“นายกรัฐมนตรี” เผยไต๋ หากฝ่ายค้านกลับลำไม่ร่วมสังฆกรรมแก้ รธน.ก็ไม่มีเหตุผลที่จะดันทุรังเพราะสมานฉันท์ไม่เกิด ยืนยันต้องทำประชามติเพื่อให้ภาค ปชช.เป็นผู้ตัดสิน ระบุไม่ได้พยายามซื้อเวลาตามข้อกล่าวหา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอภภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่หนุนการทำประชามติการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่ชัดเจน เพราะตนยังพบกับสมาชิกฝ่ายค้านหลายคนในช่วงที่มีการประชุมสภาฯ ก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนอย่างนั้น และมันเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลอยู่แล้วในการจัดทำประชามติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเองก็ยอมรับ อยู่ที่กรอบเวลาเท่านั้น ล่าสุดเนื่องจากต้องมีการยกร่าง ถึงแม้จะทำประชามติก็ต้องยกร่าง เพื่อให้ประชาชนเห็น เขาขอเวลาไปถึงต้นเดือนพฤศจิกายนระหว่างนี้ ยังพอมีเวลาที่จะทำความเข้าใจในขั้นตอนได้อีกที
ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วพรรคเพื่อไทยใครจะมีอำนาจตัดสินใจสูงสุดแล้วมาคุยให้จบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อันนี้เป็นปัญหาภายในของเขา ตนไม่ก้าวล่วง และเราต้องยึดถือระบบของวิป เพราะถือว่าเขาเป็นตัวแทนที่มาประสานงานกับวุฒิสภา เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคเพื่อไทยเสียงแตกจะส่งผลกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนุญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ต้องดู ต้องไปบริหารจัดการว่าจะเอาอย่างไร วิปเขาต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านยังยืนกรานไม่เอาประชามติ หากจะทำต้องมีการเปรียบข้อดีข้อเสียรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 เท่านั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ คือมันตกลงกันไปแล้ว ไม่งั้นถ้าจะมาเริ่มปี 40 หรือปี 50 จะไปยาวกลายเป็นว่าเป็นการไปถ่วงเวลาเสียอีก เพราะทั้ง 40 และ 50 มีข้อบกพร่อง ทุกคนก็ยอมรับอยู่แล้ว ทำไมแทนที่เราจะเอาสิ่งที่ดีที่สุด เป็นไปได้ เป็นที่ยอมรับ แล้วกลับไปเอาสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่ามีข้อบกพร่องทั้ง 40 และ 50 ตนมองไม่เห็นเหตุผลหรอก
เมื่อถามว่า นายกฯ มองว่าฝ่ายค้าน มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นคำถามที่พรรคเพื่อไทยคงต้องตอบว่า เมื่อมีกระบวนการสมานฉันท์ ซึ่งเกิดขึ้นมาโดยสภาแล้วเดินหน้าไป แล้วมีข้อตกลงกันทำไม ถึงจะไม่ดำเนินการในลักษณะนั้น เมื่อถามว่ามองว่าตอนนี้มีความเป็นไปได้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ก็เดินหน้าทำงานต่อ เพราะทางวิปและทางรัฐบาลก็ขอให้ประธานทางรัฐบาล ก็ขอให้ประธานสภาตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อยกร่างและวิป 3 ฝ่ายก็จะคุยกันต่อ
เมื่อถามว่าในส่วนภาคประชาชนโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนจะพยายามทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มว่า ข้อยุติขณะนี้จะไปจบอยู่ที่ประชาชน ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ฉะนั้นเราก็น่าจะเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลพยายามซื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์กล่าวย้อนว่า จริงๆ หากฝ่ายค้านไม่เปลี่ยนใจมันก็เร็วกว่านี้ ตอนนี้ที่ช้า ช้าเพราะฝ่ายค้าน ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเลย เมื่อย้ำถามว่า ไม่ได้เป็นการซื้อเวลาอย่างที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังมองไม่เห็นว่าไปซื้อเวลาตรงไหน มีแต่ตนเป็นฝ่ายเร่งรัดให้มีความชัดเจนและก็ทำอยู่
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วย รัฐบาลมีแนวทางดำเนินการต่อไปอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้เขายังไม่ได้ว่าอย่างนั้นนี่ ตอนนี้ก็ยังมาประชุมวิปอยู่ เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านไม่เอาด้วยเสียงรัฐบาลและเสียงวุฒิจะเพียงพอหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่สอดคล้องกัน ไม่ชัดเจน ก็ไม่ต้องดำเนินการหรอก เพราะที่ดำเนินการทั้งหมด เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ถ้าเดินแล้วขัดแย้งก็ไม่ เมื่อถามย้ำว่า หากหาข้อตกลงกันไม่ได้ จะไม่เดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นาอยภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมก็คิดว่าหาเหตุผลยากที่จะเดินหน้าต่อ ถ้าหากฝ่ายพันธมิตรคัดค้าน ฝ่ายค้านคัดค้านจะไปทำ ทำไม่ละครับ”
เมื่อถามว่า สรุปว่าถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่สำเร็จก็หมายความเกิดจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นาอยภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้อุปสรรค์อยู่ที่ว่าจะยอมรับตามที่เคยตกลงกันวันที่มาคุยกันที่ทำเนียบหรือไม่ ถ้ายอมรับก็เดินต่อ แต่ถ้าเดินต่อก็บอกแล้วว่าอาจจะเป็น 9 เดือนเสร็จ ก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่มันก็จะช้าออกไปอีก “มันไม่ได้ช้าที่รัฐบาลเลยนะตอนนี้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
