“รัฐมนตรีลูกกรอก” เชื่อคลิปเสียง “มาร์ค” สั่งใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมตัดต่อชัวร์ อ้างรู้ต้นตอมาจากไหน ถามสำนึกนำออกมาช่วงนี้มีเจตนาอะไร ยังงมโข่งไม่รู้วิธีล่ามือมืด อ้างตรวจสอบยาก เชื่อนายกฯ มีวิธีจัดการได้เอง หนุนฟ้องฐานะผู้เสียหายโดยตรง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสักนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น นำอ้างคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งหลังจากนายสาทิตย์ได้ฟังแล้วถึงกับหน้าถอดสี พร้อมกับกล่าวว่า “ตัดต่อได้ร้ายมาก ผมยืนยันว่าต้องมีการตัดต่อ มีเจตนามาเผยแพร่เพื่อทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งการพูดในลักษณะเช่นนี้เป็นการพูดโดยใครก็น่าจะทราบ การบันทึกเทปในลักษะเช่นนี้น่าจะมีการเผยแพร่มาตั้งนานแล้ว” นายสาทิตย์กล่าว
นายสาทิตย์กล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับนายกฯ แล้ว และอยากให้สอบถามเรื่องนี้กับนายกฯ โดยตรง เพราะถือว่าเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง และสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งไปพิสูจน์เสียงเพื่อให้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม คลิปในลักษณะนี้เคยออกมาบ้างในช่วง 11-12 เมษายน ซึ่งตนอยู่ที่กองบัญชาการตลอด ไม่มีการสั่งการลักษณะเช่นนี้ เพราะการสั่งการในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตนคิดว่าในห้องนั้นคงไม่ได้มีแต่เฉพาะฝ่ายทหารเท่านั้น ส่วนอื่นอีกเยอะที่น่าจะ เป็นรองเลขากฤษฎีกา ฟังจากเนื้อหาทั้งหมดว่ากระทำอย่างนี้อย่างนั้น ซึ่งในเหตุการณ์แล้วมันไม่ใช่
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะตั้งรับมือกรณีนี้อย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของการปลอมแปลง ตัดต่อ คลิปของเสียง และการปลอมแปลงเสียงให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะกระทรวงไอซีทีที่ดูแลเรื่องนี้ และเป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย จะดำเนินการอย่างไร เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่และกระทบทั้งนายกฯ และสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศ นายสาทิตย์กล่าวว่า คิดว่านายกฯ คงมีวิธีการตรวจสอบและคงได้สั่งการต่อไป
“คงเป็นเรื่องที่ยากมากในการดำเนินคดี ที่จะเช็กหรือตรวจสอบได้ ก็เป็นในกรณีที่มีการส่งต่อแบบจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง กรณีนี้จะสืบหาต้นตอไม่ยาก ส่วนกรณีที่เป็นที่บริการสาธารณะ คนที่ทำมักหลบเลี่ยงไปใช้อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งตรงนี้ก็คงจะต้องมีการเก็บข้อมูล ทั้งนี้ เรื่องนี้ฟังดูแล้วแม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก แต่การเชื่อมโยงกันคงหาได้ไม่ยาก เรื่องนี้ต้องจัดการแน่นอน ต้องสาวให้ถึงต้นตอ” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว
นายสาทิตย์กล่าวด้วยว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันที่ 11-12 เมษายน ขัดแย้งกับเรื่องที่พยายาม เช่น ไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างนี้เป็นต้น จริงๆ การกระทำเช่นนี้ถ้าฟังเจตนาแล้วบอกได้ด้วยซ้ำว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไหน ฟังเนื้อหาแล้วมันเชื่อมโยงเนื้อหากับกลุ่มผู้ชุมนุมได้แน่นอน