อภิสิทธิ์ ชี้ การประกาศใช้ กม.ความมั่นคง ไม่ถือเป็นการลิดรอนสิทธิการชุมนุม และไม่ได้ทำลายบรรยากาศการลงทุน แต่กลับสร้างมั่นใจว่าจะไม่มีความวุ่นวายจากเหตุชุมนุม เตรียมหารือที่ประชุมประกาศใช้รอบใหม่
วันนี้ (30 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยกเลิกการชุมนุม ว่า เมื่อคืนวานนี้ (29 ส.ค.) ได้หารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายสุเทพ จะรายงานกลับมาอีกครั้ง หากเห็นว่า ควรเลิกการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็สามารถเลิกได้ แต่เท่าที่ดำเนินการไปเป็นการให้ความมั่นใจว่าหากมีการชุมนุมแล้วการชุมนุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการลิดรอนสิทธิต้องการให้เป็นไปตามกฎหมาย และแนวทางคำวินิจฉัยของศาล ส่วนที่คนเสื้อแดงเลื่อนนัดการชุมนุมเป็นวันที่ 5 กันยายน จะมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิตอีกครั้งหรือไม่ จะต้องหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 1 กันยายน
“ผมคิดว่า ในส่วนของผู้ชุมนุมต้องตอบคำถามว่า มีปัญหาอะไรกับการที่รัฐบาล ขอให้ชุมนุมโดยสงบในส่วนของรัฐบาลไม่มีปัญหาอะไร เรามีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยของบ้านเมืองเราไม่ละเมิดสิทธิใคร เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์อย่างเดือนเมษายนอีก จะทำความเสียหายให้กับส่วนรวมอย่างมากเพราะฉะนั้นผู้ชุมนุมควรจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการที่จะทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า หากผู้ชุมนุมเลื่อนหนี พ.ร.บ.ความมั่นคงออกไปเรื่อยๆ จะเลื่อนตามหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่มีปัญหาอะไรกับใครเป็นเพียงการสามารถจัดวางกำลัง เพื่อที่จะดูแลให้การใช้สถานที่สำคัญ เป็นไปได้โดยปกติเท่านั้นเอง และเชื่อว่า ไม่ได้ทำลายบรรยากาศการลงทุน ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ชี้แจงไปทุกคนเข้าใจดี เพราะเคยประกาศใช้แล้วครั้งหนึ่งที่จังหวัดภูเก็ตและไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับการสร้างความกังวล แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อประกาศที่ภูเก็ต และจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศได้เรียบร้อย ก็เห็นผลจากการที่การท่องเที่ยวดีขึ้น
ส่วนที่คนเสื้อแดง ระบุว่า การนัดชุมนุมเป็นการชุมนุมทางการเมืองธรรมดาไม่ได้มีการประชุมระดับนานาชาติเหมือนที่ภูเก็ตนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาพลักษณ์ที่นานาชาติมองอยู่ก็แน่นอนว่าการประชุมนานาชาติต้องเรียบร้อย แต่ตนคิดว่าสังคมก็ต้องเข้าใจว่า หากนานาชาติเห็นภาพการยึดทำเนียบรัฐบาลหรือยึดสนามบินอีก ก็เชื่อว่า เป็นปัญหาแน่นอน
สำหรับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าในวันที่ 19 กันยายน จะต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกแน่นอนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีปัญหากับการเคลื่อนการชุมนุม แต่ขอให้แสดงออกให้ชัดเจนว่า จะไม่ทำผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้าไปในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ทั้งที่เคยประกาศจะไม่เข้าไปก็อยากให้สังคมช่วยตัดสินว่า รัฐบาลทำผิดอะไรกับการที่จะรักษาความเรียบร้อยและในทางตรงกันข้ามถามว่า ผู้ชุมนุมมีเจตนาอะไรที่ไม่ต้องการชุมนุมโดยสงบ
เมื่อถามว่า วันที่ 19 กันยายน ซึ่งครบรอบ 3 ปีของวันที่มีการรัฐประหารจะเป็นวันแตกหักหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลไม่ให้เป็นเช่นนั้น และถ้าอยากจะแสดงจุดยืนวันไหน อย่างไรก็สามารถทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการนำคลิปเสียงตัดต่อของนายกรัฐมนตรีมาเผยแพร่ ว่า เมื่อเป็นคลิปที่มีการตัดต่อ มีเจตนาให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมืองและเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะฉะนั้นถ้าใครนำไปเผยแพร่จะถือว่ามีความผิดรวมถึงกรณีที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 แจกคลิปเสียงดังกล่าวด้วย ซึ่งอยากขอความร่วมมือความจริงแล้วการจับหรือดำเนินการกับผู้เผยแพร่คงไม่ยากไม่เหมือนกับคนดำเนินการตัดต่อ ที่คงต้องไปสืบสวนสอบสวนพอสมควร ส่วนจะมีการนำคลิปดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในการชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบแต่หากใช้ก็จะเป็นการฟ้องประจานตัวเองว่าเคลื่อนไหวโดยเรื่องที่เป็นเท็จ และตนคิดว่า คนที่เคลื่อนไหวน่าจะลองไปทบทวนดูเพราะหลายเรื่องในอดีตก็เป็นเท็จ และตนฟ้องร้องไปแล้ว 2 คดี และอาจจะต้องฟ้องร้องเพิ่มเติม แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อหาที่เป็นเรื่องความผิดต่อแผ่นดินอยู่แล้ว ตนอาจจะไม่ต้องทำอะไร
