xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอยทุจริต สตช.ยุค “ป๊อด” “อีจ๋อย”อมงบคอมพ์ 294 ล้าน (ตอน1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ขุดคุ้ยเท่าไรก็ไม่จบ แตะตรงไหนก็เจอกับปัญหาการทุจริตไร้ขีดจำกัดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยุคอัปยศที่ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” เป็น ผบ.ตร.

แถมกลิ่นคาวที่ฉาวโฉ่สร้างความอดสูให้กับผู้คนในวงการสีกากี ก็ล้วนแต่เป็นตัวละครเดิมที่กินมูมมาม โดยไม่เคยคิดแปรงฟันล้างปาก ขจัดคราบไคลความไม่ชอบมาพากล จนทิ้งร่องรอยให้ตามต่อได้ไม่ยาก

ล่าสุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อดรนทนไม่ไหว ร่อนหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร. ในขณะรักษาการแทน ผบ.ตร. ลงวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา

ขอให้ระงับการประมูล“โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศสถานีตำรวจ” มูลค่าโครงการสูงถึง 294,350,000 บาท

เหตุผลที่ทำให้ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ต้องร้องเรียนให้ระงับโครงการดังกล่าวเป็นเพราะ “มีการละเมิดสัญญา” เพื่อนำไปสู่การแสวงหาประโยชน์จากโครงการดังกล่าว

ที่มาของโครงการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ สถานีตำรวจ โดยใช้งบประมาณจากปี 2550 จำนวน 57,280,000 บาท และงบประมาณปี 2551 จำนวน 236,530,000 บาท ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นที่ปรึกษาโครงการ ตามสัญญาเลขที่ พธ.52/2550 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2550 จำนวน3,000,000 บาท เพื่อกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศสถานีตำรวจ (TOR)

ด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จึงกลายเป็น “ก้างชิ้นโต” ขัดขวางการงาบไม่ให้เป็นไปอย่างสะดวก

จึงต้องขจัดให้พ้นทาง เพื่อให้มีการร่าง TOR เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางรายที่ “ล็อก” กันไว้ล่วงหน้าแล้ว

โดยหลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการตามสัญญา ส่งมอบเอกสารรายละเอียดร่าง TOR ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ประกอบในการประกาศประกวดราคา ตามระเบียบ ปรากฏว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ให้เป็น

“ประธานคณะกรรมการบริหารคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ได้สั่งการให้กำหนดรายละเอียด TOR ขึ้นใหม่ และยังเปลี่ยนแปลง แก้ไขรายละเอียด TOR ของที่ปรึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมีเจตนาส่อไปในทางทุจริตและแสวงผลประโยชน์ ซึ่งมีลักษณะที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะ และเป็นการกีดกั้นการเสนอราคารายอื่น อันเป็นการกระทำที่มีความผิดต่อพ.ร.บ. ความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 9,10 และ 11 ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ

คำถามที่เกิดขึ้นคือ เหตุใด พล.ต.ท.บุญเรือง จึงไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่ ที่ปรึกษาเสนอ ทั้งที่เสียเงินว่าจ้างถึง 3 ล้านบาท มีแรงจูงใจอะไรเป็นพิเศษในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด TOR ซึ่งถือเป็นการละเมิดสัญญาที่มีต่อทางมหาวิทยาลัย ที่มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้วย

มีคำอธิบายได้อย่างเดียวจากเหตุไม่ชอบมาพากลนี้คือ ใครบางคนคงได้ประโยชน์จากการฉีก TOR ของที่ปรึกษา แล้วมาใช้ “TOR ฉบับอีจ๋อย” แทน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวมีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ค้าบางราย
 
และยังมีการลดขนาดโครงการ โดยไม่มีการปรับกรอบวงเงินงบประมาณ

อีกทั้งการประชาพิจารณ์สองครั้งที่ผ่านมาก็ทำอย่างเร่งรีบ ผิดวิสัยการทำงานสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงกว่าสองร้อยล้านบาท นอกจากนี้การประชาพิจารณ์ครั้งแรกมีผู้ยื่นประชาพิจารณ์ถึง 8 ราย แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณาชี้แจง

แม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ เช่น IBM ซึ่งมีการร้องเรียนว่า ถูกกีดกันทางการค้าตามมาในภายหลังด้วย

ที่สำคัญคือ มีการรวบรัดเปิดประมูลอย่างเร่งรีบ เพื่อให้มีการเซ็นสัญญาก่อนวันที่ 30 กันยายน 2552 พอจะมองออกหรือยังว่า อยากให้โครงการนี้ผ่านฉลุยเข้าปากใครในช่วงที่ใครยังไม่เกษียณอายุราชการ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น