xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” จี้ฝ่ายมั่นคงจับตา ร.ร.หางแดง หวั่นปลุกผีคอมมิวนิสต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี
โฆษกประจำตัว “มาร์ค” ย้อน “นช.แม้ว” ร่ำร้องหาความปรองดองในชาติ ซัดแค่เล่นละครเรียกความสนใจ ชี้พฤติกรรมไม่หยุดป่วน ทั้งโฟนอิน-ส่งน้ำเลี้ยงให้สมุนคอยป่วน ทั้งบิดเบือนความจริงแถถูกยัดเยียดข้อหาจาก คมช. จวกทั้งที่ตัวเองมีสิทธิ์สู้กับหนีหัวซุกหัวซุน ปัดรัฐดึงเกมถวายฏีกา เหน็บ “เกลอหัวขวด” อย่าหาข้ออ้างชุมนุม ชี้ไม่ว่าอย่างไรก็จ้องตั้งแง่อยู่แล้ว พร้อมจี้ฝ่ายมั่นคงจับตาโรงเรียนหางแดงทั่งประเทศ หวั่นเป็นสถาบันเถื่อน ซ่องสุมความคิดคอมมิวนิสต์ให้ชาวบ้าน ปลุกผีต่อต้านประชาธิปไตย

วันนี้ (19 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2552 เพื่อที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติว่า ความปรองดองในชาติเกิดขึ้นได้นั้น ทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของรัฐบาล นายกฯ ก็มีความคาดหวังที่จะเห็นความปรองดองและสมานฉันท์ โดยให้รัฐสภาตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ จนได้ข้อสรุประดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลาภายใต้การสนับสนุนและปลุกระดมของตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณอยากจะเห็นความปรองดองตามที่มีแถลงการณ์ก็ไม่ควรที่จะเรียกร้องจากฝ่ายอื่นๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะเริ่มต้นที่ตัวเองเสียก่อน ซึ่งเป็นการกระทำที่ง่ายที่สุด ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณหยุดความเคลื่อนไหวโดยการโฟนอิน โดยการสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่มีปัญญาที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ได้

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การเรียกร้องความปรองดองของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการเรียกร้องจากใจจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การแสดงละครเพื่อเรียกร้องความสนใจ เหมือนกับการบีบน้ำตาทุกครั้งที่มีการโฟนอินมาในม็อบเสื้อแดง สถานการณ์ในวันนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากจะเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในชาติ ความขัดแย้งในสังคมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณกับประเทศไทย และเรื่องระบอบประชาธิปไตยกับระบอบทักษิณ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติบทบาทเพียงคนเดียวความขัดแย้งทางการเมืองก็จะยุติลง เพราะการปรบมือข้างเดียวไม่สามารถดังได้อย่างแน่นอน

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะแก้ตัวในสถานการณ์ว่าตนเองไม่ได้เป็นคนหนีคดี แต่ที่หนีเพราะไม่ยอมรับการกระทำรัฐประหาร จึงอยากจะถามว่าตอนที่มีการรัฐประหารทำไม พ.ต.ท.ทักษิณไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ และหลังมีรัฐประหารแล้วมีการเลือกตั้งทั่วไป พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางกลับมาประเทศไทย แต่เมื่อศาลจะตัดสินคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา พ.ต.ท.ทักษิณ หนีออกจากประเทศไทยไปทำไม ทั้งๆ ที่รัฐบาลที่กุมอำนาจรัฐในขณะนั้นก็เป็นรัฐบาลนอมินีของตัวเอง จึงปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคำตัดสินของศาลในการทุจริตที่เป็นไปตามกฎหมาย ป.ป.ช.ว่าด้วยการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมตามมาตรา 100 ไม่มีการยัดเยียดความผิดของการรัฐประหารตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวหา แต่เป็นเพราะกระบวนการยุติธรรมตัดสินตามข้อกฎหมาย ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับกติกาของสังคม ไม่ยอมรับกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งเป็นกฎหมายที่คนไทยทุกคนต้องรู้และปฏิบัติตามนั้น ก็ไม่ควรจะอยู่ในประเทศไทยต่อไป และเมื่อเกิดเป็นคนไทยต้องยอมรับกฎหมายไทย ไม่เช่นนั้นอย่าเกิดเป็นคนไทยเลย

ส่วนการประกาศความเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดงในลักษณะข่มขู่รัฐบาลว่า ถ้ารัฐบาลดึงเรื่องการถวายฎีกา คนเสื้อแดงก็จะนัดชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไปนั้น นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ดึงเกม ทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แกนนำคนเสื้อแดงไม่ควรที่จะปั้นเรื่องเพื่อหาเหตุความชอบธรรมที่จะมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล ถ้าแกนนำคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ก็ไม่ควรที่จะโยนความผิดมาให้รัฐบาล เพียงแค่รัฐบาลอยู่เฉยๆ แกนนำคนเสื้อแดงก็สามารถหาเรื่องที่จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การเคลื่อนไหวใดๆ ก็เป็นสิทธิของคนเสื้อแดง แต่ต้องไม่ละเมิดข้อกฎหมาย และเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็จะไม่ยุติบทบาทลงง่ายๆ การยุติความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เปรียบเสมือนการปิดช่องทำมาหากินของคนเสื้อแดง

นายเทพไทกล่าวว่า หลังจากนี้ก็คงจะมีกิจกรรมความเคลื่อนไหวในลักษณะรูปแบบต่างๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่การเกิดแนวความคิดที่จะตั้งโรงเรียนอบรมคนเสื้อแดงทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการจัดตั้งมวลชนรูปแบบหนึ่ง แต่อยากจะถามว่าการจัดตั้งโรงเรียนคนเสื้อแดงและมีคณะกรรมการหลักสูตรนั้น เป็นการจัดตั้งโรงเรียนอย่างเป็นทางการหรือไม่ เพราะการตั้งโรงเรียนขึ้นมาโดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของกระทรวงศึกษาธิการก่อน มิฉะนั้นโรงเรียนที่จะตั้งขึ้นก็เป็นแค่โรงเรียนเถื่อน สอนโดยหลักสูตรเถื่อน โดยมีอาจารย์เถื่อนเป็นผู้สอนหรือปลุกระดมใช่หรือไม่ เรื่องนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าไปดูแลความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสูตรการอบรมว่าจะสอดคล้องกับการจัดตั้งโรงเรียนการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีตหรือไม่ ที่มีความเคลื่อนไหวในลักษณะจัดตั้งมวลชนติดอาวุธด้านความคิด ติดอาวุธให้กับกองกำลังของทหารปลดแอกประชาชน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวสำหรับการปลุกผีคอมมิวนิสต์ให้คืนชีพของแกนนำบางคนใน นปช.ที่ยังคงมีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ฝังหัวอยู่ และยังไม่เลิกล้มความคิดทั้งๆ ที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ในโลกนี้ได้ล่มสลายไปแล้ว และปฏิเสธไม่ได้ว่าในแกนนำนปช.บางคนก็ยังทำตัวเป็นคอมิวนิสต์หลงยุคอยู่ ซึ่งได้แสดงออกโดยการแต่งกาย พูดจาปราศรัยและความเคลื่อนไหวทางการเมืองให้สอดคล้องกับอุดมการณ์คอมมิวนิสต์อยู่เสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น