นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัว ยื่นหนังสือปธ.สภาฯ ทวงความเป็นธรรมให้ ร.ท.หญิงที่ถูก พล.อ.ข่มขืน จี้สภาออก กม.ขจัดความรุนแรงในที่ทำงาน ช็อกยศนายพลอยู่เหนืออภิสิทธิชน ปูดข่าวมี “พลตรี” ข่มขืนผู้ใต้บังคับบัญชาโผล่อีกราย
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่รัฐสภา นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข พร้อมด้วย ร.ท.หญิง แก้ว (นามสมมติ) ที่ถูกผู้บังคับบัญชายศพลเอกข่มขืน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการกิจการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรีผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ของทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ เพื่อขอให้ดำเนินการออก พ.ร.บ.ขจัดการกระทำรุนแรงในที่ทำงาน โดยนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายสามารถกล่าวว่า ตนได้รับฟังข่าวดังกล่าวมาโดยตลอดเห็นว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ในความสนใจของสมาชิกส่วนใหญ่ ไม่เฉพาะแค่ ส.ส.หญิง แต่รวมถึง ส.ส.ฝ่ายชายด้วย ซึ่งตนรับจะไปดำเนินการตรวจสอบว่ามีร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ หากไม่มีก็จะยกขึ้นมาหารือร่วมกับ ส.ส.สตรี เพื่อให้ยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น หรืออีกช่องทางรัฐธรรมนูญ เปิดให้ประชาชนสามารถเสนอร่างกฎหมาย เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการยกร่างกฎหมายดังกล่าว พิจารณาในรัฐสภาในชั้นคณะกรรมาธิการ จะเสนอให้มีตัวแทนกลุ่มสตรีและภาคเอกชน เข้ามาร่วมพิจารณาด้วย
ด้าน นางระเบียบรัตน์กล่าวว่า ตนอยากให้เนื้อหาใน พ.ร.บ.เป็นการป้องปรามการล่วงละเมิดทางเพศและการกระทำรุนแรงในที่ทำงาน ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย และกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายฉบับพิเศษ จึงจะขอเสนอให้บังคับใช้กับข้าราชการทุกกระทรวง ไม่ยกเว้นแม้กระทรวงกลาโหม เพราะรู้สึกช็อกที่ไม่มีการกำหนดบทลงโทษแก่นายทหารชั้นนายพล ในขณะที่ข้าราชการพลเรือนอย่างกรณีมีผู้ใหญ่ในกระทรวงคมนาคม มีปัญหากับแอร์โฮสเตส ก็ยังจะถูกริบเครื่องราชฯ คืน ตนขอฝากความหวังไว้กับสภาในการผลักดันในร่างกฎหมายนี้ต่อไป โดยตนเห็นว่าหากเป็นไปได้ควรเร่งผลักดันกฎหมายดังกล่าว ในช่วงเปิดประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัตินี้ เพื่อจะได้เป็นกฎหมายคุ้มครองสตรีจากการถูกล่วงละเมิด ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าที่ทำไม่ใช่เพราะอยากดังตามที่ถูกกล่าวหา แต่อยากให้มีการพิสูจน์ความผิดถูกในชั้นศาล ซึ่งล่าสุดศูนย์ประสานงานของสมาคม ได้รับแจ้งจากสตรีคนหนึ่งว่า ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันจากนายทหารยศพลตรี ซึ่งเรื่องนี้ตนต้องตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
