อนุกรรมการไต่สวน กกต.เตรียมสรุปผลการวินิจฉัย คำร้องนายกฯแทรกแซงการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.8 ต.ค.แต่คาดเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง จึงไม่ขัดกับมาตรา 266(2)
วันนี้ (4 ต.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ทำหนังสือร้องเรียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์แทรกแซงข้าราชการ ตำรวจ ทั้งในเรื่องการแต่งตั้งรักษาการ ผบ.ตร.และให้ ผบ.ตร.ในขณะนั้น คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีเจตนาเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ว่า หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว และได้มีการขยายเวลาสอบไปครั้งหนึ่ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 8 ต.ค.ซึ่งยังไม่ทราบว่า ทางคณะกรรมการได้ดำเนินการเสร็จสิ้นหรือไม่ หรือหากยังไม่แล้วเสร็จก็ต้องมีเหตุผลในการที่จะขอขยายระยะเวลาออกไปได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต.ว่าจะอนุญาตหรือไม่
รายงานแจ้งว่า สำหรับการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวนี้ ซึ่งคณะกรรมการไต่สวนฯได้ทำหนังสือเชิญให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงหากไม่สะดวกมาชี้แจงด้วยตัวเองก็สามารถทำหนังสือชี้แจงมาก็ได้ ซึ่งทราบว่า นายกรัฐมนตรีก็ได้ชี้แจงมาแล้วว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องดูรายงานเอกสารอื่นว่า ในกรณีดังกล่าวนี้ การดำเนินการของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการแทรกแซงหรือไม่ อย่างไร และมีอะไรที่ชี้ชัดว่า นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทรกแซง และมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งหรือไม่อย่างไร แต่เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบว่า นายกรัฐมนตรีมีพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางที่มิชอบ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง จึงไม่ขัดกับมาตรา 266(2) ประกอบมาตรา 268 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ นายกฯ สิ้นสุดลงมาตรา 182(7)