แฉแก๊งแดงบุกป่วน “มาร์ค” ขณะลงพื้นที่แจกที่ราชพัสดุให้เกษตรกร ปทุมธานี และสระบุรี นำลิ่วล้อแค่หยิบมือต่อต้าน ขณะที่ตำรวจตรวจค้นรถกระบะต้องสงสัย พบซุกระเบิดปิงปองกว่า 40 ลูก หวังก่อเหตุ เจ้าตัวอ้างเอาไว้ระเบิดไล่นก นายกฯ ได้รับรายงานต้องยกเลิกกำหนดการอื่น ก่อนรีบกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.35 น.วันนี้ (3 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปมาตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้โครงการภูมิปัญหาแห่งแผ่นดินเศรษฐกิจพอเพียง บ้านหนองสามวัง ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง โดยมี นายปรีชา บุตรศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นำข้าราชการท้องถิ่นและชาวบ้าน คอยให้การต้อนรับด้วยการชูป้ายและมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจกับนายอภิสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รมว.และ รมช.คลัง ได้ช่วยกันเกี่ยวข้าว ปล่อยพันธุ์ปลาลงในบ่อเลี้ยง และเทน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพ ลงในแปลงนาที่มีการเตรียมรถไถนาให้นายกรัฐมนตรีได้ขับ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ขับแต่อย่างใด จากนั้นได้เดินมายังจุดเรียนรู้การปรับปรุงแปลงนา ของกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อร่วมเกี่ยวข้าวกับชาวบ้าน
ขณะเดียวกัน บริเวณอีกฟากฝั่งคลองฝั่งตรงข้ามศูนย์ ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” ประมาณ 20 คน เดินทางมาพร้อมรถกระบะติดเครื่องขยายเสียง ถือตีนตบ-หัวใจตบ ยืนปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อปพร.ยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ ณ จุดที่มีการชุมนุมรวมถึงบริเวณสะพานข้ามคลองทุกจุด เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุม ข้ามคลองมาได้ โดยไม่มีเหตุรุนแรงอะไร
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ ที่คิดค่าเช่า 20 บาทต่อไร่ต่อปี เนื้อที่ 7,912 ไร่ ให้แก่เกษตรกร ชาวปทุมธานี และสระบุรี จำนวน 1,182 ราย ใน โครงการ “1 ล้านไร่มิติใหม่ที่ราชพัสดุ” เพื่อสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงานและลดปัญหาการว่างงาน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการนี้ เพราะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ตนคิดว่าเรื่องที่ทำกินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเกษตรกร เพราะเป็นปัจจัยการผลิตที่มีความสำคัญที่สุด เสียดายที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีการแก้ปัญหา ได้ตรงจุด ซึ่งปัญหาที่ดินทำกินสะท้อนให้เห็นความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมของสังคม เนื่องจากมีคนครอบครองที่ดินมาจำนวนมาก แต่ไม่นำมาใช้ประโยชน์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐบาล เริ่มตั้งแต่การขอคืนที่ดินจากหน่วยงานทั้งหลายที่ถือครองที่ดินอยู่ แต่ก็ยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหลายหน่วยงานมีความลังเลที่จะคืนที่ดินให้ เพื่อนำไปใช้ผู้อื่น อย่างไรก็ตาม ที่ดินนั้น ต้องดูความเหมาะสมของพื้นที่ในการเพาะปลูกด้วย ก่อนที่จะให้เกษตรกรเช่า ซึ่งเกษตรกรที่จะมาเช่าที่ต้องเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ทำการปลูกพืชเองเท่านั้น โดยจะเร่งรัดให้มีการดำเนินการอย่างทันทีโดยไม่ต้องรอให้เวนคืนที่ดินให้ครบ 1 ล้านไร่ โดยจะสั่งให้มีการดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี
“ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรแล้ว 35,000 ไร่ คาดว่า ภายในปีนี้จะจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร 200,000 ไร่ ส่วนหน่วยราชการไหนยังไม่คืนที่ดินรัฐบาลจะเข้าไปเจรจาเป็นรายกระทรวงต่อไป ซึ่งการเช่าที่ดินของประชาชนเพื่อทำการเกษตรรัฐบาลจะเข้าไปดูความเหมาะสมของการเพาะปลูก โดยกำหนดให้เพาะปลูกในอัตราที่เท่าเทียบกันระหว่างพืชอาหารและพืชพลังงาน นอกจากนี้ รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนเรื่องแหล่งน้ำด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนหวังว่า ประชาชนจะใช้โอกาสที่ได้รับครั้งนี้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตนเองและครอบครัว ด้วยการหาความรู้มาปรับปรุงพืชการเกษตร และที่สำคัญตนขอให้ทุกคนรักษาสิทธิการเช่าไปจนถึงลูกหลานเพื่อให้ลูกหลาน ได้มีที่ทำกินต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวเปิดโครงการนำที่ดินราชพัสดุสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงานนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนำเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดมาตรวจบริเวณที่นายกรัฐมนตรีปฏิบัติภารกิจ ปรากฏว่า สามารถตรวจสอบพบรถปิกอัพอีซูซุหมายเลขทะเบียน บง 49 ปทุมธานี จอดอยู่ตรงข้ามวัดนพรัตน์ สถานที่ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ โดยมีชายนั่งอยู่ในรถ ไม่ลงมาที่งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นรถ พบระเบิดปิงปองจำนวนกว่า 40 ลูก พร้อมไฟแช็กที่จะจุดโยนใส่ได้ทันที
ต่อมา พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ปทุมธานี พ.ต.อ.มาโนช สถิตพานิช รอง ผบก.พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ได้ร่วมกันตรวจสอบและสอบสวน ทราบชื่อ นายอดุลย์ ประสบศรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ม.14 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า ได้ฝากเพื่อนซื้อระเบิดปิงปองมาจำนวน 40 ลูก เพื่อมาจุดไล่นกในนาข้าว แต่ทางการข่าวสอบสวนทราบว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาก่อกวนในงานนี้ จึงได้จับกุมส่งให้ สภ.หนองเสือ ดำเนินคดีในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ ทราบเรื่องเข้าจึงได้ยกเลิกกิจกรรมโครงการคลังสัญจร ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และติดตามผลงานโครงการไทยเข้มแข็ง เป็นเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยให้เหตุผลว่าจะต้องเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันเดียวกัน