“วิชาญ” เย้ยสอบทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งจับได้แค่ปลาซิวปลาสร้อย จี้ใช้ “ดีเอสไอ-ป.ป.ช.” ร่วมสอบเอาผิดทั้งขบวนการ ด้าน “อนุดิษฐ์” ชัด รมว.เกษตรฯ แก้ต่างข้าวปลอมปนสุดชุ่ย โยนความผิดให้ชาวนา แฉ เงื่อนงำเสกเมล็ดพันธุ์ข้าวส่งมอบครบจำนวนหน้าตาเฉยทั้งๆ ที่ในสต๊อกถูกน้ำท่วม ด้าน “การุณ” แขวะ ยุคศัตรูพืชใส่สูท
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานภาค กทม.พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานสำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวการทุจริตโครงการของรัฐบาล โดยนายวิชาญกล่าวถึงการแถลงผลตรวจสอบการทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์และการทุจริตงานก่อสร้างตามโครงการเงินกู้ไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขว่า เป็นไปตามความคาดหมายของพรรคที่เชื่อตั้งแต่ต้นว่า การตรวจสอบจะออกมาคล้ายคลึงกับโครงการอื่นๆ เหมือนกับการใช้ผงซักฟอกสูตรสำเร็จ ฟอกขาวโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เป็นการตั้งคณะกรรมการผงซักฟอกขึ้นมา โดยไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งประชาชนเห็นแล้วว่ามีเพียงปลาซิวปลาสร้อยเท่านั้นที่ติดร่างแห ส่วนปลาตัวใหญ่ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีข้อมูลรวมทั้งรายชื่อบุคคลที่ทุจริตอยู่ในมือระดับหนึ่ง แต่ยังไม่อยากปรักปรำ จะรอดูผลการสอบสวนก่อนว่าจะเป็นการสืบหาข้อเท็จจริงหรือแค่การฟอกขาวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเห็นว่า มีหลายอย่างที่เข้าไปพัวพันกับบุคคลภายนอก ซึ่งลักษณะนี้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้จึงอยากให้รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำที่ประกาศมาตรฐานตัวเองไว้สูงด้วยกฎเหล็ก 9 ข้อให้เข้ามาตรวจสอบการทุจริตอย่างรอบด้านด้วยการให้หน่วยงานภายนอก เช่น ดีเอสไอ สตง. และป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบ เพราะขณะนี้มันคือโรคร้ายที่ชื่อว่าเชื้อทุจริตสายพันธุ์ใหม่ไทยเข้มแข็ง
“โครงการไทยเข้มแข็งส่อทุจริตแทบทุกกระทรวง โดยเฉพาะขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ประชาชนเห็นแล้วว่ารัฐบาลชุดนี้บกพร่องและทุจริตอย่างไร ซึ่งต้องโทษนักการเมืองที่เข้ามาก้าวก่าย ชี้นำ แทรกแซง แต่อยากให้กำลังใจข้าราชการให้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เพราะเชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข อย่าลาออก อยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อทำความจริงให้กระจ่าง”นายวิชาญกล่าว
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวยืนยันว่าไม่พบการปลอมปนในโครงการปลูกข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษที่ จ.ยโสธร รวมทั้งระบุว่าพันธุ์ข้าวที่พบในแปลงนาตามที่เป็นข่าวนั้นอาจมาจากข้าวเรื้อของนาปรัง และเครื่องเกี่ยวนวดว่า พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ออกมาจากกรมการข้าวนั้นไม่มีการปลอมปน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและน่าสงสัย คือ การเติบโตที่ไม่พร้อมกัน การที่รัฐบาลออกมากล่าวเช่นนี้น่าสงสัยว่ากำลังปกป้องใครอยู่หรือไม่ รัฐบาลพยายามโยนปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นของเกษตรกร การแถลงข่าวของรัฐบาลเช่นนี้ถือเป็นการดูถูกชาวนาอย่างมาก อยากถาม รมว.เกษตรฯ ว่า เห็นชาวนาโง่หรืออย่างไร เพราะถ้าเป็นไปตามที่กระทรวงเกษตรชี้แจงนั้น ทำไมข้าวที่ปลอมปนอยู่จึงขึ้นอยู่ในกอต้นข้าวที่ชาวนาปักดำไว้ เพราะข้อเท็จจริงหากเป็นข้าวที่โตมาจากข้าวเรื้อก็ควรที่จะขึ้นกันอย่างกระจัดกระจายในแปลงนามากกว่าที่จะขึ้นอยู่ในกอข้าว
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การแจกพันธุ์ข้าวที่ จ.ยโสธรนั้น ส่วนหนึ่งมาจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่ได้จัดส่งให้กับโครงการเป็นจำนวน 24,000 กระสอบ แต่เมื่อย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้ ลูกค้าจำนวนมากของ ธ.ก.ส.ได้สั่งพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์เพื่อการตลาดหรือสกต.และสกต.ก็สั่งซิ้ออีกต่อหนึ่งจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 10,000 กระสอบ แต่ปรากฏว่าศูนย์ดังกล่าวส่งมอบให้สกต.ได้เพียงแค่ 2,000 กระสอบ เนื่องจากในปี 2551 จ.ร้อยเอ็ดถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม ดังนั้นจึงน่าสังเกตุและน่าสงสัยอย่างมากว่า ศูนย์ดังกล่าวส่งมอบพันธุ์ข้าวให้กับโครงการเป็นจำนวนมากได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายธีระคงบริสุทธิ์ใจ แต่อยากให้เข้าไปตรวจสอบอย่างจริงจังกว่านี้ หรือลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ไม่ใช่เอาแต่คอยนั่งอยู่บนหอคอยงาช้างฟังรายงาน สุดท้ายก็โยนภาระความรับผิดชอบให้กับชาวนา พรรคเพื่อไทยเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นและขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เป็นกลางเข้ามาร่วมตรวจสอบ โดยภายในสัปดาห์นี้คณะทำงานจะยื่นหนุงสือต่อคณะกรรมาธิการการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามการทุจริตในโครงการนี้ต่อไป
ขณะที่ นายการุณกล่าวเสริมว่า ความผิดปกติในการปลอมปนต้นข้าวลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นอีกในหลายอำเภอของจังหวัดยโสธร กินเนื้อที่ราว 2-3 แสนไร่ ทำลายอย่างไรก็ไม่หมด อีกทั้งมารดาของตนก็เป็นชาวยโสธร มีอาชีพปลูกข้าวมายาวนานเกือบทั้งชีวิตจ เจอภัยพิบัติต่างๆ นานาทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ก็ยังสามารถผ่านมาได้หมด แต่ขณะนี้ต้องมาเจอกับศัตรูพืชใส่สูทที่ไม่มีอะไรฆ่าได้ แม้แต่กระทรวงเกษตรฯก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดังนั้นจึงอยากให้สื่อมวลชนร่วมลงพื้นที่กับคณะทำงานของพรรคและนำขั้อเท็จจริงมาตีแผ่ต่อไป นอกจากนี้อยากทราบด้วยว่านายกรัฐมนตรีจะมีมาตรฐานต่อปัญหาเรื่องข้าวปลอมปนนี้อย่างไร