“เสรีพิศุทธ์” แนะ “มาร์ค” เด็ดขาดเซ็นโยก “ป๊อด” พ้นโต๊ะ ก.ต.ช.

อดีต ผบ.ตร. “วีรบุรุษนาแก” ตำหนิ ก.ต.ช.ไม่ให้เกียรตินายกฯ แนะ “มาร์ค” พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เซ็นโยก “พัชรวาท” ไปช่วยราชการสำนักนายกฯ เปิดทางเสนอชื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ต่อที่ประชุม ก.ต.ช. เตือนหากไม่เด็ดขาดเจอตีแสกหน้า ถูกหมายหัวเป็นเด็กวานซืน เชียร์เร่งแก้เกมก่อนสูญเสียอำนาจไปมากกว่านี้

วันนี้ (21 ส.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องเลื่อนการประชุม เพื่อเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ออกไปว่า อำนาจการแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นผู้เสนอชื่อตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 53 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ เห็นชอบ ฉะนั้นการคัดเลือกหัวหน้าตำรวจกรรมการ ก.ต.ช.ทุกคนต้องให้เกียรตินายกฯ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงหากตำรวจไปทำอะไรที่เสียหาย นายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบไม่ใช่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรี ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตำแหน่ง

“มันเป็นการไม่ให้เกียรตินายกฯ บวกกับการที่นายกฯ เองอ่อนไม่มีประสบการณ์ ไม่กล้าหาญในการตัดสินใจ เขาเห็นนายกฯ เป็นหมู เป็นเด็กเมื่อวานซืน และมองข้ามหัวนายกฯ ที่อายุแค่ 45 แต่กรรมการ ก.ต.ช. นายสุเทพและ พล.ต.อ.พัชรวาท ล้วนแต่อายุ 60 อัพแล้วทั้งนั้น นายกฯแค่รุ่นลูก อายุห่างกันกว่า 15 ปี ทั้งหมดเป็นเพราะนายกฯ ไม่แสดงความกล้าหาญ จึงทำให้เกิดปัญหาถูกตีกบาล ถูกตีแสกหน้า” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายกฯ ยังเห็นกับประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง กลัวที่จะถูกเปลี่ยนตัว กลัวที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะไม่สนับสนุน หรือคิดว่าหากให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็จะไม่ได้กลับเข้ามา ตรงนี้อาจทำให้ประเทศเสียหาย ทั้งนี้ สมัยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ทำหน้าที่ประธาน ก.ต.ช.สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เสนอตนเองเป็น ผบ.ตร. เวลาผ่านไป 5 นาทีเสร็จแล้ว แต่วันนี้คนที่เป็นกรรมการ ก.ต.ช.มาจากไหน มาจากนายสุเทพ และ พล.ต.อ.พัชรวาท แล้วนายกฯ มีใครคิดเอาก็แล้วกัน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทางออกเวลานี้ นายกรัฐมนตรีต้องรีบแก้เกมด้วยการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการประจำสำนักนายกฯ และตั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รอง ผบ.ตร.ทำหน้าที่รักษาการแทน เมื่อมีการประชุม ก.ต.ช. นายกฯ ก็เสนอชื่อคนที่นายกฯ เห็นว่าเหมาะสมให้ที่ประชุม ก.ต.ช.พิจารณา ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมาเสียงออกมา 5 ต่อ 4 เมื่อไม่มี พล.ต.อ.พัชรวาท เสียงข้างมากจะหายไป 1 เสียง อย่างไรก็ตาม อยู่ที่ความกล้าหาญ กล้าตัดสินใจเด็ดขาดของนายกฯ ด้วย ไม่เช่นนั้นนายกฯ อาจสูญเสียอย่างที่เป็นทุกววันนี้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังมีถูกกล่าวหาการทุจริตในโครงการจัดจ้างบริษัทเอกชนทำการประชาสัมพันธ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสมัยที่ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้สอบสวนไปแล้วตามมาตรา 84 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉะนั้น นายกรัฐมนตรีสามารถที่จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เลยตามมาตรา 86 ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ต้องให้ใครมาชี้ วันนี้นายสุเทพดึงเรื่องไว้ โดยโยนให้กฤษฎีกาตีความ เรื่องเลยไม่คืบหน้า หากเรื่องนี้คืบหน้านายกฯ สามารถใช้โอกาสนี้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ได้เช่นกัน โดยที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมไม่ต้องมาถามว่า น้องผิดอะไร