รัฐมนตรีพลังงาน รณรงค์วัน Car Free Day ปั่นจักรยานจากกระทรวงเข้าทำเนียบฯ ร่วมประชุม ครม. วอนประชาชนร่วมรณรงค์ลดใช้รถส่วนตัวเพียง 1 วันในวันอาทิตย์ ช่วยลดมวลพิษ ลดพลังงาน ทั้งช่วยลดภาวะโลกร้อน ขณะที่ สสส.แนะการเดินวันละ 1 หมื่นก้าวในจังหวะต่อเนื่อง 30 นาที ช่วยเลี่ยงเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ทั้งลดไขมัน
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานได้ร่วมกันปั่นจักรยานเพื่อมาเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในวัน Car Free Day ด้วยโดยออกทางออกเดินทางจากกระทรวงพลังงานที่บริเวณเชิงสะพานยศเส แล้ววิ่งมาตามถนนอุรุพงษ์ ผ่านแยกเพชรบุรีตัดใหม่ แล้วเข้าสู่ถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล โดยมาเคารพธงชาติในเวลา 08.00 น.ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นก็ปั่นมาที่ตึกสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อร่วมประชุม ครม.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการรณรงค์ปั่นจักรยานจากกระทรวงพลังงานมาร่วมประชุม ครม.ในวัน Car Free Day ว่า วันที่ 22 ก.ย. ถือเป็นวัน World Car Free Day วันที่ชาวโลกหยุดใช้รถส่วนตัว 1 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองหยุดใช้รถส่วนตัวเพื่อลดเสียงโครมครามจากการใช้รถในเมือง การใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซพิษจากรถยนต์ ลดภาวะโลกร้อน และต้องการให้ทุกคนช่วยกันลดภาวะโลกร้อน
รมว.พลังงาน ยังได้กล่าวถึงการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาใช้รถสาธารณะในวันอาทิตย์แทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวว่า อยากให้คนไทยทั้งประเทศหันมาใส่ใจ พยายามลดการใช้ส่วนตัวลงโดยหันมาใช้รถสาธารณะ รถจักรยาน และคาร์พูล หรือการเดิน เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน การที่เลือกเอาวันอาทิตย์นั้น เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นที่สะดวก รวมถึงคนส่วนใหญ่ก็ลดการใช้รถส่วนตัวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางกทม.และมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย พยายามรณรงค์ให้มีการใช้รถสาธารณะอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงพลังงานก็เห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือ
ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณรถส่วนบุคคลที่จดทะเบียนในเขต กทม.มีทั้งสิ้น 2.5 ล้านคัน หากรถทุกคันวิ่งคันละ 30 กิโลเมตรต่อวัน จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 22.5 ล้านกิโลกรัม ซึ่งต้องใช้ต้นไม้ถึง 22,551 ต้น ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ แต่หากทุกคนร่วมกันตั้ง 1 วัน เพื่อลดการใช้รถ จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 11.3 ล้านกิโลกรัม หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 22,000 ต้น ดังนั้นทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการหยุดโลกร้อนได้ ซึ่งการหยุดใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดพักผ่อน จะช่วยเยียวยาโลกได้ ซึ่งไม่ต่างกับการปลูกต้นไม้
รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สสส. กล่าวว่า การเดินและการปั่นจักรยานถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประหยัดพลังงานและลดโลกร้อน และยังส่งผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากการเดินวันละ 10,000 ก้าว หรือเดินติดต่อกันในจังหวะและความเร็วต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไปจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน และความดัน เพราะถือเป็นการลดไขมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของการป่วยเป็นโรคอย่างได้ผล และยังเป็นการสร้างสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงอีกด้วย
