xs
xsm
sm
md
lg

“ไข่แม้ว” แหลอ้างไม่สนแก้ รธน.อ้างห่วง ปชช.แต่บี้แก้ทั้งฉบับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย
“วรวัจน์” แหลได้อีก อ้างไม่ให้ความสำคัญแก้รัฐธรรมนูญ อ้างห่วงใยปัญหาปากทองประชาชน มากกว่า ชี้ “มาร์ค” โยนวิป 3 ฝ่าย ถกแค่ซื้อเวลา หวังกลบทุกปัญหารุมเร้า แต่บี้ให้แก้ทั้งฉบับ ซัด “นายกฯ” หมดความชอบธรรม ฟันธงรอดยาก เจอม็อบเกษตรกรไล่แน่

วันนี้ (18 ก.ย.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยโยนวิป 3 ฝ่ายหารือ 2 แนวทาง ภายหลังเปิดประชุมร่วมรัฐบาลรับฟังความคิดเห็นนั้น ว่า ถึงเวลานี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือความสนใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ให้ความสำคัญความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่าเพราะรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศล้มเหลว เดินหน้าต่อไปไม่ได้แล้ว เนื่องจากทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาพืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ และโรคระบาดที่รุมเร้าเข้ามาทุกด้าน ตอนนี้รัฐบาลจึงนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมายื้อ หวังซื้อเวลาให้รัฐบาลอยู่ได้ อยากบอกว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อแล้ว ดังนั้น การที่นายกฯจะบอกว่าเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว จะยุบสภา คงไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีความจริงใจตั้งแต่ต้น จึงพยายามทำทุกอย่างเหมือนเล่นกล เล่นละคร ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพียงซื้อเวลาออกไปเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จุดยืนของพรรคเพื่อไทยชัดเจน ควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องแก้ทั้งฉบับ ถ้าแก้เพียง 6 ประเด็นก็เสียเวลา อีกทั้งประเด็นที่จะแก้นั้น ประชาชนก็ไม่ได้อะไร จะเสียเวลาแก้ไปทำไม

ส.ส.แพร่ ยังกล่าวอีกว่า จากนี้ไปเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ได้ลำบาก หากประชาชนยังมีปัญหาปากท้องอยู่แล้ว เกษตรกรต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนอยู่ ถ้ารัฐบาลยังบริหารแบบนี้ แก้ปัญหาไม่ได้ จะต้องเผชิญกับม็อบเกษตรกรออกมาชุมนุมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะตอนนี้ข้าวโพดราคาเหลือกิโลกรัมละ 3 บาท ส่วนข้าวเปลือกตกต่ำแค่ 6,000 บาทต่อเกวียน แล้วเกษตรกรเขาจะอยู่ได้อย่างไร ดังนั้น ให้จับตาเดือนพฤศจิกายนช่วงเริ่มเก็บเกี่ยวข้าว จะมีการรวมตัวกัน ไม่ม็อบอื่น แค่ม็อบข้าวกับม็อบข้าวโพด โดยเฉพาะแค่พื้นที่ในภาคกลางที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็เชื่อว่า รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีประโยชน์ที่จะคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญในเมื่อประชาชนไม่สามารถอยู่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น