หน.เพื่อแผ่นดิน หนุนแก้ รธน. ชี้หากมาตราใดที่นำไปสู่ความขัดแย้งก็อย่าแก้ ระบุลูกพรรคร่วม ส.ว.ค้านแก้เป็นสิทธิส่วนตัว วอน 40 ส.ว.อย่าใช้อารมณ์ แนะให้ยึดประเทศประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อเลือกตั้งเกิดยากหากไม่มี 3 วิกฤตรุนแรง
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม. นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมีจุดยืนเป็นของตัวเอง เนื่องจากเป็นพรรคทางรอดของประเทศ อะไรที่จะเป็นความสมานฉันท์ สิ่งใดที่จะทำให้ประเทศเดินไปได้ พรรคเพื่อแผ่นดินทำ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพและความสมานฉันท์นั้นควรต้องแก้ ด้านความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่มาตราใดหรือเรื่องใดที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่ควรแก้ มาตราใดที่ไม่ขัดแย้งก็กระทำ
“ประเด็นที่ไม่มีความขัดแย้ง คือเขตเลือกตั้งซึ่งสามารถทำได้ทันที เท่าที่คุยทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาลและพรรคร่วมเห็นพ้องกันว่า การพัฒนาภารกิจหน้าที่ของ ส.ส.หากเขตกว้างเกินไปก็ไม่สามารถใกล้ชิดกับปัญหาและการทำงานร่วมกับหมู่บ้านชุมชนได้ทั่วถึง และปรากฏว่าประชาชน ไม่มีความใกล้ชิดกับผู้แทนในเขตตน ส่วนมาตรา 190 ก็มีความเห็นพร้อม และเรื่องอื่นคงต้องใช้วิธีเจรจาเพราะเประเทศชาติเป็นของทุกคนไม่ใช่คนคนเดียว” นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องเขตเลือกตั้งกับมาตรา 190 ควรจะทำเร็วหรือให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร. นายชาญชัยกล่าวว่า เมื่อเห็นพ้องควรทำเป็นระยะมาตราของเวลานั้น หากยังไม่ลงตัวมีความขัดแย้งพรรคเพื่อแผ่นดินคงไม่ร่วม แต่หากมาตราใดที่ตกผลึกแล้วทุกฝ่ายยินยอมก็ขอร่วมขบวน ส่วนเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.3 พรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่มีการพูดถึง แต่เห็นว่ามาตราใดที่ทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องก็ยึดเสียงส่วนใหญ่ เมื่อถามว่า แต่กลุ่ม 40 ส.ว.ออกมาคัดค้านไม่ให้แก้ นายชาญชัยกล่าวว่า เป็นสิทธิของกลุ่ม 40 ส.ว. แต่มีใครบ้างตกผลึกและมีเหตุผลต้องมีหลักเข้าหากัน อย่าใช้ความเห็นส่วนตัวหรืออารมณ์ ควรใช้ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง วันนี้ทุกกระบวนการทุกคนทุกชีวิต ต้องช่วยกันเรื่องเศรษฐกิจ แก้วิกฤตให้พ้นไป เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนกรณีนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ร่วมเคลือนไหวคัดค้านกับกล่ม ส.ว. ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคได้มีการตักเตือนหรือไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใช้สิทธิอะไร แต่คงเป็นส่วนตัว แต่ไม่ใช่มติพรรค ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้ ส.ส.มีสิทธิส่วนตัว แต่เรื่องมติพรรคคือแนวนโยบายการเมืองของพรรค ฉะนั้นประเด็นนี้ในฐานะที่ตนดูแลพรรค ขอชี้แจงว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของนายสมเกียรติ ส่วนจะทำให้เกิดวามขัดแข้งขึ้นระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อแผ่นดินหรือ ไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า เชื่อว่า ปชป.รู้ว่านายสมเกียรติคือใคร คิดและทำอะไรมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของนายสมเกียรติ พรรคร่วมอื่นๆ ก็เข้าใจ
เมื่อถามว่า มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ยื้อเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากวิปรัฐธรรมนูญเสนอให้ตั้ง ส.ส.ร.3 นายชาญชัยกล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมองเรื่องนี้เป็นด้านบวก ซึ่งจะไม่มองลบ ไม่ว่าพรรคใดหากมีแนวทางสมานฉันท์ไม่ให้เกิดความแตกแยกขึ้น ไม่ให้ประชาชนรบราฆ่าฟัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ ที่สำคัญพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นมิตรกับทุกพรรคและทุกคน
สำหรับพรรคเพื่อแผ่นดินเตรียมตัวเลือกตั้งหรือยัง นายชาญชัยกล่าวว่า เลือกตั้งไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องมีการยุบสภาก่อน ซึ่งกรณีหากจะมีการยุบสภาก็เนื่องมาจาก 1.วิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง 2.ความขัดแยงของระบบรัฐสภาอย่างรุนแรง 3.วิกฤตความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้วิกฤตเศรษฐกิจโงหัวขึ้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนวิกฤตระบบรัฐสภาก็ยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่รุนแรง ส่วนวิกฤตพรรคร่วมฯ ก็ไม่รุนแรง มีความเห็นต่างกันบ้างนิดหน่อยแต่เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ยังสามารถเข้าใจกันได้
“ถ้าถึงวันขัดแย้งรุนแรงเหมือนในอดีตของรัฐบาลก่อนๆ แม้ในพรรคเดียวก็ยังแตกก็เคยมีมาแล้วแต่เหตุการณ์ 9 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหน่อไม้” นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่ามีอีกวิกฤตหนึ่งคือวิกฤตของมวลชนที่จะปะทะกัน นายชาญชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า เชื่อขนมไว้ล่วงหน้าว่ายังไงรัฐบาลพรรคร่วมถ้าไม่วิกฤตไม่เกิดความแตกแยกอยู่นาน “ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นอาจจะมี ย.ยักษ์ก็ได้” เมื่อถามว่า ย.ยักษ์แปลว่าอะไร นายชาญชัยกล่าวว่า ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายถึงอยู่ยาว ยุ่งเหยิง ยุบสภาหรือแย่ นายชาญชัยไม่ตอบแล้วเดินออกไปทันที
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม. นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมีจุดยืนเป็นของตัวเอง เนื่องจากเป็นพรรคทางรอดของประเทศ อะไรที่จะเป็นความสมานฉันท์ สิ่งใดที่จะทำให้ประเทศเดินไปได้ พรรคเพื่อแผ่นดินทำ ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพและความสมานฉันท์นั้นควรต้องแก้ ด้านความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่มาตราใดหรือเรื่องใดที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่ควรแก้ มาตราใดที่ไม่ขัดแย้งก็กระทำ
“ประเด็นที่ไม่มีความขัดแย้ง คือเขตเลือกตั้งซึ่งสามารถทำได้ทันที เท่าที่คุยทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาลและพรรคร่วมเห็นพ้องกันว่า การพัฒนาภารกิจหน้าที่ของ ส.ส.หากเขตกว้างเกินไปก็ไม่สามารถใกล้ชิดกับปัญหาและการทำงานร่วมกับหมู่บ้านชุมชนได้ทั่วถึง และปรากฏว่าประชาชน ไม่มีความใกล้ชิดกับผู้แทนในเขตตน ส่วนมาตรา 190 ก็มีความเห็นพร้อม และเรื่องอื่นคงต้องใช้วิธีเจรจาเพราะเประเทศชาติเป็นของทุกคนไม่ใช่คนคนเดียว” นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องเขตเลือกตั้งกับมาตรา 190 ควรจะทำเร็วหรือให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร. นายชาญชัยกล่าวว่า เมื่อเห็นพ้องควรทำเป็นระยะมาตราของเวลานั้น หากยังไม่ลงตัวมีความขัดแย้งพรรคเพื่อแผ่นดินคงไม่ร่วม แต่หากมาตราใดที่ตกผลึกแล้วทุกฝ่ายยินยอมก็ขอร่วมขบวน ส่วนเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.3 พรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่มีการพูดถึง แต่เห็นว่ามาตราใดที่ทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องก็ยึดเสียงส่วนใหญ่ เมื่อถามว่า แต่กลุ่ม 40 ส.ว.ออกมาคัดค้านไม่ให้แก้ นายชาญชัยกล่าวว่า เป็นสิทธิของกลุ่ม 40 ส.ว. แต่มีใครบ้างตกผลึกและมีเหตุผลต้องมีหลักเข้าหากัน อย่าใช้ความเห็นส่วนตัวหรืออารมณ์ ควรใช้ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง วันนี้ทุกกระบวนการทุกคนทุกชีวิต ต้องช่วยกันเรื่องเศรษฐกิจ แก้วิกฤตให้พ้นไป เป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนกรณีนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ร่วมเคลือนไหวคัดค้านกับกล่ม ส.ว. ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคได้มีการตักเตือนหรือไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใช้สิทธิอะไร แต่คงเป็นส่วนตัว แต่ไม่ใช่มติพรรค ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้ ส.ส.มีสิทธิส่วนตัว แต่เรื่องมติพรรคคือแนวนโยบายการเมืองของพรรค ฉะนั้นประเด็นนี้ในฐานะที่ตนดูแลพรรค ขอชี้แจงว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลของนายสมเกียรติ ส่วนจะทำให้เกิดวามขัดแข้งขึ้นระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อแผ่นดินหรือ ไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า เชื่อว่า ปชป.รู้ว่านายสมเกียรติคือใคร คิดและทำอะไรมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของนายสมเกียรติ พรรคร่วมอื่นๆ ก็เข้าใจ
เมื่อถามว่า มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ยื้อเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากวิปรัฐธรรมนูญเสนอให้ตั้ง ส.ส.ร.3 นายชาญชัยกล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมองเรื่องนี้เป็นด้านบวก ซึ่งจะไม่มองลบ ไม่ว่าพรรคใดหากมีแนวทางสมานฉันท์ไม่ให้เกิดความแตกแยกขึ้น ไม่ให้ประชาชนรบราฆ่าฟัน ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ ที่สำคัญพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นมิตรกับทุกพรรคและทุกคน
สำหรับพรรคเพื่อแผ่นดินเตรียมตัวเลือกตั้งหรือยัง นายชาญชัยกล่าวว่า เลือกตั้งไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะต้องมีการยุบสภาก่อน ซึ่งกรณีหากจะมีการยุบสภาก็เนื่องมาจาก 1.วิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง 2.ความขัดแยงของระบบรัฐสภาอย่างรุนแรง 3.วิกฤตความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้วิกฤตเศรษฐกิจโงหัวขึ้นก็ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนวิกฤตระบบรัฐสภาก็ยังไม่เกิดขึ้น ยังไม่รุนแรง ส่วนวิกฤตพรรคร่วมฯ ก็ไม่รุนแรง มีความเห็นต่างกันบ้างนิดหน่อยแต่เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ยังสามารถเข้าใจกันได้
“ถ้าถึงวันขัดแย้งรุนแรงเหมือนในอดีตของรัฐบาลก่อนๆ แม้ในพรรคเดียวก็ยังแตกก็เคยมีมาแล้วแต่เหตุการณ์ 9 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหน่อไม้” นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่ามีอีกวิกฤตหนึ่งคือวิกฤตของมวลชนที่จะปะทะกัน นายชาญชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ นายชาญชัยกล่าวว่า เชื่อขนมไว้ล่วงหน้าว่ายังไงรัฐบาลพรรคร่วมถ้าไม่วิกฤตไม่เกิดความแตกแยกอยู่นาน “ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นอาจจะมี ย.ยักษ์ก็ได้” เมื่อถามว่า ย.ยักษ์แปลว่าอะไร นายชาญชัยกล่าวว่า ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายถึงอยู่ยาว ยุ่งเหยิง ยุบสภาหรือแย่ นายชาญชัยไม่ตอบแล้วเดินออกไปทันที