“ลิ่วล้อแม้ว” สุมหัว มธ.เปิดเวทีด่า “มาร์ค” อ้างแทรกแซง สตช.

นักการเมือง-อดีตนายตำรวจเครือข่าย “นช.ทักษิณ” เปิดวงสัมมนาที่ธรรมศาสตร์ รุมป้ายสี “มาร์ค” แทรกแซง สตช.“อชิรวิทย์” ทำปากดี บอกนายกฯ สำคัญในอำนาจตัวเองผิด คิดว่าเลือก ผบ.ตร.ได้ ชี้ ระวังตกเก้าอี้ เหตุแทรกแซงตั้ง ผบ.ตร.ด้าน “เป็ดเหลิม” อ้างรัฐบาลซุก พ.ร.ฎ.ไม่ประกาศราชกิจจานุเบกษาที่ทรงลงพระปรมาภิไธย ซัดทำผิดกฎหมายติดคุกหัวโตแน่ ยันนายกฯ แทรกแซงชัดเจน เล็งเดินหน้าเสนอพรรคถอดถอน

วันนี้ (21 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดสัมมนา หัวข้อ “การแทรกแซงองค์กรตำรวจของกลุ่มการเมือง” โดยมีนักการเมืองและอดีตนายตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีเข้าร่วม อาทิ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุวรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช รองนายกสมาคมตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ร่วมสัมมนา

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ตามมาตรา 11 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการให้คุณให้โทษข้าราชการทุกกระทรวง นายกฯทุกคนได้ใช้อำนาจนี้ แต่ที่กระเทือนที่สุดในประวัติศาสตร์ คือสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีที่สั่งปลด พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายค่าเงินบาทของรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งนายกฯทุกคนใช้อำนาจนี้ แต่ต่างจาก นายอภิสิทธิ์

“สิ่งที่ท่านพูดในสภาพูดโดยเข้าใจเพียงครึ่งเดียว ท่านบอกมีอำนาจตามมาตรา 72 ตั้งใครก็ได้ แต่ถ้าอ่านกฎหมายทุกส่วนจะเข้าใจกระจ่างว่าใช้ผิดมิชอบ ถ้าพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ฟ้องศาลปกครอง นายกฯอภิสิทธิ์ จะหนักหน้าสาหัส” พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ในกฎหมายไม่ได้เขียนให้ใช้อำนาจตามสบาย เพราะกฎหมายระบุว่าสามารถแต่งตั้งได้ตำแหน่งต้องว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ อย่างนี้ถึงจะสามารถแต่งตั้งแทนได้ ทั้งนี้ กรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ปลด

พล.ต.อ.พัชรวาท โดยใช้อำนาจตามระเบียบกฎหมาย ไม่ได้ทิ้งค้างเหมือน นายอภิสิทธิ์ ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ตั้งใครขึ้นมาแทนได้
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ถ้านายกฯบริหารด้วยความเข้าใจ ต้องละเอียดรอบคอบกว่านี้มาก และต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ รู้ระบบราชการมากกว่านี้ จึงจะบริหารงานได้ราบรื่น น่าจะมีที่ปรึกษาด้านตำรวจเพื่อคัดกรองระเบียบตำรวจ หรือประวัติตำรวจ จะทำให้การบริหารงานของรัฐบาลราบรื่นกว่านี้

“นายกฯพลาดในการตัดสินใจผิดเรื่องแต่งตั้ง ผบ.ตร.ท่านขาดประสบการณ์ในการบริหารการแผ่นดิน ผมเชื่อว่า เรื่องนี้จะส่งผลต่อเก้าอี้และตำแหน่งของท่านในเร็ววันนี้” พล.ต.อ.อชิรวิทย์กล่าว
นายคณิน กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในยุค นายสมัคร สุนทรเวช หรือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ป่านนี้คงมีคนออกมาถล่มกันวอดวายแล้ว อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงองค์กรตำรวจเป็นเพียงปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือ พิษจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.ตนเชื่อว่าความมั่นคงของชาติ ศาสตน์ กษัตริย์ ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพบ้านเมือง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งถือเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย หากตำรวจไม่มีเสถียรภาพสังคมก็อยู่ไม่ได้

“การลงมติเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ตอกย้ำว่า นายกฯแทรกแซง และแทรกแซงไม่เป็น การตัดสินใจของผู้นำสำคัญมาก เพราะจะกระทบไปทุกองคาพยพ เพราะต้องฟังคนนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนที่แทรกแซงมากที่สุดคือคนนอกรัฐธรรมนูญ” นายคณิน กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาวันนี้คือ นายกฯคิดอะไรกันแน่ระหว่างแต่งตั้งโยกย้ายหรือ สางคดีนายสนธิ ให้เร็วขึ้น ไม่เจอตอ ซึ่งสำนวนสอบสวนนายกฯไม่มีสิทธิ์ล่วงรู้ หรือตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์เอาสำนวนมาบอก และตำรวจจะเป็นตอไม่ได้ หากคดีความมีหลักฐาน เพราะเวลาขอหมายจับไปขอที่ศาล

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า การออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นรักษาการ ผบ.ตร. นั้นไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่ผิดระเบียบ ก.ตร.ถ้ามีคำสั่งให้รักษาการครั้งแรกก็พอฟังได้ เพราะพล.ต.อ.พัชรวาท ไปต่างประเทศ แต่ครั้งที่ 2 ไปเพียงภาคใต้ แต่ตั้งรักษาการ จะเป็นการสามัคคีกันเข้าคุก ตนฟันธงว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องการเร่งสางคดี เพราะคดีมีผล 20 ปี และ พล.ต.อ.ธานี อยู่ได้อีก 40 วัน

“วันนี้รัฐบาลทำอะไร ผมยืนยันว่า มีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่าแทรกแซงตำรวจ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 195 วรรค 2 เขาบอกเลยว่าพระบรมราชโองการใดก็ตามที่พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาโดยพลัน แหล่งข่าวผมได้มาว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่อภิสิทธิ์เอาไปเก็บ ถามว่า อภิสิทธิ์ต้องรับผิดชอบไหม ต้องรับผิดชอบครับ เพราะเขาเป็นคนมีหน้าที่โดยตรง คือ ต้องรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เก็บเอาไว้ เพราะราชกฤษฎีกาเหมือนบ้าน กำลังพลแต่งตั้งเหมือนผู้อาศัย ถ้าบ้านไม่เสร็จเอาคนไปใส่ไม่ได้ เมื่อบ้านยังไม่ประกาศราชกิจจานุเบกษา จึงยังไม่สมบูรณ์ ต้องประกาศโดยพลัน ทำไมไม่ทำ เพราะเจรจายังไม่เรียบร้อย จึงเป็นที่มาว่าในวันอังคารที่จะถึงตนจะเสนอในพรรคให้ฟัง ว่า พฤติกรรมอย่างนี้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดมาตรา 157” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญเขียนชัดว่าในฐานะนายกฯ ต้องดำเนินการประกาศราชกิจจานุเบกษาทันที เก็บไว้ทำไม และเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิเชียร ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกให้เลื่อนการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปก่อน ดังนั้น พล.ต.อ.วิเชียร คงจะได้สามัคคีเข้าคุกกันแน่กับนายอภิสิทธิ์

“เรียบร้อยแน่งานนี้ ผมจะไปพรีเซนต์ในพรรค แจ้งความส่วนหนึ่ง ถอดถอนส่วนหนึ่ง คุณอภิสิทธิ์ รับเต็มๆ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว และว่า สรุปฟันธงกรณีนี้นายกฯแทรกตำรวจชัดเจน และตนได้เขียนหนังสือ “ทางออกประเทศไทย” และจะขออนุมัติจากพรรคเป็นยุทธศาสตร์ ตนเชื่อว่า ความยุติธรรมในเมืองไทยขาดมาตรฐาน ยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด