“พล.ต.จำลอง” เผย ไม่มีตำแหน่งในพรรคการเมืองใหม่ เพราะต้องการทุ่มเทเวลาทำงานบริการสังคมต่อไป แต่เชื่อมั่น พรรคจะประสบความสำเร็จ เพราะประชาชนมีความรู้-มีความเสียสละ มากขึ้น มีองค์กรอิสระช่วยจับนักการเมืองโกง และมีสื่ออย่างเอเอสทีวี คอยให้ความรู้ที่ถูกต้อง สดุดีวีรชน 7 ตุลาฯ เสียสละสู้เพื่อชาติ แม้ไม่มีค่าตอบแทน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 7 ต.ค. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยในงาน “7 ตุลา ต้องไม่สูญเปล่า” ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ตามที่พันธมิตรฯ ได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมานั้น สาเหตุที่ตนไม่ได้เข้าไปมีบทบาท ก็เพราะต้องการขอเวลาเพื่อทำงานช่วยเหลือสังคมที่เคยทำมาให้ต่อเนื่องไป นั่นคือ โรงเรียนผู้นำที่ทำมาแล้ว 23 ปี มูลนิธิไตเทียมที่ให้บริการฟอกไตราคาต่ำกว่าทุน โครงการช่วยเหลือสุนัขจรจัดประมาณ 2-3 พันตัว การขายปุ๋ยอินทรีย์ตรา “เท่าทุน” รวมถึงการขายปุ๋ยอินทรีย์ตราขวัญดิน เพื่อนำกำไรมาสนับสนุนเอเอสทีวี นอกจากนี้ ยังเป็นประธานมูลนิธิกองทัพธรรม และพรรคเพื่อฟ้าดิน
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า การตั้งพรรคการเมืองนั้น พันธมิตรฯ ไม่ได้คิดกันมาแต่ต้น ตั้งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2549 ตลอดจนการชุมนุม 193 วัน ในปี 2551 ไม่เคยมีการพูดถึงการตั้งพรรคการเมือง นอกจากคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด และอยากให้มีการเมืองใหม่ เพราะการเมืองระบบเก่ามันแย่แล้ว จนกระทั่งรัฐบาลสมชายออกไป พวกเราสบายใจขึ้น แต่นักการเมืองก็ยังทำงานแบบการเมืองเก่าอยู่ พันธมิตรฯ แต่ละจังหวัดก็เริ่มพูดเรื่องการมีพรรค เมื่อแกนนำเดินทางไปสหรัฐอเมริกา คนไทยที่นั่นก็บอกให้ตั้งพรรค จึงลองถามมติคนไทยที่สหรัฐฯ ดู ปรากฏว่า ทุกคนสนับสนุนให้ตั้งพรรค และพวกเราพันธมิตรฯ ไปประชุมที่ ม.รังสิต กับ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันที่ 25 พ.ค.2552 ผลออกมาว่าสนับสนุนตั้งพรรค แกนนำก็ต้องทำตาม
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตนเคยทำพรรคการเมืองเมื่อ 21 ปีก่อน และมีนักวิชาการฝรั่งนำไปเขียนเป็นหนังสื่อชื่อ “จำลอง ศรีเมือง กับการเมืองใหม่ในประเทศไทย” ก็อาจเรียกได้ว่าครั้งนั้นเป็นการเมืองใหม่ แต่การที่เราไม่ซื้อเสียง ยึดหลักความซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้แพ้คู่แข่งที่ใช้เงินซื้อเสียงและใช้วิชามารในเวลาต่อมา จนเลิกไปในที่สุด แต่การทำพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้ น่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่ตนเคยทำเมื่อ 21 ปีก่อน เพราะมีคนที่มีความรู้มากขึ้น เสียสละมากขึ้น มีองค์กรอิสระคอยจับนักการเมืองโกง และมีสื่อที่ทรงอานุภาพอย่างเอเอสทีวีคอยให้ความรู้ประชาชน
พล.ต.จำลอง ย้ำว่า ให้พี่น้องพันธมิตรฯ รำลึกถึงวีรชนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ให้มากที่สุด เพราะคนเหล่านี้แม้ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงก็มาต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไม่ได้มีค่าตอบแทนหรือเงินชดเชยใดๆ จากภาครัฐ สำหรับวันที่ 7 ต.ค.2551 ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะตอนนั้นถูกจำคุก หลังจากออกไปใช่สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 5 ต.ค.และถูกจับกุมตามหมายจับข้อหากบฏ ถูกคุมขังอยู่จนวันที่ 9 ต.ค.เมื่อศาลยกเลิกหมายจับในข้อหากบฏ จึงได้ออกมา
คำต่อคำ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
ท่านพี่น้องพันธมิตรฯ ครับ ทั้งท่านที่อยู่ในหอประชุมธรรมศาสตร์แห่งนี้ จนล้นออกไปข้างนอก ล้นไปถึงสนาม และท่านที่ดู ASTV อยู่ในประเทศและต่างประเทศ เรามาย้ำกันอีกสักทีนะครับว่า เรามาทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ เราได้ทำตามที่เราได้ลั่นวาจาไปแล้ว
ท่านพี่น้องพันธมิตรฯ ครับ เราจัดงานต่อเนื่องกันมา 2 วัน วันนี้เป็นวันรำลึกถึงวีรชน 7 ตุลา เมื่อวานนี้เป็นการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองใหม่ เลือกตั้งหัวหน้าพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในพรรค อ.สมเกียรติ ไม่ได้รับหน้าที่อะไรเลย ทุกคนรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ส่วนผมนั้น ผมได้ขอร้องแกนนำอีก 4 คนมาหลายครั้งแล้ว ว่า ผมติดงานช่วยเหลือสังคม ถ้าผมจะมาเป็นอะไรผมต้องทุ่มเต็มที่ แล้วงานการที่ทำมานานนักหนาแล้วมันจะเสียหายไป งานแรกก็คือ การฝึกอบรมผู้นำ ทำมา 23 ปีแล้ว งานที่ 2.คือ ผมและภรรยามีคลินิกไตเทียม ซึ่งมีเครื่องฟอกไตทันสมัยที่มากที่สุดในประเทศไทย ฟอกไตการกุศล ฟอกไตต่ำกว่าราคาทุน เพียงครั้งละ 1,200 บาท ด้วยแพทย์และพยาบาล ผู้ชำนาญโดยเฉพาะ
งานที่สาม คือ การช่วยชีวิตสุนัขและแมวจรจัดมากที่สุดในประเทศไทย 2,500 กว่าตัว โดยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากที่ไหน แม้กระทั่งรัฐบาล เดือนหนึ่งใช้ไม่มาก ปีหนึ่งใช้ไม่มาก 5 ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น
พี่น้องครับ แล้วงานที่ 4 เป็นงานสำคัญ ทำติดต่อกันมา 4 ปีแล้ว ขายปุ๋ยอินทรีย์ตราเท่าทุน เดี๋ยวนี้ยังทำอยู่อย่างเงียบๆ ซื้อมาเท่าไร ขายไปเท่านั้น เพราะมันชื่อบริษัท เท่าทุน (มหาชน) จำกัด แต่มาเพิ่มมาเติมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ตรา ASTV ขวัญดิน ซึ่งพี่น้องช่วยกันเยอะเหลือเกิน พี่น้องอยากทราบไหมครับ เราค้าขายมา 4 เดือน ยอดขายทั้งหมดเท่าไร 50,500,000 ครับ
พี่น้องครับ ขายได้ 4 เดือน 50,500,000 กำไรนั้นยังไม่พอในการป้องกันไม่ให้จอดับ เพราะเราเอากำไรกระสอบละไม่มาก เราขายจำนวนมากเข้าว่า เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันซื้อเยอะๆ ถึงวันนั้นเราสบายใจครับ คุณสนธิ บอกว่า ไม่ใช่คุณสนธิบอก พวกเราพูดเองใช่ไหม เอเอสทีวี ขายตั้งแต่ปุ๋ยอินทรีย์ ไปยังกระดาษชำระ สู้ยิบตาอย่างนี้ แล้วจอมันดับให้รู้ไป ไม่ดับหรอกครับ พี่น้องครับ เห็นไหม ด้วยเหตุผลอย่างนี้ แกนตามอีก 4 คนก็เลยยอม
อีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งพี่น้องไม่ทราบ ผมเป็นประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ พี่น้องไปชุมนุม 193 วัน คุ้นเคยกับชาวกองทัพธรรมใช่ไหม ช่วยพี่น้องตั้งแต่ดูแลความปลอดภัย ช่วยเรื่องเต็นท์ ช่วยเรื่องสุขา ช่วยเรื่องอาหาร สารพัดสารพัน ในการชุมนุมคิดอะไรไม่ออกบอกกองทัพธรรม
พี่น้องทราบหรือเปล่า ผมเป็นประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ ชาวกองทัพธรรมตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว นานถึง 9 ปี 6 เดือน 2 วัน ตั้งแต่ 5 เมษายน 2543 จนถึงบัดนี้ ผมยังขอเขาเลย เขายังให้ผมเลยว่า ผมไม่ต้องเป็นอะไรนะ ไม่ต้องเป็นแม้กระทั่งสมาชิกพรรคเพื่อฟ้าดิน
พี่น้องครับ เรื่องพรรคการเมืองใหม่นั้น พี่น้องคงยืนยันได้ดี เราชุมนุมไปเช้าเย็นกลับก็มี เราชุมนุมปักหลักพักค้าง เมื่อปี 49 33 วันจำได้ไหม แล้วปี 51 อีก 193 วัน จำได้ไหม รวมแล้ว 226 วัน เราอยู่กันตลอด 24 ชั่วโมง มีใครเคยพูดให้พี่น้องได้ยินบ้างไหมว่าเราจะตั้งพรรคการเมืองของเราเอง ไม่มี มีใครเคยคิดเรื่องนี้ไหม ไม่มี เจตนา ความประสงค์ของเราในการชุมนุมนั้น มีอยฦู่ 2 ข้อหลักๆ 1.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 2.เรียกร้องให้รัฐบาลหุ่นเชิดออกไป ใช่หรือไม่ พี่น้องครับ เราไม่เคยคิดที่จะต้องมาทำการเมือง เพราะเรามั่นใจว่า เมื่อเขาเห็นว่าการเมืองเก่ามันแย่เต็มที่แล้วเขาก็น่าทำการเมืองใหม่ เราทำตามที่เราว่าเป็นผลสำเร็จแล้ว เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเรียกร้องให้รัฐบาล 2 คณะ ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดออกไปแล้ว เราก็สบายใจ แต่แล้วเราก็สบายใจไม่ได้ จริงหรือเปล่า เมื่อรัฐบาลเขาเข้ามาเขายังทำการเมืองเก่าอยู่ เราเห็นว่าบ้านเมืองจะเสียหาย เริ่มมีพันธมิตรฯ พูดกันมาแล้ว จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ แกนตามก็ฟังดูว่าเขาว่าอย่างไรแล้วเราจะตามอีท่าไหน ว่าแล้วในการที่เราจัดคอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกา พอเราไปถึงที่นั่นเท่านั้นแหละครับ พันธมิตรฯ คนไทยในสหรัฐอเมริกามาบอกกับพวกเราว่า ต้องตั้งพรรค ต้องตั้งพรรค ผมเลยเสนอต่อแกนตาม อีก 4 คนว่า รุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันที่พันธมิตรฯ คนไทยในอเมริกาจะมาชุมนุมกันมากที่สุด ถามเขาว่า เขาเห็นเป็นอย่างไร จะตั้งหรือไม่ตั้ง ถ้าเห็นเป็นอย่างไรแล้วถือเอาเป็นเสียงของคนกลุ่มหนึ่งใหญ่โตมโหฬารเลย แล้วกลับมาประชุมที่ประเทศไทย เสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไรแกนตามก็ตามนั้น และแล้วผมก็ออกมาอย่างที่พี่น้องว่า ออกเสียงเป็นเสียงเดียวกันในสหรัฐอเมริกาว่า คนไทยในนั้นออกเสียงว่า เราต้องตั้งพรรคการเมือง และแล้วเราก็มีการประชุมกันที่มหาวิทยาลัยรังสิต มีการประชุมกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ผลออกมาอย่างพี่น้องรู้ว่า ต้องตั้งพรรคการเมือง แกนตามก็เลยต้องตามว่า ต้องตั้งพรรคการเมือง พี่น้องเห็นไหมครับเราว่าง่ายจะตาย ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่
หลัก 4 หลักของพรรคการเมืองใหม่ จะเรียกว่า คำขวัญ หรือสัญญาประชาคม ก็ได้ ที่บอกไว้ว่า ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ทำงานเป็น ผมแม้บอกกับเขาว่าขอไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ผมก็ร่วมในการช่วยกันคิดด้วยว่าเหมาะสมแล้วสำหรับ 4 คำนี้ ก็มีพันธมิตรฯ เสนอมาว่า ต้องมีคำอื่นเข้ามาอีก ผมบอกไม่ต้องหรอกยิ่งมากยิ่งเฝือใช่ไหมครับพี่น้องครับ 4 คำเราจำได้แม่นเลย เขาบอกว่า อย่างเช่น ต้องมีคำว่า อดกลั้น ผมก็บอกในที่ประชุมว่า ถ้าไม่อดกลั้นจะซื่อสัตย์ จะเสียสละได้อย่างไร ตกลงก็เป็นไปอย่างที่พี่น้องทราบ
พี่น้องรู้ไหมครับ คำว่า การเมืองใหม่นั้น ใครพูดเป็นคนแรกในแกนตาม หัวหน้าพรรคของท่านเมื่อวานนี้ ที่ได้รับเลือกตั้ง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดเรื่องการเมืองใหม่ พูดอยู่หลายอาทิตย์ ผมไปที่โรงเรียนผู้นำกาญจนบุรี เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง ผมลืมไปแล้ว หนังสือเล่มนั้น เขียนชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า จำลอง ศรีเมือง และการเมืองใหม่ ตรงเลยครับ ราวกับนัดไว้ ผมเลยต้องชี้แจงกับแกนตามว่า 21 ปี มาแล้ว ที่ผมและคณะเล็กๆ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ตอนนั้น ฝรั่งคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ ของประเทศอังกฤษ แล้วท่านทำปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยใช้ชื่อวิทยานิพนธ์ ว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
หลังจากนั้น ท่านมารวบรวมหนังสือเล่มหนึ่ง เอาเฉพาะเรื่องการเมืองที่ผมเกี่ยวข้อง แล้วตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า จำลอง ศรีเมือง and The new Thai poretic พี่น้องครับ เห็นไหม มันมีที่มาที่ไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผมก็เลยเรียนต่อแกนตามและใครต่อใคร ในหลายเวทีว่า ไปได้แน่ ไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน ไม่เหมือน 21 ปี ที่แล้ว เพราะอะไร 21 ปีที่แล้ว ผมออกมาพูดให้พี่น้องประชาชนฟังว่า การเมืองถ้าไม่ใช่เรื่องเสียสละ ไม่ใช่เรื่องที่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ บ้านเมืองเสียหายนะ เขาก็ไม่ค่อยเชื่อกัน วันนี้รู้พิษสงแล้วใช่ไหม ว่า การเมืองเก่าแบบนั้น ทำให้บ้านเมืองเสียหาย
วันนี้ คนส่วนใหญ่รู้พิษสงแล้ว ว่า จำเป็นต้องมีการเมืองใหม่ มิฉะนั้น บ้านเมืองเสียหาย และวันนี้ คนกลุ่มใหญ่นับแสนล้าน รู้เรื่องการเมืองดี ไม่ดีได้ยังไง ฟังการถ่ายทอด 24 ชั่วโมง 193 วันนะ นอกจากรู้เรื่องการเมืองดีแล้ว ยังเสียสละความสุขส่วนตัวมากินนอนกลางถนน เสียสละในการที่ร่วมเสี่ยง เสียแขน ขา ดวงตา เสียชีวิต เรียกว่า ทุ่มเทเพื่อชาติบ้านเมือง ในการจะมาช่วยแก้ไขเรื่องการเมืองโดยเฉพาะ สมัยก่อนไม่มี นี่ 2 แล้วนะ มีมวลชนเขาโกงเอ้าเขาโกงเอา เขาซื้อเสียงเอ้าซื้อเสียงเอา เราบอกว่า แพ้ก็แพ้ เพราะเราต้องการทำการเมืองให้บริสุทธิ์ เสร็จแล้วบางครั้งบางหนก็แพ้จริงๆ ครับ พี่น้องครับ วันนี้เรามีองค์กร เช่น องค์กร กกต. เป็นต้น ก็ยังมาช่วยเราได้บ้าง สมัยก่อนไม่มี
และประการที่ 4 สำคัญที่สุด คืออะไรครับ เรามี ASTV ใช่หรือไม่ ASTV เป็นสื่อที่มีพลานุภาพมากมายก่ายกองทีเดียว เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ที่เราตั้งพรรคขึ้นมานี้ ไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน สมัยก่อนเมื่อ 21 ปีที่แล้ว การเป็นแกนนำของรัฐบาลนั้นยาก ต้องซื้อเสียง ต้องเล่นวิชามารใส่ร้ายป้ายสีสารพัดสารพัน ถ้าไม่ได้เป็นแกนนำแล้วยังยึดมั่นอยู่ในการเมืองที่เสียสละ ที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เลือกตั้งครั้งต่อๆ ไปก็ไม่มีอะไรมาดึงประชาชนให้ลงคะแนนเลือก ส.ส.เรามากๆ เพราะอะไรครับ ไม่ได้เป็นแกนนำก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเท่าไหร่ก็จะฝ่อลงฝ่อลง แต่ฝ่อก็ฝ่อ เราไม่ยอมแปดเปื้อนการทำเรื่องไม่ดีในทางการเมืองและในเรื่องต่างๆ ด้วย
ต่อมามีคนมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนผม ทำตามกฎระเบียบของพรรคพลังธรรมทุกประการเลย ไม่โกงทั้งต่อหน้าและรับหลัง ไม่ซื้อเสียง ไม่แจกข้าวของเพื่อแลกคะแนนเสียง ไม่พูดปลด จ้วงจาบ หยาบช้า ใส่ร้ายป้ายสี ออกไปหาเสียงเต็มที่ ได้ ส.ส.มา 23 คน พี่น้องคงจำได้บ้าง หัวหน้าพรรคคนนั้นมาบอกกับผมว่า ทำอย่างผมเคร่งครัดแบบพลังธรรม ทำได้ครึ่งเดียวของผม เพราะผมเป็นหัวหน้าพรรคได้ ส.ส.47 คน เขาเป็นหัวหน้าพรรค ได้ ส.ส.23 คน เขาเห็นแล้วว่า ขืนอยู่พลังธรรมต่อไปไม่ได้เป็นแกนนำ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ ตอนนั้นยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่แต่ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งประเทศได้ ส.ส.มาคนเดียว ผมเลยเชิญทั้งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคมาบอกว่า เราจบอย่างสวยงามของความเป็นพรรคพลังธรรม เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่เราไม่แปดเปื้อนอะไรเลย เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุผลว่า ครั้งที่แล้วนั้น 21 ปีมาแล้วนั้น เลือกตั้งครั้งแรกต้องเป็นแกนนำ ถ้าไม่เป็นแกนนำแล้วมันจะฝ่อไป แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นครับ ขอให้ได้มามากที่สุด ได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี แม้ไม่ได้เป็นแกนนำ แต่เรามี 4 อย่างหนุน มีคนที่รู้ว่าต้องเอาการเมืองใหม่แล้วการเมืองเก่าใช้ไม่ได้แล้ว มีมวลชนมหาศาลมาหนุน มีองค์กรอิสระ ไม่ให้เขาโกงได้ง่ายๆ หรือซื้อเสียงง่ายๆ และมีเอเอสทีวี
พี่น้องเห็นไหมว่า มั่นใจเถอะครับว่า พรรคการเมืองใหม่ไปแน่ๆ วันนี้ นั่งอยู่ ณ ที่นี้ หรืออยู่ที่บ้าน จะรักพรรคไหนก็รักไป แต่เลือกตั้งครั้งหน้า เลือกพรรคการเมืองใหม่แค่นี้ นี่คือพันธมิตร เพราะอะไรครับ เพราะพรรคการเมืองใหม่นั้น เป็นเครื่องมือหนึ่งของพันธมิตรใช่หรือไม่ ถ้าเรายังเป็นพันธมิตรฯ เราก็ต้องเลือกการเมืองใหม่
พี่น้องครับ วันนี้ เป็นวันที่เรารำลึกถึง 7 ตุลา เรามีการจัดงาน จัดการต่อเนื่อง 2 วัน วันนี้และเมื่อวานนี้ เราเรียนไปแล้วเรื่องพรรคการเมืองใหม่ วันนี้ ตั้งแต่เช้ามาเลย พวกเราไปก่อน 6 โมงเช้าอีก มีการตักบาตรที่ไหนในประเทศไทย ที่คนไปกันเยอะอย่างนี้ และพันธมิตรฯทำอะไร พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง ต้องยืนหยัด แม้บางครั้งไม่สบอารมณ์คนบางคน เราพยายามชี้แจงเขา
พี่น้องเคยได้ยินไหม ไปงานตักบาตรที่ไหน ที่พระบอกให้โฆษกประกาศให้พวกเราทราบว่า พี่น้องพันธมิตรฯครับ การตักบาตรวันนี้ กรุณาอย่าเอาข้าวสาร อาหารแห้งใส่บาตรนะครับ เอาถึงขนาดนี้เลย เกิดมากระทั่ง 74 ปี 3 เดือน 2 วัน ยังไม่เคยเจอเลย ที่ไหนกล้าทำอย่างนี้ แล้วพี่น้องก็ไม่โกรธ เข้าใจ เพราะอยู่ในพระธรรมวินัย ในพระพุทธศาสนาว่า พระออกบิณฑบาตนั้น ห้ามรับข้าวสารอาหารแห้ง เพราะพระภิกษุสงฆ์นั้น จะเอาไปหุง ไปต้ม ไปผัด ไม่ได้ทั้งนั้น ได้ไปแล้วต้องไปฉัน ฉันเสร็จคว่ำบาตร พรุ่งนี้เช้าออกบิณฑบาตต่อ ไม่มีการสะสม พระพุทธศาสนากำหนดอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น พี่น้องเข้าใจแล้ว เรายืนหยัดความถูกต้อง แม้ใส่บาตรยังทำให้ถูกต้อง และท่านกำหนดในพุทธศาสนาว่า ออกบิณฑบาตรับแต่อาหารมาฉัน อย่าไปรับเงินทอง เมื่อเช้านี้ เราเลยไม่มีโอกาสใส่บาตรพระด้วยธนบัตรของเรา ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
พี่น้องครับ สายมาหน่อยเป็นไง มีดนตรี เพลงแรกที่ขึ้นมา พี่น้องอาจจะจำได้ เพลงอธิษฐานใช่ไหม ผมนั่งติดกับ พล.อ.ปานเทพ นักเรียนรุ่นน้องผม 2 รุ่น เราเลยนึกความเก่าๆ สมัยเป็นนักเรียนนายน้อย เราถูกเกณฑ์ให้ดูละครของ หลวงวิจิตรวาทการ ในชุดที่ชื่อว่า อานุภาพแห่งความเสียสละ เพลงอธิษฐาน เป็นเพลงเอกในละครเรื่องนั้น และที่ๆเราไปดู ก็ติดกับลานพระบรมรูปทรงม้า เคยเป็นหอวัฒนธรรมมาก่อน
พี่น้องครับ เราถูกเกณฑ์ไป เราไม่สบายใจ เราจะดูหนังสือ ผู้บังคับบัญชาก็บอกให้ไปดูละคร พอกลับมาเท่านั้น รุ่นต่อๆ ไป แย่งไปดูกันใหญ่ เพราะละครจริงใจ พยายามที่จะปลุกเรา ให้เรากล้าหาญ เสียสละ และหลังจากนั้น มีการขึ้นไปกล่าวถึงวีรชนที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่ชุมนุม ผมต้องเรียนต่อท่านทั้งหลายว่า พวกผมเป็นทหาร ใครว่าอะไร ถูกเรา โดนเราทั้งนั้น ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารที่รับราชการขณะนี้ หรือทหารที่เกษียณแล้วก็ตาม ทหารต้องเป็นทหารจนตาย
คนที่ออกมากล่าวคนแรก คือ คุณวิชุดา แม่น้องโบว์ พี่น้องจำได้ไหม คำหนึ่งสะกิดใจพวกเรา ทหารหาญเป็นอย่างยิ่ง คุณวิชุดา พูดว่า ที่น้องโบว์ต้องเสียชีวิตในการชุมนุมเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน รวมทั้งพันธมิตรฯอีกหลายคน ต้องเสียชีวิต ต้องขาขาด แขนขาด เสียดวงตา และบาดเจ็บนั้น เป็นเพราะประเทศเราไม่มีทหารครับ
ถ้าพี่น้องเป็นอย่างพวกผม เป็นทหาร พี่น้องสะท้อนใจไหม สะกิดใจไหม ว่า เขาว่าวันนี้ไม่มีทหาร วันนี้ประเทศไทยไม่มีทหาร พี่น้องครับเรียนซ้ำอีกทีหนึ่ง พวกผมนั้นเรียนมาเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน ฝึกมาเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน รับเงินเดือนโดยการทำหน้าที่ปกป้อง 3 สถาบัน ได้เหรียญได้ตราก็เพราะทำหน้าที่นี้ และเมื่อออกไปปฏิบัติการพิเศษ เช่น ไปรบในสมรภูมิลาว ในสมรภูมิเวียดนาม ได้เงินเดือนอยู่แล้ว เมื่อออกไปปฏิบัติการพิเศษได้เบี้ยเลี้ยงพิเศษอีก และถ้าโชคร้าย เสียขา เสียแขน เสียดวงตา เขามีเงินทำขวัญให้มากจังเลย มากเพราะ แขน ขาหาอีกไม่ได้ ดวงตาเสียไปแล้วเสียไปเลย ยังได้เงินทำขวัญอีกมากมาย และได้เงินเพิ่มสู้รบมากกว่าเงินเดือนตั้งหลายขั้น ยกตัวอย่าง ผมได้น้อยหน่อยเพราะผมไปมา 2 วีคเท่านั้น ไปวีคเวียดนาม ได้เพิ่มกว่าเงินเดือน 4 ขั้น ไปวีคลาว เพิ่มกว่าเงินเดือน 5 ขั้น รวมแล้วได้เงินเพิ่มสู้รบมากกว่าเงินเดือน ถึง 9 ขั้น รับราชการได้ปีละขั้น นานๆ ถึงจะได้ 2 ขั้น แล้วพวกเราพันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุม มีหน้าที่โดยตรงในการปกป้อง 3 สถาบันหรือเปล่า เปล่า ได้เงินเดือนหรือเปล่า ได้เบี้ยเลี้ยงพิเศษหรือเปล่า เคราะห์ร้ายเสียขา เสียแขน เสียดวงตา ได้เงินปลอบขวัญหรือเปล่า แล้วได้เงินเพิ่มสู้รบหรือเปล่า เวลาจัดพิธีศพ มีธงชาติคลุม มีพิธี มีกองทหารเกียรติยศ พวกเราไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องนึกถึงวีรชน 7 ตุลา ให้มากที่สุด
ท่านพี่น้องครับ เราชุมนุมอย่างสงบ เราทำตามคำที่เราบอกมาโดยตลอด ผมขอย้อนไปอีกนิดหนึ่งนะครับว่า 7 ตุลา ผมไม่ได้อยู่ที่หน้ารัฐสภา ผมไปอยู่ที่ลาดยาว เพราะอะไรพี่น้องจำได้แล้ว ตอนที่เราชุมนุมกันอยู่ในทำเนียบ เขาออกหมายจับว่าเราเป็นกบฏ เราบอกว่าเราไม่ใช่ เราไม่ยอมไปมอบตัว ถ้ามอบตัวแสดงว่าเรารับทราบว่าเราอาจจะเป็นกบฏ ไม่ใช่ อาจจะไม่มีทั้งสิ้น เราไม่ใช่กบฏ เรามาต่อต้านปราบกบฏต่างหาก กลับถูกหาว่าเป็นกบฏ เราเลยตกลงกันว่า เราไม่มอบตัว ไม่ออกนอกทำเนียบ อยากจับก็เข้ามาจับในทำเนียบ และเราก็ยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ยกหมายกบฏ
พี่น้องครับ และมาถึงวันที่ 5 ตุลาคม กรุงเทพฯมีอะไรครับ มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมบอกกับคน 2 คน ก่อนที่ผมจะออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง คนแรก คือ คุณสนธิ บอกพวกเรา บอกแกนตาม บอกพันธมิตรฯด้วยว่า ผมจำเป็นต้องไปลงคะแนนเลือกตั้ง แม้จะจับ ก็ไม่เป็นไร เพราะอะไร เพราะผมเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมา 6 ปี เต็ม ผมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดียวของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ที่ได้รับรางวัล แมกไซไซ จากประเทศฟิลิปปินส์ ได้รางวัลบุคคลดีเด่นแห่งเอเชีย จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดียว ที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ และตอนที่เป็นผู้ว่าฯนั้น ต้องจัดการเลือกตั้ง ต้องออกไปรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น หรือประเทศก็ตาม พี่น้องครับ แล้วผมจะอ้างยังไง ไปลงคะแนนไม่ได้ ถึงแม้จะเคยเป็นผู้ว่าฯ ที่รณรงค์เรื่องนี้มากมาย เพราะเดี๋ยวตำรวจจับ
ถ้าอย่างนี้ ไม่ใช่พันธมิตรฯ ถูกต้องไหมครับ ถ้ากลัวอย่างนี้ไม่ใช่พันธมิตรฯ ผมเลยบอก คุณสนธิว่า ผมมีความจำเป็นเฉพาะตัวผม ผมต้องออกไปลงคะแนน ผมก็รีบบึ่งไปที่เวทีทำเนียบ ไปบอก คุณปอง อัญชลี ถ้าคุณได้ข่าว ผมไปลงคะแนนแล้วถูกจับ คุณอย่าเพิ่งพูดไป คุณรอเวลาขังผมในคุกก่อน จะได้ไม่มีใครตามไป และผมบอกคุณสนธิว่า พวกเราอย่าตามไปแม้กระทั่งคนหนึ่ง ก็ไม่ต้องตาม เสร็จแล้วก็เป็นอย่างที่พี่น้องทราบ
ผมถูกขังวันที่ 5 6 7 8 9 ขณะที่ถูกขังเป็นการประท้วงกระบวนการยุติธรรมด้วย ว่า คนชื่อจำลอง ศรีเมือง ถูกติดตาราง เพราะถูกหมายจับกบฏ และพวกเราไม่ใช่กบฏ ทำไมถูกหมายจับตามกัน ระหว่างที่ผมติดคุก ศาลเลยยกหมายจับ ใช่หรือเปล่า หมายจับกบฏศาลยกไปเรียบร้อย เพราะเราถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม
พี่น้องครับ ในเหตุการณ์ที่เราต้องสูญเสียคนที่รัก เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ลืม ต้องนึกถึงเขาตลอดเวลา เราต้องนึกถึงบุญคุณเขา ที่ชาติบ้านเมืองของเรา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันอยู่รอดปลอดภัย เพราะมีคนเช่นเขา เพราะมีคนเสียสละ เพราะมีคนกล้าหาญ กล้าเสี่ยง แม้กระทั่งชีวิตอย่างพวกเรา บ้านเมืองจึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าบ้านเมือง เต็มไปด้วยคนไม่เอาไหน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว อยู่บ้านเฉยๆ สบายๆ ป่านนี้เจ๊งไปนานแล้ว
พี่น้องครับ วันนี้ผมใส่เสื้อสวยนะ 7 ตุลา 2551 ต้องไม่สูญเปล่า ทำอย่างไรไม่สูญเปล่า ฟังแกนตามคนต่อไป เพราะอะไร เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือเปล่า เราเรียกร้องรัฐบาล 2005 ออกไปแล้ว วันนี้ เขาจะเอารัฐธรรมนูญมาแก้อีก ถ้าเขาแก้ได้ ก็แสดงว่า เสื้อที่เราใส่หมดค่า 7 ตุลา ต้องไม่สูญเปล่า ฟังแกนตามคนต่อไปมาไข แล้วเราจะทำอะไร ขอบคุณครับ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 7 ต.ค. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยในงาน “7 ตุลา ต้องไม่สูญเปล่า” ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ตามที่พันธมิตรฯ ได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมานั้น สาเหตุที่ตนไม่ได้เข้าไปมีบทบาท ก็เพราะต้องการขอเวลาเพื่อทำงานช่วยเหลือสังคมที่เคยทำมาให้ต่อเนื่องไป นั่นคือ โรงเรียนผู้นำที่ทำมาแล้ว 23 ปี มูลนิธิไตเทียมที่ให้บริการฟอกไตราคาต่ำกว่าทุน โครงการช่วยเหลือสุนัขจรจัดประมาณ 2-3 พันตัว การขายปุ๋ยอินทรีย์ตรา “เท่าทุน” รวมถึงการขายปุ๋ยอินทรีย์ตราขวัญดิน เพื่อนำกำไรมาสนับสนุนเอเอสทีวี นอกจากนี้ ยังเป็นประธานมูลนิธิกองทัพธรรม และพรรคเพื่อฟ้าดิน
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า การตั้งพรรคการเมืองนั้น พันธมิตรฯ ไม่ได้คิดกันมาแต่ต้น ตั้งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2549 ตลอดจนการชุมนุม 193 วัน ในปี 2551 ไม่เคยมีการพูดถึงการตั้งพรรคการเมือง นอกจากคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด และอยากให้มีการเมืองใหม่ เพราะการเมืองระบบเก่ามันแย่แล้ว จนกระทั่งรัฐบาลสมชายออกไป พวกเราสบายใจขึ้น แต่นักการเมืองก็ยังทำงานแบบการเมืองเก่าอยู่ พันธมิตรฯ แต่ละจังหวัดก็เริ่มพูดเรื่องการมีพรรค เมื่อแกนนำเดินทางไปสหรัฐอเมริกา คนไทยที่นั่นก็บอกให้ตั้งพรรค จึงลองถามมติคนไทยที่สหรัฐฯ ดู ปรากฏว่า ทุกคนสนับสนุนให้ตั้งพรรค และพวกเราพันธมิตรฯ ไปประชุมที่ ม.รังสิต กับ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันที่ 25 พ.ค.2552 ผลออกมาว่าสนับสนุนตั้งพรรค แกนนำก็ต้องทำตาม
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตนเคยทำพรรคการเมืองเมื่อ 21 ปีก่อน และมีนักวิชาการฝรั่งนำไปเขียนเป็นหนังสื่อชื่อ “จำลอง ศรีเมือง กับการเมืองใหม่ในประเทศไทย” ก็อาจเรียกได้ว่าครั้งนั้นเป็นการเมืองใหม่ แต่การที่เราไม่ซื้อเสียง ยึดหลักความซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้แพ้คู่แข่งที่ใช้เงินซื้อเสียงและใช้วิชามารในเวลาต่อมา จนเลิกไปในที่สุด แต่การทำพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้ น่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่ตนเคยทำเมื่อ 21 ปีก่อน เพราะมีคนที่มีความรู้มากขึ้น เสียสละมากขึ้น มีองค์กรอิสระคอยจับนักการเมืองโกง และมีสื่อที่ทรงอานุภาพอย่างเอเอสทีวีคอยให้ความรู้ประชาชน
พล.ต.จำลอง ย้ำว่า ให้พี่น้องพันธมิตรฯ รำลึกถึงวีรชนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ให้มากที่สุด เพราะคนเหล่านี้แม้ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงก็มาต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไม่ได้มีค่าตอบแทนหรือเงินชดเชยใดๆ จากภาครัฐ สำหรับวันที่ 7 ต.ค.2551 ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะตอนนั้นถูกจำคุก หลังจากออกไปใช่สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 5 ต.ค.และถูกจับกุมตามหมายจับข้อหากบฏ ถูกคุมขังอยู่จนวันที่ 9 ต.ค.เมื่อศาลยกเลิกหมายจับในข้อหากบฏ จึงได้ออกมา
คำต่อคำ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
ท่านพี่น้องพันธมิตรฯ ครับ ทั้งท่านที่อยู่ในหอประชุมธรรมศาสตร์แห่งนี้ จนล้นออกไปข้างนอก ล้นไปถึงสนาม และท่านที่ดู ASTV อยู่ในประเทศและต่างประเทศ เรามาย้ำกันอีกสักทีนะครับว่า เรามาทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ เราได้ทำตามที่เราได้ลั่นวาจาไปแล้ว
ท่านพี่น้องพันธมิตรฯ ครับ เราจัดงานต่อเนื่องกันมา 2 วัน วันนี้เป็นวันรำลึกถึงวีรชน 7 ตุลา เมื่อวานนี้เป็นการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองใหม่ เลือกตั้งหัวหน้าพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ในพรรค อ.สมเกียรติ ไม่ได้รับหน้าที่อะไรเลย ทุกคนรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ส่วนผมนั้น ผมได้ขอร้องแกนนำอีก 4 คนมาหลายครั้งแล้ว ว่า ผมติดงานช่วยเหลือสังคม ถ้าผมจะมาเป็นอะไรผมต้องทุ่มเต็มที่ แล้วงานการที่ทำมานานนักหนาแล้วมันจะเสียหายไป งานแรกก็คือ การฝึกอบรมผู้นำ ทำมา 23 ปีแล้ว งานที่ 2.คือ ผมและภรรยามีคลินิกไตเทียม ซึ่งมีเครื่องฟอกไตทันสมัยที่มากที่สุดในประเทศไทย ฟอกไตการกุศล ฟอกไตต่ำกว่าราคาทุน เพียงครั้งละ 1,200 บาท ด้วยแพทย์และพยาบาล ผู้ชำนาญโดยเฉพาะ
งานที่สาม คือ การช่วยชีวิตสุนัขและแมวจรจัดมากที่สุดในประเทศไทย 2,500 กว่าตัว โดยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากที่ไหน แม้กระทั่งรัฐบาล เดือนหนึ่งใช้ไม่มาก ปีหนึ่งใช้ไม่มาก 5 ล้านบาทเศษๆ เท่านั้น
พี่น้องครับ แล้วงานที่ 4 เป็นงานสำคัญ ทำติดต่อกันมา 4 ปีแล้ว ขายปุ๋ยอินทรีย์ตราเท่าทุน เดี๋ยวนี้ยังทำอยู่อย่างเงียบๆ ซื้อมาเท่าไร ขายไปเท่านั้น เพราะมันชื่อบริษัท เท่าทุน (มหาชน) จำกัด แต่มาเพิ่มมาเติมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ตรา ASTV ขวัญดิน ซึ่งพี่น้องช่วยกันเยอะเหลือเกิน พี่น้องอยากทราบไหมครับ เราค้าขายมา 4 เดือน ยอดขายทั้งหมดเท่าไร 50,500,000 ครับ
พี่น้องครับ ขายได้ 4 เดือน 50,500,000 กำไรนั้นยังไม่พอในการป้องกันไม่ให้จอดับ เพราะเราเอากำไรกระสอบละไม่มาก เราขายจำนวนมากเข้าว่า เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันซื้อเยอะๆ ถึงวันนั้นเราสบายใจครับ คุณสนธิ บอกว่า ไม่ใช่คุณสนธิบอก พวกเราพูดเองใช่ไหม เอเอสทีวี ขายตั้งแต่ปุ๋ยอินทรีย์ ไปยังกระดาษชำระ สู้ยิบตาอย่างนี้ แล้วจอมันดับให้รู้ไป ไม่ดับหรอกครับ พี่น้องครับ เห็นไหม ด้วยเหตุผลอย่างนี้ แกนตามอีก 4 คนก็เลยยอม
อีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งพี่น้องไม่ทราบ ผมเป็นประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ พี่น้องไปชุมนุม 193 วัน คุ้นเคยกับชาวกองทัพธรรมใช่ไหม ช่วยพี่น้องตั้งแต่ดูแลความปลอดภัย ช่วยเรื่องเต็นท์ ช่วยเรื่องสุขา ช่วยเรื่องอาหาร สารพัดสารพัน ในการชุมนุมคิดอะไรไม่ออกบอกกองทัพธรรม
พี่น้องทราบหรือเปล่า ผมเป็นประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ ชาวกองทัพธรรมตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว นานถึง 9 ปี 6 เดือน 2 วัน ตั้งแต่ 5 เมษายน 2543 จนถึงบัดนี้ ผมยังขอเขาเลย เขายังให้ผมเลยว่า ผมไม่ต้องเป็นอะไรนะ ไม่ต้องเป็นแม้กระทั่งสมาชิกพรรคเพื่อฟ้าดิน
พี่น้องครับ เรื่องพรรคการเมืองใหม่นั้น พี่น้องคงยืนยันได้ดี เราชุมนุมไปเช้าเย็นกลับก็มี เราชุมนุมปักหลักพักค้าง เมื่อปี 49 33 วันจำได้ไหม แล้วปี 51 อีก 193 วัน จำได้ไหม รวมแล้ว 226 วัน เราอยู่กันตลอด 24 ชั่วโมง มีใครเคยพูดให้พี่น้องได้ยินบ้างไหมว่าเราจะตั้งพรรคการเมืองของเราเอง ไม่มี มีใครเคยคิดเรื่องนี้ไหม ไม่มี เจตนา ความประสงค์ของเราในการชุมนุมนั้น มีอยฦู่ 2 ข้อหลักๆ 1.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 2.เรียกร้องให้รัฐบาลหุ่นเชิดออกไป ใช่หรือไม่ พี่น้องครับ เราไม่เคยคิดที่จะต้องมาทำการเมือง เพราะเรามั่นใจว่า เมื่อเขาเห็นว่าการเมืองเก่ามันแย่เต็มที่แล้วเขาก็น่าทำการเมืองใหม่ เราทำตามที่เราว่าเป็นผลสำเร็จแล้ว เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเรียกร้องให้รัฐบาล 2 คณะ ซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดออกไปแล้ว เราก็สบายใจ แต่แล้วเราก็สบายใจไม่ได้ จริงหรือเปล่า เมื่อรัฐบาลเขาเข้ามาเขายังทำการเมืองเก่าอยู่ เราเห็นว่าบ้านเมืองจะเสียหาย เริ่มมีพันธมิตรฯ พูดกันมาแล้ว จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ แกนตามก็ฟังดูว่าเขาว่าอย่างไรแล้วเราจะตามอีท่าไหน ว่าแล้วในการที่เราจัดคอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกา พอเราไปถึงที่นั่นเท่านั้นแหละครับ พันธมิตรฯ คนไทยในสหรัฐอเมริกามาบอกกับพวกเราว่า ต้องตั้งพรรค ต้องตั้งพรรค ผมเลยเสนอต่อแกนตาม อีก 4 คนว่า รุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันที่พันธมิตรฯ คนไทยในอเมริกาจะมาชุมนุมกันมากที่สุด ถามเขาว่า เขาเห็นเป็นอย่างไร จะตั้งหรือไม่ตั้ง ถ้าเห็นเป็นอย่างไรแล้วถือเอาเป็นเสียงของคนกลุ่มหนึ่งใหญ่โตมโหฬารเลย แล้วกลับมาประชุมที่ประเทศไทย เสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไรแกนตามก็ตามนั้น และแล้วผมก็ออกมาอย่างที่พี่น้องว่า ออกเสียงเป็นเสียงเดียวกันในสหรัฐอเมริกาว่า คนไทยในนั้นออกเสียงว่า เราต้องตั้งพรรคการเมือง และแล้วเราก็มีการประชุมกันที่มหาวิทยาลัยรังสิต มีการประชุมกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ผลออกมาอย่างพี่น้องรู้ว่า ต้องตั้งพรรคการเมือง แกนตามก็เลยต้องตามว่า ต้องตั้งพรรคการเมือง พี่น้องเห็นไหมครับเราว่าง่ายจะตาย ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่
หลัก 4 หลักของพรรคการเมืองใหม่ จะเรียกว่า คำขวัญ หรือสัญญาประชาคม ก็ได้ ที่บอกไว้ว่า ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ทำงานเป็น ผมแม้บอกกับเขาว่าขอไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ผมก็ร่วมในการช่วยกันคิดด้วยว่าเหมาะสมแล้วสำหรับ 4 คำนี้ ก็มีพันธมิตรฯ เสนอมาว่า ต้องมีคำอื่นเข้ามาอีก ผมบอกไม่ต้องหรอกยิ่งมากยิ่งเฝือใช่ไหมครับพี่น้องครับ 4 คำเราจำได้แม่นเลย เขาบอกว่า อย่างเช่น ต้องมีคำว่า อดกลั้น ผมก็บอกในที่ประชุมว่า ถ้าไม่อดกลั้นจะซื่อสัตย์ จะเสียสละได้อย่างไร ตกลงก็เป็นไปอย่างที่พี่น้องทราบ
พี่น้องรู้ไหมครับ คำว่า การเมืองใหม่นั้น ใครพูดเป็นคนแรกในแกนตาม หัวหน้าพรรคของท่านเมื่อวานนี้ ที่ได้รับเลือกตั้ง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดเรื่องการเมืองใหม่ พูดอยู่หลายอาทิตย์ ผมไปที่โรงเรียนผู้นำกาญจนบุรี เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง ผมลืมไปแล้ว หนังสือเล่มนั้น เขียนชื่อแปลเป็นภาษาไทยว่า จำลอง ศรีเมือง และการเมืองใหม่ ตรงเลยครับ ราวกับนัดไว้ ผมเลยต้องชี้แจงกับแกนตามว่า 21 ปี มาแล้ว ที่ผมและคณะเล็กๆ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ตอนนั้น ฝรั่งคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ ของประเทศอังกฤษ แล้วท่านทำปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยใช้ชื่อวิทยานิพนธ์ ว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
หลังจากนั้น ท่านมารวบรวมหนังสือเล่มหนึ่ง เอาเฉพาะเรื่องการเมืองที่ผมเกี่ยวข้อง แล้วตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า จำลอง ศรีเมือง and The new Thai poretic พี่น้องครับ เห็นไหม มันมีที่มาที่ไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผมก็เลยเรียนต่อแกนตามและใครต่อใคร ในหลายเวทีว่า ไปได้แน่ ไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน ไม่เหมือน 21 ปี ที่แล้ว เพราะอะไร 21 ปีที่แล้ว ผมออกมาพูดให้พี่น้องประชาชนฟังว่า การเมืองถ้าไม่ใช่เรื่องเสียสละ ไม่ใช่เรื่องที่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ บ้านเมืองเสียหายนะ เขาก็ไม่ค่อยเชื่อกัน วันนี้รู้พิษสงแล้วใช่ไหม ว่า การเมืองเก่าแบบนั้น ทำให้บ้านเมืองเสียหาย
วันนี้ คนส่วนใหญ่รู้พิษสงแล้ว ว่า จำเป็นต้องมีการเมืองใหม่ มิฉะนั้น บ้านเมืองเสียหาย และวันนี้ คนกลุ่มใหญ่นับแสนล้าน รู้เรื่องการเมืองดี ไม่ดีได้ยังไง ฟังการถ่ายทอด 24 ชั่วโมง 193 วันนะ นอกจากรู้เรื่องการเมืองดีแล้ว ยังเสียสละความสุขส่วนตัวมากินนอนกลางถนน เสียสละในการที่ร่วมเสี่ยง เสียแขน ขา ดวงตา เสียชีวิต เรียกว่า ทุ่มเทเพื่อชาติบ้านเมือง ในการจะมาช่วยแก้ไขเรื่องการเมืองโดยเฉพาะ สมัยก่อนไม่มี นี่ 2 แล้วนะ มีมวลชนเขาโกงเอ้าเขาโกงเอา เขาซื้อเสียงเอ้าซื้อเสียงเอา เราบอกว่า แพ้ก็แพ้ เพราะเราต้องการทำการเมืองให้บริสุทธิ์ เสร็จแล้วบางครั้งบางหนก็แพ้จริงๆ ครับ พี่น้องครับ วันนี้เรามีองค์กร เช่น องค์กร กกต. เป็นต้น ก็ยังมาช่วยเราได้บ้าง สมัยก่อนไม่มี
และประการที่ 4 สำคัญที่สุด คืออะไรครับ เรามี ASTV ใช่หรือไม่ ASTV เป็นสื่อที่มีพลานุภาพมากมายก่ายกองทีเดียว เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ที่เราตั้งพรรคขึ้นมานี้ ไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน สมัยก่อนเมื่อ 21 ปีที่แล้ว การเป็นแกนนำของรัฐบาลนั้นยาก ต้องซื้อเสียง ต้องเล่นวิชามารใส่ร้ายป้ายสีสารพัดสารพัน ถ้าไม่ได้เป็นแกนนำแล้วยังยึดมั่นอยู่ในการเมืองที่เสียสละ ที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เลือกตั้งครั้งต่อๆ ไปก็ไม่มีอะไรมาดึงประชาชนให้ลงคะแนนเลือก ส.ส.เรามากๆ เพราะอะไรครับ ไม่ได้เป็นแกนนำก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเท่าไหร่ก็จะฝ่อลงฝ่อลง แต่ฝ่อก็ฝ่อ เราไม่ยอมแปดเปื้อนการทำเรื่องไม่ดีในทางการเมืองและในเรื่องต่างๆ ด้วย
ต่อมามีคนมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนผม ทำตามกฎระเบียบของพรรคพลังธรรมทุกประการเลย ไม่โกงทั้งต่อหน้าและรับหลัง ไม่ซื้อเสียง ไม่แจกข้าวของเพื่อแลกคะแนนเสียง ไม่พูดปลด จ้วงจาบ หยาบช้า ใส่ร้ายป้ายสี ออกไปหาเสียงเต็มที่ ได้ ส.ส.มา 23 คน พี่น้องคงจำได้บ้าง หัวหน้าพรรคคนนั้นมาบอกกับผมว่า ทำอย่างผมเคร่งครัดแบบพลังธรรม ทำได้ครึ่งเดียวของผม เพราะผมเป็นหัวหน้าพรรคได้ ส.ส.47 คน เขาเป็นหัวหน้าพรรค ได้ ส.ส.23 คน เขาเห็นแล้วว่า ขืนอยู่พลังธรรมต่อไปไม่ได้เป็นแกนนำ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่ ตอนนั้นยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่แต่ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งประเทศได้ ส.ส.มาคนเดียว ผมเลยเชิญทั้งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคมาบอกว่า เราจบอย่างสวยงามของความเป็นพรรคพลังธรรม เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่เราไม่แปดเปื้อนอะไรเลย เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุผลว่า ครั้งที่แล้วนั้น 21 ปีมาแล้วนั้น เลือกตั้งครั้งแรกต้องเป็นแกนนำ ถ้าไม่เป็นแกนนำแล้วมันจะฝ่อไป แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นครับ ขอให้ได้มามากที่สุด ได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดี แม้ไม่ได้เป็นแกนนำ แต่เรามี 4 อย่างหนุน มีคนที่รู้ว่าต้องเอาการเมืองใหม่แล้วการเมืองเก่าใช้ไม่ได้แล้ว มีมวลชนมหาศาลมาหนุน มีองค์กรอิสระ ไม่ให้เขาโกงได้ง่ายๆ หรือซื้อเสียงง่ายๆ และมีเอเอสทีวี
พี่น้องเห็นไหมว่า มั่นใจเถอะครับว่า พรรคการเมืองใหม่ไปแน่ๆ วันนี้ นั่งอยู่ ณ ที่นี้ หรืออยู่ที่บ้าน จะรักพรรคไหนก็รักไป แต่เลือกตั้งครั้งหน้า เลือกพรรคการเมืองใหม่แค่นี้ นี่คือพันธมิตร เพราะอะไรครับ เพราะพรรคการเมืองใหม่นั้น เป็นเครื่องมือหนึ่งของพันธมิตรใช่หรือไม่ ถ้าเรายังเป็นพันธมิตรฯ เราก็ต้องเลือกการเมืองใหม่
พี่น้องครับ วันนี้ เป็นวันที่เรารำลึกถึง 7 ตุลา เรามีการจัดงาน จัดการต่อเนื่อง 2 วัน วันนี้และเมื่อวานนี้ เราเรียนไปแล้วเรื่องพรรคการเมืองใหม่ วันนี้ ตั้งแต่เช้ามาเลย พวกเราไปก่อน 6 โมงเช้าอีก มีการตักบาตรที่ไหนในประเทศไทย ที่คนไปกันเยอะอย่างนี้ และพันธมิตรฯทำอะไร พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง ต้องยืนหยัด แม้บางครั้งไม่สบอารมณ์คนบางคน เราพยายามชี้แจงเขา
พี่น้องเคยได้ยินไหม ไปงานตักบาตรที่ไหน ที่พระบอกให้โฆษกประกาศให้พวกเราทราบว่า พี่น้องพันธมิตรฯครับ การตักบาตรวันนี้ กรุณาอย่าเอาข้าวสาร อาหารแห้งใส่บาตรนะครับ เอาถึงขนาดนี้เลย เกิดมากระทั่ง 74 ปี 3 เดือน 2 วัน ยังไม่เคยเจอเลย ที่ไหนกล้าทำอย่างนี้ แล้วพี่น้องก็ไม่โกรธ เข้าใจ เพราะอยู่ในพระธรรมวินัย ในพระพุทธศาสนาว่า พระออกบิณฑบาตนั้น ห้ามรับข้าวสารอาหารแห้ง เพราะพระภิกษุสงฆ์นั้น จะเอาไปหุง ไปต้ม ไปผัด ไม่ได้ทั้งนั้น ได้ไปแล้วต้องไปฉัน ฉันเสร็จคว่ำบาตร พรุ่งนี้เช้าออกบิณฑบาตต่อ ไม่มีการสะสม พระพุทธศาสนากำหนดอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น พี่น้องเข้าใจแล้ว เรายืนหยัดความถูกต้อง แม้ใส่บาตรยังทำให้ถูกต้อง และท่านกำหนดในพุทธศาสนาว่า ออกบิณฑบาตรับแต่อาหารมาฉัน อย่าไปรับเงินทอง เมื่อเช้านี้ เราเลยไม่มีโอกาสใส่บาตรพระด้วยธนบัตรของเรา ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
พี่น้องครับ สายมาหน่อยเป็นไง มีดนตรี เพลงแรกที่ขึ้นมา พี่น้องอาจจะจำได้ เพลงอธิษฐานใช่ไหม ผมนั่งติดกับ พล.อ.ปานเทพ นักเรียนรุ่นน้องผม 2 รุ่น เราเลยนึกความเก่าๆ สมัยเป็นนักเรียนนายน้อย เราถูกเกณฑ์ให้ดูละครของ หลวงวิจิตรวาทการ ในชุดที่ชื่อว่า อานุภาพแห่งความเสียสละ เพลงอธิษฐาน เป็นเพลงเอกในละครเรื่องนั้น และที่ๆเราไปดู ก็ติดกับลานพระบรมรูปทรงม้า เคยเป็นหอวัฒนธรรมมาก่อน
พี่น้องครับ เราถูกเกณฑ์ไป เราไม่สบายใจ เราจะดูหนังสือ ผู้บังคับบัญชาก็บอกให้ไปดูละคร พอกลับมาเท่านั้น รุ่นต่อๆ ไป แย่งไปดูกันใหญ่ เพราะละครจริงใจ พยายามที่จะปลุกเรา ให้เรากล้าหาญ เสียสละ และหลังจากนั้น มีการขึ้นไปกล่าวถึงวีรชนที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่ชุมนุม ผมต้องเรียนต่อท่านทั้งหลายว่า พวกผมเป็นทหาร ใครว่าอะไร ถูกเรา โดนเราทั้งนั้น ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารที่รับราชการขณะนี้ หรือทหารที่เกษียณแล้วก็ตาม ทหารต้องเป็นทหารจนตาย
คนที่ออกมากล่าวคนแรก คือ คุณวิชุดา แม่น้องโบว์ พี่น้องจำได้ไหม คำหนึ่งสะกิดใจพวกเรา ทหารหาญเป็นอย่างยิ่ง คุณวิชุดา พูดว่า ที่น้องโบว์ต้องเสียชีวิตในการชุมนุมเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน รวมทั้งพันธมิตรฯอีกหลายคน ต้องเสียชีวิต ต้องขาขาด แขนขาด เสียดวงตา และบาดเจ็บนั้น เป็นเพราะประเทศเราไม่มีทหารครับ
ถ้าพี่น้องเป็นอย่างพวกผม เป็นทหาร พี่น้องสะท้อนใจไหม สะกิดใจไหม ว่า เขาว่าวันนี้ไม่มีทหาร วันนี้ประเทศไทยไม่มีทหาร พี่น้องครับเรียนซ้ำอีกทีหนึ่ง พวกผมนั้นเรียนมาเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน ฝึกมาเพื่อปกป้อง 3 สถาบัน รับเงินเดือนโดยการทำหน้าที่ปกป้อง 3 สถาบัน ได้เหรียญได้ตราก็เพราะทำหน้าที่นี้ และเมื่อออกไปปฏิบัติการพิเศษ เช่น ไปรบในสมรภูมิลาว ในสมรภูมิเวียดนาม ได้เงินเดือนอยู่แล้ว เมื่อออกไปปฏิบัติการพิเศษได้เบี้ยเลี้ยงพิเศษอีก และถ้าโชคร้าย เสียขา เสียแขน เสียดวงตา เขามีเงินทำขวัญให้มากจังเลย มากเพราะ แขน ขาหาอีกไม่ได้ ดวงตาเสียไปแล้วเสียไปเลย ยังได้เงินทำขวัญอีกมากมาย และได้เงินเพิ่มสู้รบมากกว่าเงินเดือนตั้งหลายขั้น ยกตัวอย่าง ผมได้น้อยหน่อยเพราะผมไปมา 2 วีคเท่านั้น ไปวีคเวียดนาม ได้เพิ่มกว่าเงินเดือน 4 ขั้น ไปวีคลาว เพิ่มกว่าเงินเดือน 5 ขั้น รวมแล้วได้เงินเพิ่มสู้รบมากกว่าเงินเดือน ถึง 9 ขั้น รับราชการได้ปีละขั้น นานๆ ถึงจะได้ 2 ขั้น แล้วพวกเราพันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุม มีหน้าที่โดยตรงในการปกป้อง 3 สถาบันหรือเปล่า เปล่า ได้เงินเดือนหรือเปล่า ได้เบี้ยเลี้ยงพิเศษหรือเปล่า เคราะห์ร้ายเสียขา เสียแขน เสียดวงตา ได้เงินปลอบขวัญหรือเปล่า แล้วได้เงินเพิ่มสู้รบหรือเปล่า เวลาจัดพิธีศพ มีธงชาติคลุม มีพิธี มีกองทหารเกียรติยศ พวกเราไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ ต้องนึกถึงวีรชน 7 ตุลา ให้มากที่สุด
ท่านพี่น้องครับ เราชุมนุมอย่างสงบ เราทำตามคำที่เราบอกมาโดยตลอด ผมขอย้อนไปอีกนิดหนึ่งนะครับว่า 7 ตุลา ผมไม่ได้อยู่ที่หน้ารัฐสภา ผมไปอยู่ที่ลาดยาว เพราะอะไรพี่น้องจำได้แล้ว ตอนที่เราชุมนุมกันอยู่ในทำเนียบ เขาออกหมายจับว่าเราเป็นกบฏ เราบอกว่าเราไม่ใช่ เราไม่ยอมไปมอบตัว ถ้ามอบตัวแสดงว่าเรารับทราบว่าเราอาจจะเป็นกบฏ ไม่ใช่ อาจจะไม่มีทั้งสิ้น เราไม่ใช่กบฏ เรามาต่อต้านปราบกบฏต่างหาก กลับถูกหาว่าเป็นกบฏ เราเลยตกลงกันว่า เราไม่มอบตัว ไม่ออกนอกทำเนียบ อยากจับก็เข้ามาจับในทำเนียบ และเราก็ยื่นอุทธรณ์ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ยกหมายกบฏ
พี่น้องครับ และมาถึงวันที่ 5 ตุลาคม กรุงเทพฯมีอะไรครับ มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมบอกกับคน 2 คน ก่อนที่ผมจะออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง คนแรก คือ คุณสนธิ บอกพวกเรา บอกแกนตาม บอกพันธมิตรฯด้วยว่า ผมจำเป็นต้องไปลงคะแนนเลือกตั้ง แม้จะจับ ก็ไม่เป็นไร เพราะอะไร เพราะผมเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมา 6 ปี เต็ม ผมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดียวของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ที่ได้รับรางวัล แมกไซไซ จากประเทศฟิลิปปินส์ ได้รางวัลบุคคลดีเด่นแห่งเอเชีย จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดียว ที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ และตอนที่เป็นผู้ว่าฯนั้น ต้องจัดการเลือกตั้ง ต้องออกไปรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น หรือประเทศก็ตาม พี่น้องครับ แล้วผมจะอ้างยังไง ไปลงคะแนนไม่ได้ ถึงแม้จะเคยเป็นผู้ว่าฯ ที่รณรงค์เรื่องนี้มากมาย เพราะเดี๋ยวตำรวจจับ
ถ้าอย่างนี้ ไม่ใช่พันธมิตรฯ ถูกต้องไหมครับ ถ้ากลัวอย่างนี้ไม่ใช่พันธมิตรฯ ผมเลยบอก คุณสนธิว่า ผมมีความจำเป็นเฉพาะตัวผม ผมต้องออกไปลงคะแนน ผมก็รีบบึ่งไปที่เวทีทำเนียบ ไปบอก คุณปอง อัญชลี ถ้าคุณได้ข่าว ผมไปลงคะแนนแล้วถูกจับ คุณอย่าเพิ่งพูดไป คุณรอเวลาขังผมในคุกก่อน จะได้ไม่มีใครตามไป และผมบอกคุณสนธิว่า พวกเราอย่าตามไปแม้กระทั่งคนหนึ่ง ก็ไม่ต้องตาม เสร็จแล้วก็เป็นอย่างที่พี่น้องทราบ
ผมถูกขังวันที่ 5 6 7 8 9 ขณะที่ถูกขังเป็นการประท้วงกระบวนการยุติธรรมด้วย ว่า คนชื่อจำลอง ศรีเมือง ถูกติดตาราง เพราะถูกหมายจับกบฏ และพวกเราไม่ใช่กบฏ ทำไมถูกหมายจับตามกัน ระหว่างที่ผมติดคุก ศาลเลยยกหมายจับ ใช่หรือเปล่า หมายจับกบฏศาลยกไปเรียบร้อย เพราะเราถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม
พี่น้องครับ ในเหตุการณ์ที่เราต้องสูญเสียคนที่รัก เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ลืม ต้องนึกถึงเขาตลอดเวลา เราต้องนึกถึงบุญคุณเขา ที่ชาติบ้านเมืองของเรา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันอยู่รอดปลอดภัย เพราะมีคนเช่นเขา เพราะมีคนเสียสละ เพราะมีคนกล้าหาญ กล้าเสี่ยง แม้กระทั่งชีวิตอย่างพวกเรา บ้านเมืองจึงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าบ้านเมือง เต็มไปด้วยคนไม่เอาไหน ไม่รู้ร้อนรู้หนาว อยู่บ้านเฉยๆ สบายๆ ป่านนี้เจ๊งไปนานแล้ว
พี่น้องครับ วันนี้ผมใส่เสื้อสวยนะ 7 ตุลา 2551 ต้องไม่สูญเปล่า ทำอย่างไรไม่สูญเปล่า ฟังแกนตามคนต่อไป เพราะอะไร เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือเปล่า เราเรียกร้องรัฐบาล 2005 ออกไปแล้ว วันนี้ เขาจะเอารัฐธรรมนูญมาแก้อีก ถ้าเขาแก้ได้ ก็แสดงว่า เสื้อที่เราใส่หมดค่า 7 ตุลา ต้องไม่สูญเปล่า ฟังแกนตามคนต่อไปมาไข แล้วเราจะทำอะไร ขอบคุณครับ
