รบ.เผยผู้นำอาเซียนถูกโฉลก หัวหิน-ยัน “ฮุนเซน” มาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำแน่

“ศุภชัย” ระบุ ผู้นำอาเซียน มั่นใจสมรภูมิ หัวหิน เตรียมร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน 23-25 ต.ค.นี้ วอน ปชช.เป็นเจ้าภาพที่ดี สร้างความเชื่อมั่นกลับคืน แนะชาวหัวหินอย่าตกใจ พ.ร.บ.ความมั่นคง แค่มีเอาไว้กันคนเลว “กต.” ยัน ฮุนเซน มาร่วมประชุมอาเซียนแน่

วันนี้ (2 ต.ค.) ที่สวนสาธารณะโผนกิ่งเพชร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดสัมมนาเรื่อง “การเตรียมความพร้อมของไทยในการจัดประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมโครงการ “โฆษกสัญจรครั้งที่ 3” ที่นำสื่อมวลชนจากทำเนียบรัฐบาล มาดูความพร้อมในการจัดประชุม โดยมีหลายภาคส่วนในจังหวัดประจวบ ร่วมรับฟังหลายร้อยคน

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นโชคร้ายของบ้านเมืองที่การประชุมอาเซียนซัมมิต ที่เมืองพัทยา ได้ถูกกลุ่มผู้ที่มีความเห็นแตกต่างทางการเมืองในที่นี้ ตนไม่ขอระบุสี แต่เชื่อว่า ทุกคนคงทราบกันดี ได้เข้าไปยึดสถานที่การประชุม ทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศและของอาเซียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อตกลงที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยและอาเซียน เพราะผู้ที่มาร่วมประชุมล้วนเป็นประเทศคู่เจรจาที่เป็นมหาอำนาจของโลก ดังนั้น การที่รัฐบาลตัดสินใจมาประชุมที่ อ.หัวหิน และ อ.ชะอำ อีกครั้ง เป็นเพราะการประชุมดังกล่าวถูกโฉลกกับที่นี่ ดังนั้น ขอให้ชาวหัวหิน และชะอำ ช่วยเป็นเจ้าภาพที่ดีอีกครั้ง

“จากสถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยยังติดภาพลบในสายตาชาวต่างชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวหายไป 50% และใน 50% นั้น ก็มีนักท่องเที่ยวที่จะมาหัวหินหายไปด้วย ดังนั้น ภาพพจน์การประชุมครั้งนี้จะกู้หน้าคืนได้หรือไม่ อยู่ในมือของคนหัวหินทุกคน อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมคนไม่ดี ดังนั้น ชาวหัวหินอย่าได้ตกใจ” นายศุภชัย กล่าว

ขณะที่ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้นำทั้ง 15 ประเทศ ที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนได้เชิญมาร่วมประชุม ซึ่งได้รับการตอบกลับ ว่า จะเข้าร่วมประชุมทั้งหมดแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมกันของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการยืนยันกันอีกครั้งว่า จะมาร่วมประชุมอย่างแน่นอน ซึ่งทุกชาติก็ดีใจที่ได้กลับมาประชุมที่ชะอำ-หัวหิน อีกครั้ง

ส่วนกระแสข่าวที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา จะไม่ได้เดินทางมานั้น นายธานี กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากผู้นำทุกประเทศแล้วว่าจะเดินทางมาร่วมประชุม รวมทั้งสมเด็จฮุนเซน ก็ยืนยันว่า จะเดินทางมาร่วมประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย สมเด็จฮุนเซน ได้ส่งทีมงานมาสำรวจสถานที่ประชุม และที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในสัปดาห์หน้าเอกอัครราชทูตของชาติผู้นำที่จะเข้าร่วมประชุมก็จะได้เดินทางมายังโรงแรมดุสิตธานี เพื่อดูความพร้อมในการจัดเตรียมสถานที่และห้องพักต่างๆ

รองอธิบดี กล่าวอีกว่า สำหรับกำหนดการเดินทางมาร่วมประชุมของผู้นำแต่ละชาตินั้น จะทยอยเดินทางเข้ามาพักตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.และช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 23 ต.ค. โดยในส่วนของที่ประชุมยังคงใช้โรงแรมดุสิตธานี เป็นสถานที่ประชุม โรงแรมเชอราตันจะเป็นในส่วนของศูนย์สื่อมวลชน และโรงแรมที่พักของหัวหิน และชะอำกว่า 10 แห่งจะมีผู้นำแต่ละชาติเข้าพัก อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้จะมีชาวต่างประเทศเดินทางมาที่นี่ประมาณ 3 พันกว่าคน โดยแบ่งเป็นสื่อมวลชนจากทั่วโลกถึงพันกว่าคน

“ความพร้อมในการประชุมเกิน 95% แล้ว มีการเตรียมเอกสารการประชุมที่สมบูรณ์ ปฏิญญา เหลือเพียงเรื่องของการเตรียมห้องประชุมที่รอการออกแบบ จากนั้นจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งจะเริ่มติดตั้งตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เป็นต้นไป” รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าว

ด้าน นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเป็นเจ้าภาพที่ดี สนามบินบ่อฝ้าย จะเป็นด่านแรกที่สร้างความประทับใจให้กับผู้นำ ดังนั้น ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการเข้าไปปรับปรุงภูมิทัศน์ของสนามบินให้ดูดีขึ้น ทั้งนี้ ตนขอให้ชาวประจวบช่วยเป็นเจ้าภาพที่ดีด้วยการส่งยิ้มสยามให้กับผู้เข้าร่วมประชุมด้วย

ส่วน พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสนคล้าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ ถ้าเห็นบุคคล ยานพาหนะ หรือสิ่งปกติให้รีบแจ้งเข้ามา เพื่อจะได้รีบเข้าไปดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดการจราจรนั้น จะไม่ใช้วิธีการปิดถนน แต่จะเปิดช่อง “อาเซียนเลน” ซึ่งเป็นเลนเดี่ยวที่ติดกับเกาะกลางสำหรับให้ผู้นำวิ่งเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)ได้ส่งกำลังของ กอ.รมน.ลงมาในพื้นที่ของชะอำและหัวหิน เพื่อขอความร่วมมือกับ จ.เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ในการทำสำรวจยานพาหนะในพื้นที่ว่าบ้านไหนมีรถกี่คัน เลขทะเบียนอะไร เพื่อจะได้ตรวจสอบได้ว่ามีรถจากนอกพื้นที่เข้ามาในช่วงการประชุมหรือไม่

“เบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดที่ชัดเจน ว่า จะมีการแบ่งการรับผิดชอบอย่างไร ระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่กังวลใจกับความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลการปฏิบัติหน้าที่มั่นใจว่า จะสามารถดูเเลความปลอดภัยให้กับผู้นำได้ เพราะเคยมีประสบการณ์การทำงานจากการประชุมครั้งก่อน รวมถึงยังไม่มีรายงานการเคลื่อนไหวจากกลุ่มคนเสื้อเเดงด้วย” ผบ.ภูธร จ.ประจวบฯ กล่าว