“พล.อ.สมเจตน์” ชี้ 19 กันยาฯนี้ ไร้เงื่อนไขปฏิวัติซ้ำอีก เชื่อทหารไม่ทำ มั่นใจ “ประวิตร” มืออาชีพพอ ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นประเด็นผิดใจกับรัฐบาล ย้ำ ปฏิวัติปี 49 ไม่ใช่ต้นตอปัญหา ทำบ้านเมืองป่วน ระบุ หากตอนนั้นอยู่นิ่งเฉย มีสิทธิ์ถูก “นช.แม้ว” โกงประเทศยับแน่ อัด “หางแดง” นัดชุมนุมกัน แค่หวังผลให้รัฐบาลเสถียรภาพสั่นคลอน เพื่อเอื้อประโยชน์ “นช.แม้ว”
วันนี้ (16 ก.ย.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ ว่า ปัญหาบ้านเมืองเกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ว่า หากเรามองย้อนกลับไปให้ดีจะรู้ว่าสถานการณ์ทั้งหมดที่เป็นอยู่ ไม่ได้เกิดมาจากสาเหตุการปฏิวัติทั้งหมด ตอนนั้นปัญหามีอยู่มากมาย เกิดการคอร์รัปชันที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ และเกิดการชุมนุมอาจส่งผลให้เกิดการนองเลือด หากตอนนั้นไม่ทำการปฏิวัติ เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการนองเลือด และหากไม่ปฏิวัติก็ไม่รู้ว่าบ้านเมืองเราจะถูกโกงกินโดยคนที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปไม่รู้เท่าไหร่ และชาติจะไม่มีอะไรเหลือ
“การปฏิวัติครั้งนั้น เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย เมื่อปฏิวัติแล้วแม้จะไม่มีความสงบเรียบร้อยอย่างที่ต้องการ แต่ดีกว่าที่ปล่อยให้คนไทยมาฆ่ากันเอง และการปฏิวัติครั้งนั้นทำให้รู้จักตัวตนแท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมาเขาทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความรักชาติ เขาใช้กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงดำเนินการนอกสภา โดยมีกลุ่มพรรคการเมืองของเขาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำดังกล่าว” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวต่อว่า การชุมนุมคนเสื้อแดง 19 กันยายนนี้ หากมองตามจริงแล้วกลุ่มเสื้อแดงไม่ได้มีเงื่อนไข แต่ที่ทำเพราะพยายามหาจุด เพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาล โดยให้รัฐบาลมุ่งแต่แก้ปัญหาการเมือง โดยไม่มีเวลาแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าในการทำงานได้ ทำให้ขาดความชอบธรรม และจุดประสงค์ของเสื้อแดงคือต้องการให้ยุบสภา หรือรัฐบาลลาออก เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจใหม่ และให้พรรคการเมืองของตนเองขึ้นมามีอำนาจ จากนั้นก็จะเอื้อประโยชน์ไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานให้เล็งเห็นความเสียหายนี้ และให้เห็นตัวตนแท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มากขึ้น อยากฝากหน่วยงานความมั่นคงให้ช่วยกันดูแล อย่าคิดว่าการชุมนุมไม่มีอะไร เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาเพื่อนำไปสู่ความรุ่นแรง ดังนั้น อย่าประมาท ให้เอาเหตุการณ์ที่พัทยา และเหตุเดือนเมษายนที่ผ่านมาเป็นบทเรียน
เมื่อถามว่า การชุมนุมเสื้อแดงทำให้เกิดปฏิวัติได้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การปฏิวัติไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ และทหารทุกคนไม่อยากทำการปฏิวัติ เพราะประเทศเดินหน้ามามากแล้ว ตอนนี้ไมมีเหตุผลหรือเงื่อนไขมาทำการปฏิวัติ เมื่อถามว่า ความขัดแย้งรัฐบาลและกองทัพกับรัฐบาลจะเป็นชนวนให้ปฏิวัติได้หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าว่า เรื่องระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เรียกว่าความขัดแย้ง
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชายของ พล.อ. ประวิตร จึงเอามาโยงกัน ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่พี่น้องรักกัน แต่เมื่อที่สุดแล้วน้องทำผิด คนเป็นพี่ย่อมไม่ปกป้อง ยิ่งพี่ที่เป็นทหารด้วยแล้ว เปรียบเสมือนตนกับน้องที่เป็นตำรวจ หากเขาทำผิดผมก็ไม่ออกไปปกป้อง คิดว่า พล.อ.ประวิตร เป็นทหารมืออาชีพแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนร่วมได้ ท่านคงไม่เอา 2 เรื่องนี้มาปนกัน”พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.สมเจตน์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้พูดมานานแล้วว่าสามารถแก้ได้ แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก หากทำแล้วไม่ตอบสนอง 2 ข้อนี้ก็เป็นเรื่องยากและขาดความชอบธรรม หลายฝ่ายพยายามบอกว่า หากมีการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความสมานฉันท์ในชาติเกิดขึ้น อยากถามว่าความสมานฉันท์เป็นอย่างไร หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเอาผลประโยชน์มาแบ่งกัน คนโน้นเอาไปนิดคนนี้เอาไปหน่อย อยากทราบว่าความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะขณะนี้ฝ่ายการเมืองพยายามแก้รัฐธรรมนูญ แต่ที่ติดตามก็แก้เพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องทั้งนั้น อยากให้รัฐบาลทบทวน และคิดให้ดีก่อนการดำเนินการ
