“เลขาฯ ป.ป.ช.” ยอมรับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานขอเพิ่มกำลังอารักขากรรมการและสถานที่เพิ่ม มั่นใจไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ เผยก่อนหน้าถูกข่มขู่บ่อยแต่ไม่เป็นข่าว เชื่อว่าการข่มขู่เกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น
วันนี้ (11 ก.ย.) นายปรีชา เลิศกมลมาศ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการดูแลสำนักงาน ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.หลังมีเหตุปาระเบิดใส่บ้านเก่าของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ว่า สำนักเลขาธิการฯ ได้มีการดำเนินการดูแลอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว ทั้งเรื่องการดูแลรักษาสถานที่ การดูแลตัวบุคคล ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือกรรมการ ป.ป.ช. โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และตำรวจสันติบาล รวมถึงกำลังสารวัตรทหารที่มาช่วยคอยอำนวยความสะดวก แต่เมื่อมีเหตุการณ์ปาระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้น ก็คงต้องมีการปรับแผนในการดูแล ในวันนี้ (11 ก. ย.) หลังจากเหตุได้มีนายตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และผู้บังคับการตำรวจสันติบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประสาน ดังนั้นตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกัน กรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนก็คงตระหนักและระมัดระวังตัวเองอยู่แล้วด้วย
“เราก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากขึ้น อาจจะระมัดระวังเพิ่มนิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาของการเกิดเหตุ เราก็ต้องมาทบทวนดูว่า สิ่งที่ได้ปฏิบัติอยู่เดิมนั้น มีอะไรที่ขาดตกบกพร่อง หรือควรจะต่อเติม ปรับปรุงให้เรียบร้อย และมีความมั่นใจมากขึ้น และผมคิดว่าทางสำนักงานคงไม่เพิ่มอะไร เพราะเราเคยทำหนังสือขอไปแล้ว มาถึงวันนี้คงเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วย” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการข่มขู่กรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า ที่ผ่านมาจะมีในลักษณะของการต่อว่า กรรมการ ป.ป.ช.มากกว่า ซึ่งแต่ละฝ่ายที่ออกมาแสดงก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ต้องการแสดงความรู้สึกชั่วขณะ และคิดว่าพอคลายจากสถานการณ์แล้วทุกอย่างน่าจะคลี่คลาย ตนคงต้องถือว่ากรรมการ ป.ป.ช.ก็เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาบ่อยๆ และไม่ได้หวั่นไหวอะไร อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาเคยมีการข่มขู่ มีการมุ่งประสงค์ หรือมีความไม่ปกติเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ไม่ได้เป็นข่าว หรือเป็นที่เปิดเผย
เมื่อถามว่า ทางกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนมีความหวาดกลัวหรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า กรรมการ ป.ป.ช.ก็ถ่ายทอดความรู้สึกและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคิดว่า คงเป็นเพียงชั่วระยะเวลาเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีกรณีปาระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ ป.ป.ช.ได้รับคำสั่งให้ดูแลรถและคนที่เข้าออกบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช.อย่างเข้มงวด โดยรถที่ผ่านเข้าออกจะต้องมีสติกเกอร์และจะต้องถูกตรวจโดยเครื่องตรวจ วัตถุระเบิดอีกด้วย
วันนี้ (11 ก.ย.) นายปรีชา เลิศกมลมาศ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการดูแลสำนักงาน ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.หลังมีเหตุปาระเบิดใส่บ้านเก่าของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ว่า สำนักเลขาธิการฯ ได้มีการดำเนินการดูแลอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว ทั้งเรื่องการดูแลรักษาสถานที่ การดูแลตัวบุคคล ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือกรรมการ ป.ป.ช. โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในพื้นที่และตำรวจสันติบาล รวมถึงกำลังสารวัตรทหารที่มาช่วยคอยอำนวยความสะดวก แต่เมื่อมีเหตุการณ์ปาระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้น ก็คงต้องมีการปรับแผนในการดูแล ในวันนี้ (11 ก. ย.) หลังจากเหตุได้มีนายตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และผู้บังคับการตำรวจสันติบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประสาน ดังนั้นตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ขณะเดียวกัน กรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนก็คงตระหนักและระมัดระวังตัวเองอยู่แล้วด้วย
“เราก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากขึ้น อาจจะระมัดระวังเพิ่มนิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาของการเกิดเหตุ เราก็ต้องมาทบทวนดูว่า สิ่งที่ได้ปฏิบัติอยู่เดิมนั้น มีอะไรที่ขาดตกบกพร่อง หรือควรจะต่อเติม ปรับปรุงให้เรียบร้อย และมีความมั่นใจมากขึ้น และผมคิดว่าทางสำนักงานคงไม่เพิ่มอะไร เพราะเราเคยทำหนังสือขอไปแล้ว มาถึงวันนี้คงเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วย” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการข่มขู่กรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า ที่ผ่านมาจะมีในลักษณะของการต่อว่า กรรมการ ป.ป.ช.มากกว่า ซึ่งแต่ละฝ่ายที่ออกมาแสดงก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ต้องการแสดงความรู้สึกชั่วขณะ และคิดว่าพอคลายจากสถานการณ์แล้วทุกอย่างน่าจะคลี่คลาย ตนคงต้องถือว่ากรรมการ ป.ป.ช.ก็เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาบ่อยๆ และไม่ได้หวั่นไหวอะไร อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาเคยมีการข่มขู่ มีการมุ่งประสงค์ หรือมีความไม่ปกติเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ไม่ได้เป็นข่าว หรือเป็นที่เปิดเผย
เมื่อถามว่า ทางกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคนมีความหวาดกลัวหรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า กรรมการ ป.ป.ช.ก็ถ่ายทอดความรู้สึกและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคิดว่า คงเป็นเพียงชั่วระยะเวลาเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีกรณีปาระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ ป.ป.ช.ได้รับคำสั่งให้ดูแลรถและคนที่เข้าออกบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช.อย่างเข้มงวด โดยรถที่ผ่านเข้าออกจะต้องมีสติกเกอร์และจะต้องถูกตรวจโดยเครื่องตรวจ วัตถุระเบิดอีกด้วย
