เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันทะยานกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร(8) ขยับขึ้นมากสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังดอลลาร์ที่่่อ่อนค่าก่อความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ จุดชนวนการเข้าลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยจากแรงหนุนของแนวโน้วการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 3.08 ดอลลาร์ (4.5 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 71.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ขยับขึ้นมากที่สุดตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.89 ดอลาร์ ปิดที่ 69.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันขยับขึ้นตามหลังดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักต่างๆ ทำให้นักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ไปสู่สินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากกรณีที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าที่ประชุมโอเปก ณ กรุงเวียนนาในวันพุธ(9) จะมีมติคงกำลังผลิตไว้ตามเดิม
อาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโอเปกบอกว่าทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคต่างพอใจกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าสต๊อกน้ำมันดิบโลกในตอนนี้ยังสูงเกินไปก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(8) ปิดในแดนบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนของมุมมองที่สดใสต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถีบตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.49 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,495.76 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 18.59 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,037.37 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.73 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,025.13 จุด
ทั้งนี้ วอลล์สตรีทกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร(8) หลังจากหยุด 1 วันเมื่อวันจันทร์(7) เนื่องจากเป็นวันแรงงานแห่งชาติมะกัน