการเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นต่อทั้ง 6 ประเด็น บางประเด็นเสียงส่วนใหญ่ก็เห็นว่าควรแก้ บางประเด็นก็เห็นว่าไม่ควรแก้ อย่างที่ตนบอกว่าต้องดูร่างทั้ง 6 ร่างเสียก่อน และถ้ามีการเดินหน้าจัดทำประชามติ แต่ละพรรคไปกำหนดจุดยืนในการรณรงค์ได้

เมื่อถามว่าเงิน 2,000 ล้านบาท ที่ต้องเสียไปกับการทำประชามติจะไม่สูญเปล่าหรือไม่ เพราะอาจจะมีผลตามมาอยู่ดี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีก่อนทำประชามติก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น