“สมศักดิ์” ปธ.สอบซื้อเก้าอี้ ตร.สรุปซื้อ-ขายตำแหน่งจริงในช่วง “พัชรวาท” เป็นผบ.ตร. พร้อมรายงานให้"สุเทพ"ทราบแล้ว ขณะที่คกก.สลายม็อบ สรุปผลไม่พบคนตายเกี่ยวชุมนุม “เสื้อแดง” แนะผุดกม.ควบคุมการชุมนุม ห้ามใช้ทหารดูแลม็อบ พร้อมส่งสำนวนต่อให้ปู่ชัย 15 ก.ย.นี้
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานตรวจสอบข้อกล่าวหาจากฝ่ายการเมือง ที่ระบุมีการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการตำรวจ เปิดเผยว่า ตนได้ส่งผลสรุปการสอบสวนของคณะกรรมการเกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐทนตรี เรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อสรุปว่า มีการแทรกแซงแต่งตั้ง โยกย้ายนายตำรวจประจำปี 2551 จริง รวมทั้งมีการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นคำสั่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร.ซึ่งมีตำรวจชั้นผู้น้อย ร้องเรียนเข้ามากว่า 100 เรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นการแทรกแซง และการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม หลังจากการยื่นผลสอบต่อนายสุเทพ แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของนายสุเทพ ที่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขึ้นมา 1ชุด ว่า ใครมีความผิดบ้าง
นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยมีนายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานกรรมการฯทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อสรุปประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดของคณะอนุกรรมการฯทั้ง 7 ชุด
โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้หารือพร้อมทั้งเสนอให้มีการนำคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี เข้ามาหารือ เนื่องจากเนื้อหา ถ้อยคำเกี่ยวข้องกับการชุมนุมในช่วงสงกรานต์ ซึ่งอาจทำให้ข้อสรุปของคณะกรรมการฯเปลี่ยนไป
ทั้งนี้มีบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เมื่อเกิดการปะทะคารมระหว่างกรรมการฯในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย โดยนายวรวัจน์ ยังยืนยันที่จะให้ประธานนำคลิปเสียงและถอดเนื้อหารายละเอียดทั้งหมด มาใส่ไว้ในรายงานรวมทั้งผลการสอบสวนของกองพิสูจน์หลักฐาน และผลสอบของพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่ระบุว่า มีการตัดต่อจริง แต่การตัดต่อเป็นลักษณะการนำข้อความ ประโยคมาติดกัน แต่สาระ เนื้อหายังคงเดิม
ขณะที่นาย อาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า คลิปนี้เป็นเสียงนายกรัฐมนตรี จริง และหน่วยงานที่ตรวจสอบ ก็ยอมรับว่ามีการตัดต่อ เพราะถ้านายกฯพูดจริง ก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้ ดังนั้นหากจะมีการบันทึกเนื้อหาของคลิปลงในผลสรุปของคณะกรรมการฯตนไม่ด้วย และขอเรียกร้องให้นาย วรวัจน์ นำคลิปฉบับจริง ออกมาพิสูจน์ต่อสาธารณชน ไม่ควรให้สังคมคลางแคลงใจและไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นเกมส์การเมือง
หลังถกเถียงนานกว่า 1 ชม. นายสมศักดิ์ ได้สรุปว่า จะนำเรื่องคลิปไปใส่ในภาคผนวก แต่จะไม่มีการถอดคำพูด โดยจะทำเพียงการถอดเทปบันทึกปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพญ.คุณหญิงพรทิพย์ มาใส่ไว้ในรายงานเท่านั้น
จากนั้นนายสมศักดิ์ แถลงว่า คณะกรรมการฯได้สรุปผลการศึกษาข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว โดยจะส่งให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาในวันที่ 14ก.ย. นี้ เวลา 13.00น. เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่16 - 17 ก.ย.นี้ โดยข้อสรุปของคณะกรรมการฯเบื้องต้น ไม่พบผู้เสียชีวิตจากเหตการณ์การชุมนุม ส่วนการเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข ทหารรับใช้ภายในบ้านพักแม่ทัพภาคที่1ยังไม่พบชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดยแพทย์ชันสูตรว่าถูกของแข็งกระแทกที่ศรีษะ ทั้งนี้ผลสรุปของคณะกรรมการฯเป็นข้อเท็จจริง ที่ได้รับจากการรวบรวมเหตุการณ์ทุกสถานที่ ที่เกิดการปะทะรุนแรงในช่วงสงกรานต์ ซึ่งที่ประชุมไม่ได้มีผลสรุปชี้ชัดว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด เพียงแต่เราทราบข้อเท็จจริงว่ามีการชุมนุมที่ไหน อย่างไรบ้าง เริ่มจากจุดไหนไปสู้จุดไหน และได้เห็นว่าการชุมนุมหลายแห่งสงบ ขณะที่อีกหลายแห่งก็ชุมนุมโดยไม่สงบ แต่คณะกรรมการฯ ไม่ได้ชี้ว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด ทั้งนี้ก็ได้มีการบันทึกความเห็นที่แตกต่างของทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งมีข้อเสนอแนะในการชุมนุม ว่า ในอนาคตควรจะมีกฎหมายเข้ามาดูแล ควบคุมการชุมนุมโดยเฉพาะ รวมทั้งการสลายการชุมนุมทุกครั้งไม่ควรมีการทหารเข้าเกี่ยวข้อง ควรมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยเฉพาะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อสรุปที่ได้ คาดว่าผู้ชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะนำมาปฎิบัติตามหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “พวกเขาคงไม่อ่านผลการสรุปด้วยซ้ำ”
นายอัชพร จารุจินดา เลขานุการคณะกรรมการฯ ระบุว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิต ระหว่างช่วงเหตุการณ์การชุมนุมทั้งกรณีของพลทหารอภินพ เครือสุข และผู้ชาย 2 คนที่พบศพบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่พบว่ามีการเชื่อมโยงกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง