ร.ท.หญิงบุกมหาดไทย ร้อง “เจ๊เบียบ”แฉ พล.อ.คนดัง เตรียมทหารรุ่น 10 เพื่อน “ทักษิณ-บิ๊กป๊อก” ข่มขืนมาราธอน 4 ปี “ระเบียบรัตน์” กรี๊ดโดนหยาม นโยบายผัวเดียวเมียเดียว เตรียมร่อนจดหมายแฉความจริงถึง “มาร์ค” ให้จัดการเรื่องนี้เด็ดขาด ฐานหยามเกียรติสตรีไทย
เวลา 18.30 น. วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กระทรวงมหาดไทย นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ในฐานะนายกสมาคมฯ ได้นำทหารหญิง ยศเรือโท นามสมมติ “แก้ว” อายุ 47 ปี รับราชการทหารมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 ซึ่งสวมหมวกและแว่นตาดำ พร้อมเสื้อแจ็กเกต มาแถลงข่าวถึงกรณีทหารหญิงผู้นี้ถูกผู้บังคับบัญชาขืนใจ โดยก่อนหน้านี้ นางแก้วได้ไปแจ้งความที่ สน.บางเขน และมาแถลงข่าวพร้อมทนายความของสมาคมด้วยใบหน้าเศร้าหมอง และร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นระยะ
นางแก้วกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดกับตนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เรื่อยมา ซึ่งผู้ที่กระทำต่อตนเป็นผู้บัญชาการยศพลเอก ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย แรกเริ่มมาจากการที่ตนต้องเข้าไปเป็นทหารคนสนิท (ทส.) ของนายทหารดังกล่าว ดูแลเรื่องครอบครัวของนายทหารผู้นี้ และตนทำงานอย่างดีที่สุดเพราะคิดว่านายทหารผู้นี้เป็นคนดี ตนให้ความเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ ขนาดวันที่ตนแต่งงานในปี พ.ศ.2547 นายทหารผู้นี้ก็ยังไปเป็นเจ้าภาพ ทำพิธีปูเตียงให้ จนกระทั่งในปี 2548 ตนได้เข้าเป็น ทส.ของนายทหารรายนี้ และช่วงนั้นภรรยาของนายทหารรายนี้ซึ่งดำรงยศ พันเอกหญิงพิเศษ ได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และฝากเงินไว้ให้ตนเพื่อใช้ซื้ออาหารไปส่งที่คอนโดมิเนียมของสามี ตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปฏิบัติงานตามปกติ แต่ปรากฏว่าในครั้งนั้น นายทหารรายนี้ก็ได้ปลุกปล้ำขืนใจตน
นางแก้วกล่าวว่า ต่อมานายทหารผู้นี้ได้รับคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองบัญชาการกองทัพไทย และจะขอเออร์ลีรีไทร์ในปีนี้ แต่ก็ยังเรียกตนและส่งข้อความทางอีเมล และทางเอสเอ็มเอสมาข่มขู่ว่าจะแฉเรื่องนี้กับสามี และแฉว่าตนเป็นผู้หญิงสำส่อน ทำให้ตนเครียดมาก ความดันสูง ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง มีอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร แต่ตนไม่กล้าบอกใคร สามีก็คิดว่าทำงานเครียดมาก ตนก็โทรศัพท์บอกกับภรรยาของนายทหารรายนี้ แต่ภรรยาเขาก็ไม่สนใจ ทางพลเอกดังกล่าวแม้จะไม่ทำร้ายร่างกายตน แต่ก็ข่มขู่ตลอด เวลาเขาโมโหที่ตนไม่ยอม เช่น บอกว่าเขาสร้างตนมาก็จะลบด้วยเท้าได้ และจะทำอะไรกับตนก็ได้ มีเพื่อนสนิทตนรู้เรื่องนี้แค่ไม่กี่คน แต่เขารับปากแล้วว่าจะไม่พูด
นางแก้วกล่าวต่อว่า ตนทนไม่ไหวที่ถูกเรียก กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะใช้อำนาจทำลายตน และสามี จึงเป็นคนบอกกับสามีเอง และสามีตนก็เป็นคนดีมาก ให้กำลังใจตนตลอด และบอกให้มาแจ้งความ ซึ่งภายหลังแจ้งความยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่พลเอกรายนี้จะเออร์ลีรีไทร์ก่อน ตนจะรอให้เขาเออร์ลีรีไทร์แล้วจะกลับไปทำงาน คิดว่าการเปิดเผยครั้งนี้ ถึงจะทำให้เราใช้ชีวิตลำบาก แต่มันเป็นกรณีที่ทนไม่ไหวอีกแล้ว
“ดิฉันไม่อยากพูดถึงชื่อมันอีก เพราะว่ามันลำบากใจ เกรงว่าจะทำให้เป็นที่เสื่อมเสีย แต่เนื่องจากวันนี้พร้อมลุยแล้ว ก็จะยอมบอกว่าเขาชื่อ พล.อ.เสรณี รัตนชื่น เป็นนายทหารเตรียม 10 ดิฉันเป็นทหารคนสนิทคอยรับใช้เขามาตั้งแต่ปี 48 ดิฉัน ก็ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้กับดิฉันได้” นางแก้วกล่าว
ด้าน นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้มาจากการที่เรายังไม่มีกฎหมายลงโทษผู้บังคับบัญชาที่ล่วงละเมิดผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งนางแก้วก็ถูกคุกคามมาโดยตลอด เหตุที่ไม่กล้าแจ้งความแต่แรก เพราะกลัวครอบครัวถูกคุกคาม ซึ่งเรื่องนี้ เราจะร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชา คือ นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการกองทัพไทย รมว.กลาโหม เพื่อให้มีการเอาผิดทางวินัยก่อนเออร์ลีรีไทร์ พลเอกรายนี้ และดำเนินคดีอาญาโดยแจ้งความต่อตำรวจไว้แล้ว