ปชป.โต้ “เพื่อแม้ว” แน่จริงเปิดชื่อ รมต.โกงชุมชนพอเพียง ซัดอย่าปลุกปั่น

“นพ.วรงค์” ตอบโต้ “เพื่อแม้ว” อย่าหวังปั่นกระแสเรื่องคลิปเสียง ชี้กรมพิสูจน์หลักฐานย้ำชัดตัดต่อกว่า 20 จุด ซัดหวังทำคนเกียจชังรัฐบาล ส่งผลดีต่อชุมนุมคนเสื้อแดง ยันสอบชุมชนพอเพียงไม่พบมีรัฐมนตรีเอี่ยว ชี้ 4 สมาชิกทำเองไม่เกี่ยวพรรค ท้ารู้ข้อมูลเป็นใครให้เปิดชื่อกลาวสภาได้ ไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง อย่ามัวแต่ขี่ม้าเลียบค่าย

วันนี้ (6 ก.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคลิปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกตัดต่อ 3 จุดเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยพรรคยืนยันว่ามีการตัดต่อถึง 62 จุด โดยโปรแกรมออราซิตี ซึ่งพิสูจน์โดยกองเชี่ยวชาญพิสูจน์หลักฐาน โดยพรรคเพื่อไทยบอกว่า 3 จุด ได้ตัดต่อจากต้นฉบับ และ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์พบว่ามีการตัดต่อกลางคำพูดนายกฯ ถึง 10 จุด ดังนั้น ทุกหน่วยงานยืนยันว่าจุดคำพูดมีการตัดต่อทั้งหมด ทำให้สงสัยว่าพรรคเพื่อไทยทำเพราะต้องการสร้างความเกลียดชังทางการเมือง และหวังผลชุมนุม 19 ก.ย. หรือไม่ ขอให้เพื่อไทยอย่าเล่นการเมืองใต้เข็มขัดมากเกินไป

นพ.วรงค์ กล่าวถึงเรื่องชุมชนพอเพียงที่พรรคไล่สมาชิก 4 คนนั้น พรรคถือว่า 4 คนนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคลไม่มีการสั่งการของพรรคประชาธิปัตย์หรือรัฐมนตรีคนใด นอกจากนี้ ที่พรรคเพื่อไทยโจมตีสินค้าชุมชนพอเพียงเป็นสินค้ามือ 2 เช่น รถนวดข้าว รถอีแต๋น มาพ่นสีทำใหม่ และขายในราคาแพงนั้น ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนสับสน เพราะสิทธิในการซื้อขายในการตัดสินใจทั้งเป็นของคณะกรรมการชุมชุน พรรคเพื่อไทยเล่นการเมืองอย่างนี้ มีเจตนาทำลายชุมชุน ขอย้ำว่าการซื้อข่าวสินค้าดังกล่าวเป็นเรื่องของชุมชน ดังนั้น หากอยากให้ชุมชนเข้มแข็ง ต้องรณรงค์ให้ประชาชนตรวจสอบคณะกรรมการชุมชุนมากกว่า แต่พรรคเพื่อไทย เจตนาจะชี้ให้เห็นตลอดว่าเป็นการทุจริตโดยรัฐบาล โดยกระบวนการในสภาก็มีอยู่ ขอให้พรรคเพื่อไทยอภิปรายในสภาว่ารัฐมนตรีคนไหนสั่งการ เพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง ไม่ใช่เดินเกมแบบขี่ม้าเลียบค่ายอย่างนี้ จึงขอให้พรรคเพื่อไทยอย่าหวังผลทางการเมืองมากเป็นไป

นพ.วรงค์ กล่าวว่า กรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่าการขับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกนั้นเป็นแค่ ปลาซิวปลาสร้อย ยืนยันว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลที่ไม่พบความผิดไปถึงรัฐมนตรี ขณะที่พรรคเพื่อไทยครั้งที่เป็นรัฐบาล ในโครงการ 1 เอสเอ็มแอล พบความผิดไปที่รัฐมนตรีชัดเจนแต่ไม่ดำเนินการอะไร ทั้งที่ไปเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยที่ไปดำเนินการกว่าร้อยหมู่บ้าน