ร.ท.หญิงเหยื่อกามแจ้งจับ “พล.อ.”-“เจ๊เบียบ” ย้ำผิดถูกให้ศาลชี้ขาด

ร.ท.หญิงเข้าแจ้งความดำเนินคดี “พล.อ.” เพื่อน “แม้ว” สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ข่มขืนมาราธอน 4 ปี “เจ๊เบียบ” ซัดเต็มเหนี่ยวต้องกระชากหน้ากากประจาน เตรียมร่อนจดหมายถึง “ผบ.สส.-รมว.กลาโหม-นายกฯ” แฉพฤติกรรมเอาผิดวินัย ชี้ ผิดถูกให้ศาลตัดสิน

จากกรณี นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กระทรวงมหาดไทย ได้พาเรือโทหญิง “แก้ว” (นามสมมติ) อายุ 47 ปี รับราชการทหารมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 มาแถลงข่าวถึงกรณีทหารหญิงผู้นี้ถูกผู้บังคับบัญชา ยศ “พล.อ.” สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ข่มขืนกระทำชำเรา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2548 และถูกขู่สารพัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (22 ก.ย.) พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากจะออกไปแถลงข่าว ทำให้ยังไม่มีข้อมูลเท่าไร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ในวันที่ 24 ก.ย.นี้

ด้าน นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ในฐานะนายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรือโทหญิงแก้ว (นามสมมติ) ได้เข้าพบและขอความช่วยเหลือจากสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมแจ้งว่า จะไปแจ้งความ ที่ สน.บางเขน ตนจึงประสานให้ทนายความของสมาคม จำนวน 2 คน ไปด้วย เพื่อดูแลเอกสารและการบันทึกคำให้การต่างๆ ซึ่ง พ.ต.อ.พัฒนา ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยให้พนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิงสอบปากคำ ระหว่างให้การพนักงานสอบสวน เรือโทหญิงเเก้ว (นามสมมติ) ร้องไห้ฟูมฟายตลอดเวลา เพราะมีสภาพจิตใจอ่อนแอมาก จนถึงขณะนี้สภาพจิตใจก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งต้องรอให้สภาพจิตใจดีขึ้นก่อน จึงจะให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติมได้

นางระเบียบรัตน์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ผู้เสียหายออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ และขอความช่วยเหลือนั้น เป็นเพราะถูกผู้บังคับบัญชายศ พล.อ.สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้เสียหายให้ความเคารพนับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่ ข่มขืนนานถึง 4 ปี ก่อนที่ผู้เสียหายจะพยายามตีตัวออกห่าง เพราะกลัวสามีรู้ แต่ก็ถูกยื่นคำขาดให้บอกเรื่องดังกล่าวกับสามี เพื่อให้มาปรนนิบัติรับใช้ พล.อ.นี้ ทำให้ผู้เสียหายยอมบอกความจริงกับสามี ซึ่งสามีของผู้เสียหายนั้นเป็นคนดีมาก เพราะหลังจากทราบเรื่องพยายามก็ให้กำลังใจตลอด และยังบอกกับตนด้วยว่า ถ้าครอบครัวเป็นอะไรไปหรือเสียชีวิต คงเป็นฝีมือของ พล.อ.คนนั้นแน่นอน เนื่องจากไม่เคยมีศัตรู จึงตัดสินใจแถลงข่าวเพื่อกระชากหน้ากากของ พล.อ.คนนี้ และทำให้เป็นคดีตัวอย่าง

นางระเบียบรัตน์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนกำลังร่างหนังสือจำนวน 3 ฉบับ เพื่อยื่นให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง นอกจากนี้ จะทำหนังสือถึง รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี ด้วย ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ผิดถูกให้ศาลตัดสิน ส่วนความผิดทางวินัยให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ พล.อ.คนดังกล่าวพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีแต่กฎหมายคุ้มครองสามีและภรรยา เกี่ยวกับปัญหาในครอบครัว แต่ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาข่มเหงลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา จึงขอวอน ส.ว.และส.ส.พิจารณาถึงความสำคัญและอยากให้มีกฎหมายคุ้มครองผู้น้อยด้วย ซึ่งคิดว่ากรณีดังกล่าวมีเยอะมากแต่ไม่กล้าออกมาเปิดเผย หรือกระชากหน้ากาก เพราะกลัวถูกกลั่นแกล้ง และทำร้ายร่างกาย