เพื่อไทยปูดข่าว “บิ๊กบัง” เผยเบื้องหลังมีใบสั่งยึดอำนาจพ่อแม้ว

"ปลอดประสพ"เคาะกะลาปลุกวิญญาณ 111 ซากศกทรท.สุมหัวอดีตกรรมการบริหาร พปช. จัดสัมมนา หยิบคำพูด“บิ๊กบัง” ตีความเบื้องหลังมีใบสั่งยึดอำนาจ นช.แม้ว ไม่วายโชว์ทีเด็ดอันเชิญแม้วโฟนอินล้างสมองลูกสมุนจนเป็นสันดาน

วันนี้ (20 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง อดีตโฆษกพรรคพลังประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวถึงการจัดงานสัมมนา “3 ปี...หลังปฏิวัติ 19 กันยา ประชาชนเสียอะไร” โดยนายปลอดประสพกล่าวว่า มูลนิธิ 111 ไทยรักไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดสัมมนาทางวิชาการขึ้นในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 22 กันยายน ที่โรงแรมรามาการ์เดน เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นและชี้ให้เห็นถึงผลกระทบและความเสียหายจากการทำการปฏิวัติรัฐประหารตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วยอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้จะมีการเชิญบุคคลสำคัญมาร่วมการสัมมนาด้วย เช่นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โฟนอินมาร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย

นายปลอดประสพกล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ออกมายอมรับความจริงถึงสาเหตุที่ทำการปฏิวัตินั้น พรรคเพื่อไทยสรุปสาระเป็นนัยได้ 6 ประเด็น คือ 1.มีผู้คิดเรื่องปฏิวัติที่ไม่ใช่ พล.อ.สนธิ 2.ได้รับมอบหมายให้นำกำลังมาปฏิวัติโดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนตัวผู้นำในขณะนั้น 3.พล.อ.สนธิและคณะมีอำนาจจริงเพียงแค่ 14 วันเท่านั้น 4.การเขียนเหตุผลในการปฏิวัติก็เพื่อให้เกิดการยอมรับว่าการปฏิวตินั้นมีความชอบธรรม 5.พล.อ.สนธิและคณะไม่ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และ 6.เมื่อปฏิวัติแล้วไม่มีแผนการบริหาร ยกให้กับนักวิชาการร่วมกันออกแบบการปกครองประเทศ โดยเน้นการทำลายล้างระบอบทักษิณ ดังนั้น เมื่อ พล.อ.สนธิแสดงความกล้าหาญในการพูโความจริงให้ปรากฏ ตนก็นับถือในความเป้นลูกผู้ชายของท่านที่กล้าอกมารับความจริง และคิดว่าท่านคงจะซึมซับความเป้นประชาธิปไตยไปบ้างแล้ว ดังนั้นหากจะมาร่วมงานสัมมนาด้วยเราก็ยินดี

ด้าน นายจำลองกล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดการปฏิวัติจะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ คนที่ก่อการรัฐประหารไม่เคยได้รับการลงโทษหรือชดใช้ต่อสังคม ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดในระบอบประชาธิปไตย การจัดงานสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการสืบสานอุดมการณ์ต่อต้านการรัฐประหารอย่างถาวร เพราะแม้แต่ในขณะนี้ก็ยังมีเชื้อปฏิวัติอยู่ แสดงให้เห็นว่าค่าตอบแทนในการปฏิวัติรัฐประหารนั้นมันสูงมาก ดังนั้นการสัมมนาในวันที่ 22 ก.ย.จึงเป็นการชำแหละเนื้อหาแก่นแท้ของการรัฐประหาร

ขณะที่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ความเป็นผู้นำประเทศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งแสดงตัวว่าเป็นคนรักความเป็นธรรมมาตลอด ทำไมไม่จริงใจในการแก้กติกาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ หรือมีมูลเหตุว่านายอภิสิทธิ์เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดหรือหุ่นหนังตะลุง เพราะหากเป็นเช่นนั้นตนก็รู้สึกเห็นใจที่เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่มีอำนาจ แต่ถ้าหากนายอภิสิทธิ์มีอำนาจแต่ไม่ทำแสดงว่านายอภิสิทธิ์กำลังหลงอำนาจ กลัวว่าหากแก้กติกาของ คมช.แล้วความเป็นนายกรัฐมนตรีจะหมดไปเพราะคู่แข่งมีศักยภาพเหนือว่านายอภิสิทธิ์