xs
xsm
sm
md
lg

สภาลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ฉิวเฉียด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชัย ชิดชอบ
สภาเห็นชอบผ่านร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ฉิวเฉียด ด้วยคะแนนเสียง 243 ต่อ 23 พท.โวย กมธ.ร่วมงุบงิบแก้ไข ห้ามขัดขวาง ปชช.ออกเสียง

วันนี้ (23 ก.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ....ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว โดย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการไปยกเลิก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2541 แล้วมาออกกฎหมายใหม่ในลักษณะเดียวกันอีก ขณะที่ กมธ.ชี้แจงว่า เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว กฎหมายประกอบ เดิมที่มีอยู่ต้องถูกยกเลิกไปด้วย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า คณะกรรมาธิการมีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ และการแก้ไขมาตรา 4 ที่ คณะกรรมาธิการร่วม ตัด “หน่วยงานของรัฐ” ออกไปที่ทั้งสองสภาไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีสิทธิไปแก้ไขหรือไม่ รวมถึง 7 ประเด็นที่คณะกรรมาธิการร่วมกัน ไปเห็นชอบกับการแก้ไขของวุฒิสภา แล้วนำมาเป็นร่างร่วม อาทิ คำปรารภ วุฒิสภาแก้ไขให้เป็น ให้มี พ.ร.บ.ประกอบว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มาตรา 18 ในร่างเดิมไม่ได้ห้ามผู้ขัดขวางการออกเสียงออกจากหน่วยเลือกตั้ง แต่ร่างที่แก้ไขเขียนไว้แคบเกินไป โดยให้กรรมการประจำหน่วยออกเสียง มีอำนาจสั่งให้ผู้ขัดขวางนั้นออกไปจากที่ออกเสียงได้ ส่วนในมาตรา 37 ร่างเดิมระบุว่า หากพบว่าการออกเสียงในหน่วยเลือกตั้งนั้นไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ให้ กกต.มีคำสั่งให้ดำเนินการออกเสียงใหม่ไม่ช้ากว่า 60 วัน แต่ในร่างของ กมธ.แก้ไขเหลือเพียง 30 วัน แล้ว กกต.สามารถทำได้ทันหรือไม่ การเขียนกฎหมายอย่างนี้เป็นการล็อคเวลาเกินไปหรือไม่ เพราะการดำเนินการสอบสวนและวินิจฉัยต้องใช้เวลา

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ประธาน กมธ.ชี้แจงว่า การตัดมาตรา 3 ออก กมธ.พูดคุยประเด็นนี้กันนาน แต่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 302 ระบุไว้เพียง 4 กฎหมายประกอบ ที่ให้คงไว้หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 50 คือ พ.ร.บ.ประกอบว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ.2542, พ.ร.บ.ประกอบว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542, พ.ร.บ.ประกอบว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.ประกอบว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 ส่วนวรรคท้ายของมาตรานี้ได้เขียนให้กกต.ดำเนินการจัดทำกฎหมายประกอบว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรากฎหมายขึ้นมาใหม่ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้

ด้าน นายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กมธ.ชี้แจงว่า กมธ.ร่วมกันจำเป็นต้องดูกฎหมายทั้งฉบับ เพื่อให้มีข้อความสอดคล้องกัน และได้พิจารณาเห็นตรงกันว่า กมธ.มีอำนาจแก้ไขในประเด็นไที่สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ไม่ได้แก้ไขหรือไม่ ซึ่งพบว่า ไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้

ทั้งนี้ หลังจากได้เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ที่คณะกรรมาธิการร่วมกันของทั้งสองสภา ได้แก้ไขอย่างกว้างขวาง ในที่สุดที่ประชุมก็มีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 238 ต่อ 55 งดออกเสียง 6 ไม่ลงคะแนน 4 โดย นายชัย กล่าวต่อที่ประชุมว่า จากนี้ก็จะส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อมีการประกาศผลคะแนน ซึ่งเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งมาเพียงเสียงเดียว ทำให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ได้ทักท้วงให้มีการนับคะแนนใหม่ โดยอ้างว่าเกิดความสับสนในการลงคะแนนที่มีสมาชิกขอเพิ่มชื่อ ทำให้ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยพากันประท้วงว่า การกระทำดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ที่ระบุชัดให้การลงคะแนนสำหรับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญในครั้งที่สองจะต้องทำโดยวิธีขานชื่อเท่านั้น แต่ นายชัย ยังคงยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบเองในฐานะประธานที่ประชุม

ถึงช่วงนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่าตนได้เตือนประธานแล้วว่า ไม่ควรสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ เพราะการลงมติครั้งแรกเป็นความสับสน ถือว่าเป็นโมฆะ จึงสามารถสั่งให้มีการลงคะแนนใหม่ อีกครั้งหนึ่งได้ โดยไม่ต้องเสนอญัตติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายชัยรู้ว่าตัวเองดำเนินการผิดพลาด และอาจส่งผลให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ตกเป็นโมฆะได้ จึงได้ขอร้องให้ นายชินวรณ์ ถอนการเสนอญัตตินับคะแนนใหม่ ซึ่งนายชินวรณ์ ก็ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี

ในที่สุดที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 243 ต่อ 23 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนน 2
กำลังโหลดความคิดเห็น