xs
xsm
sm
md
lg

“นพเหล่” โยนชั่วให้ พธม.-อ้างปลุก “คลั่งชาติ” จุดชนวนพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพดล ปัทมะ
“นพดล” ไม่สำนึก ออกแถลงการณ์แถได้อีก โบ้ยพันธมิตรฯ ต้นตอปัญหาชายแดนจากการเมืองภายใน อ้างจุดกระแสคลั่งชาติ บิดเบือนข้อมูล ทำปัญหาชายแดนเขมรยืดเยื้อ อ้างแถลงการณ์หวังเจรจาคลี่ปัญหา เตือนรัฐบาลกำลังเสี่ยงพาประเทศเสียดินแดน ไม่เชื่อน้ำยา นายกฯแก้ปัญหาได้

วันนี้ (2 ต.ค.) นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัญหาปราสาทพระวิหารเกิดจากแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลชุดก่อน ว่า ตามที่ นายอภิสิทธิ์ ตอบกระทู้ในสภา ว่า ปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทพระวิหารเกิดจากสมัยรัฐบาลสมัครและนายนพดล ไปลงนามคำแถลงการณ์ร่วมนั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ความจริงปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีคนไทยสองกลุ่มต้องการล้มรัฐบาลนายสมัครและตน จึงทำเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องการเมือง และจุดกระแสคลั่งชาติ โดยบิดเบือนข้อมูลทำลายกันทางการเมือง คนสองกลุ่มคือ กลุ่มพันธมิตรฯ และนักการเมืองที่นายอภิสิทธิ์รู้ดี เพราะเมื่อคนของกลุ่มพันธมิตรฯเดินทางเข้าไปในพื้นที่ ทำให้กัมพูชาต้องส่งทหารเพิ่มเข้ามา และไทยจึงจำเป็นต้องส่งทหารเข้าไปตรึงกำลังในพื้นที่ทับซ้อน นี่คือ สาเหตุความตึงเครียด ทั้งๆ ที่รัฐบาลสมัคร ต้องการแก้ปัญหาโดยการเจรจา ที่ผ่านมา รัฐบาลสมัคร และตนได้ทำการเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจนสำเร็จ จนกัมพูชายอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ถ้ากัมพูชาขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนเป็นมรดกโลกได้ เชื่อว่า ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนจะรุนแรงมากกว่านี้ และเราจะสุ่มเสี่ยงที่จะเสียพื้นที่ทับซ้อน นี่คือ สิ่งที่พวกตนได้ทำเพื่อชาติ

นายนพดล ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างปัญหาขึ้นในอนาคต เพราะไปยึดถือแผนที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เคยใช้ในอดีต การที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ทำบันทึกข้อตกลงกับกัมพูชา ในปี 2543 ไปยอมรับแผนที่ที่ศาลโลกใช้ตัดสินให้ไทยแพ้คดีเสียปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาในปี 2505 มาเป็นหลักในการปักปันเขตแดน และแผนที่สมัยนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐมนตรี ได้ประกาศเขตอุทยานพระวิหารที่ไม่รวมพื้นที่ตัวปราสาทพระวิหารเอาไว้ ซึ่งแผนที่สองฉบับสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ไทยถูกปิดปากในอนาคต ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์เลิกการโยนบาปให้คนอื่น และเลิกนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น และเป็นผู้ใหญ่เสียที เพราะนายอภิสิทธิ์เองก็ยอมรับว่า ในขณะนี้แถลงการณ์ร่วมสิ้นผล และมีการยกเลิกไปแล้ว และกัมพูชาก็ไม่เคยยอมรับว่ามันป็นสนธิสัญญา มันไม่ผูกพันเราในทางกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้น ในขณะนี้นายกฯไม่สามารถโทษคนอื่นได้แล้ว โยนบาปไม่ได้แล้ว ตนจะรอดูว่านายกฯมีความสามารถแก้ปัญหาที่ยากนี้ได้หรือไม่ แต่เท่าที่สังเกตดูจากวิธีการแก้ปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.แล้ว กล้าพูดได้เลยว่านายกฯจะไม่สามารถแก้ปัญหาปราสาทพระวิหารได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้ว่า นายนพดล มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เพราะส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยและคนไทยทุกคน กรณีที่ นายนพดล ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2551 ซึ่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษาแล้วว่าเป็นการกระทำที่ผิดมาตรา 190

นอกจากนี้ ในคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ยังระบุว่า นายสมัครได้เป็นผู้ขอให้นายนพดล ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือ นายฮุน เซน ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2551 อันเป็นการนำผลประโยชน์ของประเทศชาติมาใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงของพรรคการเมืองต่างประเทศ นายสมัครจึงมีเจตนาร่วมกระทำความผิดกับนายนพดล จึงเป็นการส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยและคนไทยทุกคน มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เช่นเดียวกัน

**เปิดรายละเอียดคำแถลง ป.ป.ช.เชือด “สมัคร-นพดล”ยกแผ่นดินให้เขมร**
กำลังโหลดความคิดเห็น