xs
xsm
sm
md
lg

“ไอ้ตู่” คลั่งจาบจ้วง “ป๋า” อยู่เบื้องหลังองค์กรอิสระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จตุพร พรหมพันธุ์
“จตุพร” แสดงธาตุแท้ถือหางเสื้อแดง ไม่เห็นหัว ปชช.คนส่วนใหญ่ โวยวายไม่ต้องทำประชามติ ยึด รธน.ปี 40 เป็นหลัก แหกปากโวย คตส.มีอคติพ่อ “แม้ว” เลือกทำคดีทุจริต กลับลำเป็นพยานให้ “เนวิน” หลังเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาล คลั่งจาบจ้วงป๋าอยู่เบื้องหลังแทรกแซงองค์กรอิสระ

วันนี้ (24 ก.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่วิป 3 ฝ่ายได้เจรจาที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการใน 6 ประเด็นตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ ปฏิรูปการเมือง เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้นั้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะดำเนินการแก้ไขกันอย่างไร เพราะว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 291 เป็นเรื่องของประชาชนและสมาชิกรัฐสภา ส่วนเรื่องการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ไม่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ หากต้องการตั้ง ส.ส.ร.จะต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มี ส.ส.ร.ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้น ยังไม่มีความจำเป็น หากจำเป็นต้องทำจะต้องทำในเงื่อนไขเดียวเท่านั้น คือ ให้ประชาชนเลือกระหว่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับปี 2540 ว่า ประชาชนต้องการฉบับไหน เพราะนี่คือจุดยืนของคนเสื้อแดง จากนั้นรัฐสภาค่อยแก้ไขตามมติของประชาชน ส่วนการที่ ส.ว.บางส่วนให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อศึกษาอีกครั้ง เห็นว่า เรื่องนี้เป็นการซื้อเวลาไม่มีความจริงใจ และยังไม่มีความจำเป็น ทั้งนี้ ร่าง คปพร.ที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอให้มีการแก้ไขยังอยู่ในวาระการพิจารณาแรกของรัฐสภา แต่ยังไม่มีการหยิบขึ้นมาพิจารณา แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม

นายจตุพร กล่าวต่อว่า คดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกมาตอบโต้เรื่องการพิจารณาคดีกล้ายางนั้น โดย คตส.จะต้องตอบคำถามมากกว่าเรื่องคดีกล้ายาง เนื่องจากเริ่มแรกที่มีการของบประมาณ 60 ล้านบาท และตั้งธงว่าจะดำเนินคดี 13 คดี แต่ท้ายที่สุดได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า สมาชิกพรรคไทยรักไทยคนใด ย้ายออกจากพรรคก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 คดีความที่อยู่ใน คตส.จะถูกดึงเรื่องไว้ทั้งหมด หมายความว่า จะเลือกดำเนินคดีเฉพาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับคนที่ยังอยู่ในพรรค ทำให้คดีกล้ายางยังมีการพิจารณาอยู่ แต่เมื่อ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ย้ายข้าง กลับปรากฏว่า นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ขึ้นเป็นพยานทำให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายจำเลย จึงอธิบายได้ว่าคณะกรรมการชุดนี้จิตวิญญาณในการพิจารณคดีด้วยความเสมอภาคไม่มี

นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีความที่ยังอยู่ในการพิจารณาคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทางการเมืองโดยส่วนใหญ่จะเป็นคดีความของพรรคประชาธิปัตย์ได้ถูกดึงไว้ และยังไม่มีการพิจารณาแทบทั้งสิ้น พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวของ คตส.และคนใกล้ชิด เนื่องจากมีเสียงร่ำลือว่า คตส.มีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางเลือกปฏิบัติในการพิจารณาคดีจำนวนมาก

เมื่อถามว่า หากแนวการแก้รัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามที่นายจตุพรกล่าวไว้ กลุ่มเสื้อแดงจะมีการเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ตนอยู่ในสองสถานะ ทั้งเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนได้พยายามเตือน ส.ส.เพื่อไทย มาตลอด ว่า อะไรคือมายาและอะไรคือเป็นจริง ส่วนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจ พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องออกตัว เพียงแค่รอผลการเลือกตั้งครั้งหน้า แล้วฟังเสียงของประชาชนเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงจะดำเนินการต่อไปหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

“พรรคประชาธิปัตย์ หลอกประชาชนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกผมสรุปไปตั้งนานแล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ไขได้ ในวันที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แต่ที่นายอภิสิทธิ์ต้องพูดเรื่องนี้บ่อยๆ เพราะเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคภูมิใจไทยต้องการเขตเล็กในพื้นที่ภาคอิสาน จึงต้องการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว นี่คือ ข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาล” นายจตุพร กล่าว

เมื่อถามว่า จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ว่า คนที่สามารถยกหูเคลียร์เรื่องให้นายเนวินได้เป็นใคร นายจตุพร กล่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า ขณะนี้เมืองไทยใครมีอำนาจมากที่สุด องค์กรอิสระที่ผ่านมาไม่เคยมีอิสระเลย เป็นเพียงองค์กรทาส ที่ทำตามคำสั่ง เรืองนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ เป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด เพราะแต่ละคนอยู่ในองค์กรเถื่อนแทบทั้งสิ้น มีการแทรกแซงหลายกระบวนการ เพราะฉะนั้นปัญหาของประเทศอยู่ที่ พล.อ.เปรม คนเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น