“ประวิตร” เสียใจเหตุม็อบชาวบ้านภูมิซรอลไล่ทำร้ายพันธมิตรฯ และถูกตอบโต้ เชื่อผู้ใหญ่กับเขมรเข้าใจสถานการณ์ในไทยดีไม่มีปัญหาบานปลาย บอก “แม่ทัพภาค 2-ผู้บัญชาการตำรวจ-ผู้ว่าราชการจังหวัด” ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำสอง
วันนี้ (21 ก.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ม็อบชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ไล่ทำร้ายเครือข่ายประชาชนและแนวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระหว่างไปประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนเขาพระวิหารและุถูกตอบโต้จากการืดพันธมิตรฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ตนเสียใจที่คนไทยต้องมาทะเลาะกันเอง ทุกคนรักชาติ และรัฐบาลเองจะดูแลทุกอย่างในการรักษาอธิปไตยของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคงจะพยายามทำ และทำตามขั้นตอน เพราะว่าเราอยู่เป็นประเทศเพื่อนบ้านกันต้องคุยกัน ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการทุกระดับกำลังดำเนินการอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการปักปันเขตแดน เมื่อมีปัญหาก็จะต้องพูดคุยกัน คิดว่าเราตอบสังคมได้
ส่วนกลุ่มคนที่ขึ้นไปทวงคืนปราสาทเขาพระวิหารจนมีการปะทะกันเกิดขึ้นนั้น ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะทุกฝ่ายก็รักชาติด้วยกันทั้งนั้น และดูแลอธิปไตยด้วยกันทุกฝ่าย ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ต้องพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน
ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถามว่า ต่อไปจะมีการป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มที่เดินทางมาปะท้วงทะเลาะกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทาง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องดูแลและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องช่วยกันในเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ที่ละเอียดอ่อนและมีความสำคัญ
ขณะที่ผู้ใหญ่ทางประเทศกัมพูชานั้นก็มีความเข้าใจดี ทั้งนี้ เรามีการพูดจากันกับผู้ใหญ่ที่กัมพูชาตลอด และคิดว่าทางกัมพูชาเขาก็รักชาติ เราก็รักชาติ ดังนั้นจะต้องดูแลกัน และคุยกัน
เมื่อถามว่า ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องนี้ตนดูแลได้ ไม่มีปัญหาก็คุยกันได้ เขาก็เข้าใจ เมื่อถามว่า กังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลใจ เพราะมีขั้นมีตอนอยู่แล้วในการทำงานของผู้บริหารทุกๆ ระดับไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งไม่จำเป็นจะต้องมีการเสริมกำลังทางทหารขึ้นไปอีก เพราะทางแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการตำรวจในพื้นที่ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะต้องพูดคุยกันถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อน และจะต้องทำให้ดีที่สุด