xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้เต้น” สู่รู้ เชื่อ “การเมืองใหม่” แย่งฐานเสียง ปชป. ไข่แม้วลอยตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
“ณัฐวุฒิ” มั่นใจ “พรรคการเมืองใหม่” จะแย่งฐานคะแนนเสียงปชป. ไม่กระทบ “เพื่อไทย” แขวะ “สนธิ” ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป อาจต้องเผชิญคดีที่คั่งค้าง ของขึ้นแว้งกัดเอเอสทีวีผู้จัดการ รายงานข้อมูลเท็จ โบ้ยซื้อบ้านก่อน “แม้ว” ถูกยึดอำนาจ อวดรวยลั่นไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอก

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีในฐานะของนักเคลื่อนไหวที่มีความสนใจทางการเมืองมาร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมือง เพราะถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน แต่ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้นมองว่าพรรคการเมืองใหม่มีฐานคะแนนเสียงเดียวกับของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยจะไปลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองใหม่ แต่เป็นไปได้ที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะไปลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับพรรคเพื่อไทยไปในตัว เพราะคะแนนของพรรคเพื่อไทยจะยังนิ่งอยู่อย่างนั้น

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า การเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ของนายสนธินั้น เจ้าตัวต้องอธิบายหลายเรื่อง ดังนี้ 1.ขัดกับคำพูดที่เคยประกาศมาตลอดหรือไม่ว่าจะไม่เข้าไปรับตำแหน่งทางการเมือง 2.นายสนธิต้องประกาศตัวอย่างเต็มที่ว่าจะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และประกาศวิสัยทัศน์ว่าจะแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และสังคมในขณะนี้อย่างไร และ 3.ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี จะทำอย่างไรกับคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน รวมถึงอีกหลายคดีที่ยังติดตัวอยู่ หากตำรวจแจ้งข้อหาหรือออกหมายเรียกหมายจับ ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ หรือจะเอาม็อบไปบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกดดันให้เปลี่ยนข้อหา ดังนั้นจึงน่าสนใจว่า จากนี้ไปหากกลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไหวทางการเมืองนายสนธิจะไปร่วมด้วยได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยบางคนก็ไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคเหมือนกับนายสนธิ ส่วน ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงนั้น ก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค

นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงกรณีที่โทรทัศน์เอเอสทีวี และเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ นำเสนอรายงานพิเศษเบื้องหลังชีวิตของนายณัฐวุฒิว่า รวยขึ้นหลังเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า กรณีบ้านที่สนามบินน้ำนั้น เป็นบ้านที่ตนอาศัยอยู่ในปัจจุบัน และอยู่มาตั้งแต่ต้นปี 2548 แล้ว ทำสัญญาซื้อขายเท่าไหร่ ดาวน์บ้านไปเท่าไหร่ และผ่อนเดือนละเท่าไหร่นั้น เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้ยื่น ป.ป.ช.ไปทั้งหมด มีหลักฐานทุกอย่าง ที่สำคัญจะเป็นไปได้อย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ซื้อบ้านหลังดังกล่าวให้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาซื้อบ้านให้กับตน ก่อนที่จะถูกยึดอำนาจตั้ง 1 ปีกว่า เพราะจะรู้ได้อย่างไรว่าอีก 1 ปีกว่า จะถูกยึดอำนาจจึงต้องมาซื้อบ้านให้ ส่วนรถยนต์นั้นก็ยืนยันว่าตนเป็นคนซื้อเอง

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า สำหรับกรณีที่บอกว่าแม่ของตนขายข้าวแกงแล้วเจ๊งจนต้องหนีหนี้ไปอยู่ที่อื่นนั้น ที่บ้านตนทำกิจการรีสอร์ตในพื้นที่ซึ่งมีลูกค้าเยอะ แม่จึงมาช่วยเท่านั้นเอง และลูกค้าที่รีสอร์ตก็เยอะตามปกติ ส่วนที่บอกว่ามีญาติพี่น้องของตนอายจนต้องเปลี่ยนนามสกุลนั้น ยืนยันว่าไม่มี ไปเอาตัวมาให้ดูหน่อยว่าคนไหนที่เปลี่ยนนามสกุลหนี

“คนในพื้นที่ที่เอามาพูดนั้น อยากให้เอาคนที่น่าเชื่อถือหน่อย เพราะคนที่พูดนั้นคนหนึ่งเป็นกะเทยอยู่แถวนั้น คนในพื้นที่ฟังข่าวนี้แล้วยังขำว่ากะเทยคนนี้มาให้ข่าวได้ด้วยหรือ ส่วนอีกคนก็ตัวผอมๆ เป็นลูกน้องเจ้ามือไฮโลโปปั่นในพื้นที่ และที่บอกว่าผมกลับบ้านไม่ได้นั้น การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีที่ผ่านมา ผมก็เพิ่งจะกลับไปบ้านมา 5 วัน ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ผู้ประกาศเอเอสทีวีที่บอกว่า ผมไม่มีอะไรเลยนั้น อยากรู้ว่าคนที่นั่งพูดอยู่ตรงนั้นมันกับผมใครมีอะไรมากกว่ากัน ผมไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม่ตอกนะ ซัดผมได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องเอาความจริงมาว่ากัน” นายณัฐวุฒิกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น