นายกฯ นัดถก กอ.รมน.เพื่อประเมินสถานการณ์ม็อบเสื้อแดงว่าจะบังคับใช้ กม.ความมั่นคงหรือไม่ในเช้าวันที่ 18 ก.ย. ประสานสื่อไทย-ต่างประเทศเกาะติดการชุมนุม เชื่อมีความพยายามจ้องล้มรัฐบาล ไม่หวั่นปลุกระดมจนวุ่นวาย พร้อมเรียกประชุมฉุกเฉินทันที
วันนี้ (14 ก.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ในเบื้องต้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.จะประเมินสถานการณ์ในแต่ละวันเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่าจะเห็นสมควรให้ประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงหรือไม่
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 กันยายนนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน.จะเข้าตรวจเยี่ยม กอ.รมน.ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ในช่วงเช้าด้วย ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นก็สามารถเรียกประชุมฉุกเฉินได้ ส่วนกรณีการครบรอบ 3 ปี เหตุการณ์ 19 กันยายนก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวถือเป็นการเคลื่อนไหวที่เปิดเผยตัว แต่ต้องดูว่าจะควบคุมกันเองได้หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกให้ แต่ก็ยอมรับว่ากลุ่มคนเหล่านี้พยายามให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดังนั้น เรียกร้องสื่อไทยและต่างประเทศให้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกันนี้ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะไม่เลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ในวันที่ 20 กันยายนนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าในต่างจังหวัดมีการระดมมวลชนกันอย่างคึกคัก ซึ่งโดยรวมเป็นการชุมนุมอย่างสงบ แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ต้องมีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมามีความพยามที่จะสร้างสถานการณ์ ส่วนเหตุการณ์ที่ จ.ลพบุรี การชุมนุมเรียบร้อยดี แต่ก็มีบางส่วนที่มีความพยายามจะใช้ความรุนแรงด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่ขบวนรถของนายกรัฐมนตรี
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งหมด หากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งมีรายงานข่าวว่าอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ นายสุเทพย้ำว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่จะไม่มีความผิดหากปฏิบัติตามกฎหมาย
รองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ยังกล่าวถึงกรณีความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลจะไม่ปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติ แต่จะใช้ความระมัดระวังและรอบคอบมากที่สุด