ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย มีมติรับรองกรรมการบริหารพรรคจำนวน 63 คนซึ่งประกอบไปด้วย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช หัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และ นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นรองหัวหน้าพรรค ขณะที่เลขาธิการพรรค ได้แก่ น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร รองเลขาธิการพรรค นายธนวัฒน์ วศินสังวรณ์ เหรัญญิกพรรค นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ โฆษกพรรค นายศักดา นพสิทธิ์ นายทะเบียนพรรค นายกมล บันไดเพชร ขณะที่กรรมการบริหารพรรค ได้แก่ นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล นายไมตรี อรรถปรียางกูร นายเอกธนัช อินทร์รอด และ นายสง่า ธนสงวนวงศ์
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังได้รับเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า การที่ตนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยให้มารับตำแหน่ง ซึ่งเห็นว่ามีนโยบายที่ตรงกับวิสัยทัศน์ตนเอง โดยพรรคก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจน อย่างไรก็ตามปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ทาบทามให้มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ยังกล่าวด้วยว่า ตนจะใช้ความรู้ความสามารถที่เคยได้รับเชิญเข้าเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตนเคยเป็นผู้มีส่วนร่างนโยบายโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงเอสแอล โอท็อปของชุมชนหมู่บ้าน มาปรับใช้ อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยเปิดกว้างบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคทุกคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกพรรคพลังประชาชนแต่อย่างไร
พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า ในอนาคตหากมีบุคคลที่เหมาะสมบางคนมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตนพร้อมสละตำแหน่ง แต่อย่างไรก็ตามตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังได้รับเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า การที่ตนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้นได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยให้มารับตำแหน่ง ซึ่งเห็นว่ามีนโยบายที่ตรงกับวิสัยทัศน์ตนเอง โดยพรรคก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจน อย่างไรก็ตามปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ทาบทามให้มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ยังกล่าวด้วยว่า ตนจะใช้ความรู้ความสามารถที่เคยได้รับเชิญเข้าเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตนเคยเป็นผู้มีส่วนร่างนโยบายโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงเอสแอล โอท็อปของชุมชนหมู่บ้าน มาปรับใช้ อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยเปิดกว้างบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคทุกคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกพรรคพลังประชาชนแต่อย่างไร
พร้อมกันนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า ในอนาคตหากมีบุคคลที่เหมาะสมบางคนมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตนพร้อมสละตำแหน่ง แต่อย่างไรก็ตามตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
