“สุรพงษ์” อ้าง กม.เปิดช่องยื่นศาล รธน.สอบร่าง พ.ร.บ.งบ 53 ขัด รธน.167 วรรคหนึ่งหรือไม่ ชี้นำศาล รธน.จะต้องเร่งพิจารณาโดยไม่เตะถ่วง ด้านศาล รธน.ยังไม่พิจารณาว่าจะรับไว้วินิจฉัยหรือไม่
วันนี้ (23 ก.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีรวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.1 ใน 10 ยื่นต่อประธานรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 167 วรรคหนึ่งหรือไม่ ว่า กรณีดังกล่าวตนได้ยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งทางประธานรัฐสภา ได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกรณีนี้เป็นการส่งเรื่องตามช่องทางมาตรา 154 วรรคหนึ่ง ที่ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ใดที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบแล้ว ก่อนที่นายกฯจะลงนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย หากเห็นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ซึ่งตนก็เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดต่อมาตรา 167 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่าการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.งบ ต้องมีเอกสารประกอบ รวมถึงประมาณการรายรับ และวัตถุประสงค์ กิจกรรม แผนงาน โครงการในแต่ละรายการของการใช้จ่ายงบประมาณให้ชัดเจน แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ผ่านรัฐสภาแล้วกลับไม่มีรายละเอียดแผนงาน ที่ชัดเจนระบุไว้แต่อย่างใด
“เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัย โดยไม่ชักช้าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ซึ่งกรณีดังกล่าวต่างจาก ที่เคยยื่นเรื่องตามช่องทาง มาตรา 168 วรรคหกแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยในครั้งนี้รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ว่า ร่างกฎหมายใดเมื่อผ่านความเห็นชอบของสภาแล้ว ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ หากเห็นว่า ไม่มีรายละเอียดการใช้จ่ายงบของโครงการที่ชัดเจน ซึ่งตัวแทนของพรรคเพื่อไทย 2 คน ที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญร่วม พิจารณาจะเป็นพยานยืนยันต่อคณะตุลาการฯว่า ในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการ ไม่มีบอกรายละเอียดของงบที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางศาลยังไม่ได้มีหนังสือแจ้ง ให้ผมชี้แจงแต่อย่างใด ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจของศาล นายสุรพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับคำร้องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาตรวจคำร้องของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะตุลาการให้พิจารณาว่า จะรับไว้เพื่อพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่