“ปลัดกลาโหม” มั่นใจ “ประวิตร”แยกแยะได้หลัง น้องชาย ถูกคำสั่งช่วยราชการสำนักนายกฯ หนุน นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ต่อ พร้อมเตือน ขรก. ให้ระมัดระวัง ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ การสลายม็อบ อย่าให้การเมืองใช้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องแจ้งข้อมูลให้การเมืองรู้ว่าทำสิ่งไหนได้บ้าง ถือเป็นบทเรียน แนะ รัฐบาล –กองทัพ รู้หน้าที่ตัวเอง
วันนี้(11 ก.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) มีมติลงโทษทางวินัยและอาญาร้ายแรงต่อข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 โดยเฉพาะ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ว่า ข้าราชการได้ปฏิญาณตนแล้วว่า จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นคงไม่มีสิทธิ์ท้อถอย และต้องมุ่งหน้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวมเป็นหลัก
ทั้งนี้ที่มีการมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง พล.ต.อ.พัชรวาท นั้น ตนไม่ขอวิจารณ์ ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า กองทัพกับรัฐบาลไม่เข้าใจกัน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีอะไร และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า ด้วยความเป็นผู้นำของท่านคงไม่มีปัญหา ท่านแยกแยะของท่านได้ ไม่เคยมาบ่นกับพวกตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินของ ป.ป.ช. จะทำให้ข้าราชการเสียขวัญในการปฏิบัติงานหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ส่วนจะเสียขวัญหรือไม่ อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า ถ้าเราทำงานต้องเตือนตัวเองมากกว่า ว่าเราจะทำอะไร หากเราจะตัดสินใจทำอะไรในบางเรื่องที่เสี่ยง จะต้องใคร่ครวญและรอบคอบมากขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่า ทุกคนคงมุ่งมั่นในการทำงานตามภาระหน้าที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น หากจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับด้านการเมือง จะต้องคิดใคร่ครวญให้ดี เมื่อถามว่า กรณีที่ พล.อ.พัชรวาท ถือเป็นบทเรียนของข้าราชการหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า แน่นอน คงเป็นกรณีศึกษาที่เราจะต้องใช้เป็นบทเรียน และเราต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
เมื่อถามว่าการตัดสินของ ป.ป.ช. จะเป็นข้ออ้างให้ตำรวจเกียร์ว่างในการทำหน้าที่หรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องดูคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ว่ามีการปฏิบัติอะไรที่ผิด ไม่ถูกต้อง ซึ่งคงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องมีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้ ตนมองว่าข้าราชการเป็นตัวบุคคลที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่รับมอบหมาย หากมีหน้าที่อะไรก็ต้องทำตามนั้น คงจะไปเกียร์ว่างหรือทำอะไรในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่คงไม่ได้ คงต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนจะต้องมีการผลักดันกฎหมายควบคุมฝูงชนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ควรเร่งรัดดำเนินการ ส่วนปัญหาก็ต้องค่อยๆ แก้ไขกันไป และทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไขดูแล ซึ่งอาจเป็นบทเรียนอันหนึ่งที่เราต้องช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหา แต่ใจจริงไม่อยากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น อยากให้รัฐบาลทำตามภาระหน้าที่ของรัฐบาลไปได้ด้วยดี ส่วนข้าราชการก็ทำหน้าที่ของข้าราชการที่ดี ทำหน้าที่ให้ลุล่วงไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การตัดสินของ ป.ป.ช. เป็นธรรมหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ตนไม่เห็น รายละเอียดสำนวนเป็นอย่างไร และพล.ต.อ.พัชรวาท ชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างไร ซึ่งตอนนี้เป็นเรื่องของ พล.ต.อ.พัชรวาท กำลังฟ้องต่อศาลอยู่ว่าไม่เป็นธรรมกับท่าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ การจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น และในบางเรื่องต้องชี้แจงฝ่ายการเมือง ว่าเรื่องนี้ทำได้หรือไม่ได้ อย่างไร ส่วนเหตุการณ์วางระเบิดบ้าน นายวิชา มหาคุณนั้น ก็ต้องช่วยกันดูแล และตอนนี้ตำรวจต้องทำงานหนักขึ้นและระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจะมีการปรับ พล.อ.ประวิตร ออกจาก ครม. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ ซึ่งท่านทำงานในส่วนของ รมว.กลาโหม อย่างเต็มความสามารถของท่านในทุกเรื่อง และท่านตั้งใจทำงานของท่านอย่างเต็มที่ อย่างดีที่สุด เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ยังเหมาะสมกับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าท่านยังเหมาะที่สุด