รายการ สภาท่าพระอาทิตย์ ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันที่ 30 สิงหาคม 2552 ดำเนินรายการโดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โดยมี พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ และนายวีระ สมความคิด ประธานอำนวยการคณะกรรมการเครือข่ายประชาชาต่อต้านคอร์รัปชั่น มาร่วมรายการ พร้อมกับตัวแทนประชาชนประมาณ 10 คน ที่ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบบริเวณรอบปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเล่ารายละเอียดการขึ้นไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าไทยได้เสียดินแดนบริเวณดังกล่าวให้กัมพูชาแล้วอย่างไรบ้าง
นายวีระ ได้ยืนยันภาพประวัติศาสตร์ที่ศาลโลกตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร ส่วนดินแดนยังเป็นของไทย ซึ่ง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าทนายความฝ่ายไทยก็เคยยืนยันว่า มีแต่ตัวปราสาทเท่านั้นที่ศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา หากตัวปราสาทพังลงเมื่อไหร่ดินแดนก็เป็นของเรา และทหารไทยหลังจากนั้นเคยได้พลีชีพปกป้องดินแดนบริเวณปราสาทพระวิหารมาแล้ว จนหลังปี 2519 เป็นต้นมาที่เราอ่อนแอปล่อยให้กัมพูชาฮึกเหิม หวังจะให้เขมรแดงเป็นกันชน และเราก็ไม่สามารถกำราบเขมรลงได้
ขณะที่ พล.อ.ปรีชา ยืนยันว่า ไม่เคยคิดว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา เพราะตามหลักสันปันน้ำตัวปราสาทย่อมเป็นของเรา เหมือนของที่มาอยู่บนหลังคาบ้านเราก็ต้องเป็นของเรา แต่เราเสียตัวปราสาทให้กัมพูชาเพราะอิทธิพลของมหาอำนาจในขณะนั้น นอกจากนี้ โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นของเราอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ทหารไทยปล่อยให้ทหารกัมพูชาเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้
หลังจากนั้น นายวีระ ได้เปิดภาพวิดีโอขณะไปพิสูจน์พื้นที่เขาพระวิหารเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏชัดเจนว่า คนไทยไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ที่เคยเป็นเขตแดนไทยได้ เนื่องจากมีทหารกัมพูชาตรึงกำลังอยู่ เป็นการพิสูจน์ว่าไทยได้เสียดินแดนให้กัมพูชาไปแล้ว ซึ่งทหารที่รักษาการอยู่บริเวณดังกล่าวก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ