“สุเทพ” ย้ำเหตุปะทะที่เขาพระวิหารต้องดำเนินการตามกฎหมาย แสร้งไม่ขอวิจารณ์พันธมิตรฯ แต่กลับแกว่งปากเหน็บพันธมิตรฯชอบทำให้เกิดความรุนแรง ขณะเดียวกัน ขอบคุณหางแดงชุมนุมสงบไม่ป่วนเมือง ปิดปากไม่ขอวิจจารณ์หางแดงนัดชุมนุมอีกครั้งเดือน ต.ค.
วันนี้ (20 ก.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปะทะกับชาวบ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ ระหว่างเดินทางไปทวงคืนพื้นที่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มักมีความรุนแรงเกิดขึ้นเสมอ ด้วยเกรงว่าจะทำให้เป็นความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมานั้น ต้องขอขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวภายใต้กรองของกฎหมาย ไม่สร้างความรุนแรงใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างละมุนละม่อม ทำให้การชุมนุมผ่านไปได้ด้วยดี และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง พร้อมกับวางกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายดูแลความเรียบร้อย หลังจากมีกระแสข่าวว่าอาจมีการฉวยโอกาสสร้างความรุนแรง ซึ่งงานนี้รัฐบาลต้องหมดงบประมาณไปจำนวนมาก
ส่วนการเคลื่อนขบวนไปประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนของกลุ่มประชาชนแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่เขาพระวิหารนั้น แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกัน แต่ปรากฏว่ามีการปล่อยให้คนนอกพื้นที่ไปปลุกระดมชาวบ้านภูมิซรอลให้ออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ พร้อมกับยิงหนังสติ๊กเข้าใส่และใช้ไม้ไล่ตีรวมทั้งปาประทัดยักษ์ข่มขู่ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ห้ามปรามอย่างจริงจังจนเกิดการประทะกันขึ้น
