“บรรหาร” ขอพรวันเกิดอยากให้การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจจะได้ฟื้นตัว ฝากข้อคิดพรรคร่วมฯ ต้องช่วยกันท้วงติงเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง มั่นใจไม่มีปฏิวัติเงียบเชื่อแค่ข่าวลือ ยอมรับไม่ว่าจะอยู่ซีกไหน ต้องเจ็บตัวทุกที พูดทีเล่นทีจริงสงสัยต้องเข้าวัด อยากนัด “แม้ว” กินหูฉลาม
วันนี้ (19 ส.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันเกิดแต่ละปีในความคิดตนไม่อยากให้ถึงวันเกิด แต่ก็ดี เพราะวันนี้ผมครบแล้วก็นับถอยหลัง ตอนนี้ถอยมาถึงอายุ 40 ปี ถอยมาทุกปี วันนี้มีเพื่อนฝูง มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอวยพร รวมทั้งพรรคชาติไทยเดิมและพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย ก็ให้ข้อคิดว่าตอนนี้ปัญหาของบ้านเมืองมีมาก พวกเราอยู่ร่วมรัฐบาลก็ต้องช่วยกัน ถ้าเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องค้านในสิ่งที่สร้างสรรค์ และภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ตนมีความมั่นใจว่าถ้างบกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งได้ออกไปสู่พื้นที่ต่างๆ เป็นเม็ดเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวานมีเงินจำนวน 1.5 แสนกว่าล้านบาทที่จะลงไปในกระทรวงต่างๆ สิ่งต่างๆ จะเห็นผลประมาณ 3-4 เดือน เพราะภายในปีนี้เศรษฐกิจจะผงกหัวขึ้น ความเติบโตจะดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ชุมชน ก็ให้ความหวังว่า ที่จะถึงจุดต่ำสุดผ่านพ้นไปแล้ว นับวันจะดีขึ้น แต่ปัญหาอยากให้การเมืองดีตามด้วย ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น แล้วการเมืองไม่ดีขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปด้วย เพราะฉะนั้นวิงวอนทุกฝ่ายพยายามใช้ความอดทน ลดละ อะไรที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ก็ไม่ต้องทำ เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เพราะประเทศชาติของเราทุกคนก็รัก จึงฝากพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าห่วงการเมืองในช่วงนี้ว่าจะไม่ราบรื่นใช่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า มันก็มีอย่างเรื่องเสื้อแดงที่ยื่นฎีกา ขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลเองบางส่วนคอยคัดค้าน ซึ่งเป็นเรื่องความเห็นแตกต่างกัน แต่เมื่อถึงจุดแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เสื้อแดงไปยื่นแล้ว ก็ควบคุมได้ตามระเบียบ แต่ก็คงไม่มีอะไรมาก อย่าให้ถึงกับออกมาชุมนุมก้าวร้าว ไม่อยากเห็นเหตุการณ์ อย่างเช่นสนามบินสุวรรณภูมิ ที่พัทยา รัฐมนตรีไปลงพื้นที่ในต่างจังหวัดไม่ได้ ปัญหาเหล่านี้ควรจะหมดได้แล้ว รัฐมนตรีควรลงพื้นที่ได้ไม่ว่าจะเป็นภาคอีสาน เหนือ ขณะนี้ต่างประเทศและนักธุรกิจเขาก็มอง เพราะการเมืองเป็นตัวหลักใหญ่ที่สุด ถ้าการเมืองไม่นิ่ง ด้านเศรษฐกิจก็ไม่ดีขึ้น จึงวิงวอนให้พวกเรามีความสามัคคีพูดกันรู้เรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ก็ลงพื้นที่ต่างจังหวัดไม่ได้ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่รู้ว่านายกฯ ลงไม่ได้หรือไม่ลงเอง เพราะบางที่แล้วนายกฯไม่ต้องลงไปดูเองทุกเรื่อง มอบหมายให้รองนายกฯที่รักษาการดูแลก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงยื่นฎีกา เหมาะสมหรือไม่เพราะเป็นการระคายเคืองเบื้องยุคลบาท แล้วเหตุใดรัฐบาลจึงไม่จัดการ นายบรรหารกล่าวว่า ตรงนี้ก็ตอบไม่ได้ เมื่อเขาจะยื่นเราคงไปห้ามไม่ได้ ถ้าเบรกแล้วมีปัญหาเลือดตกยางออกเกิดขึ้น รัฐบาลก็ต้องปล่อยให้ยื่น ก็ต้องรอดูว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนนำภูมิใจไทย บินไปคุยกับ รมว.กลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพ ที่ประเทศสิงคโปร์จนทำให้มีข่าวว่า จะมีการปฏิวัติเงียบ นายบรรหารกล่าวว่า กระแสข่าวก็คือกระแสข่าว คิดว่าไม่มีแล้วตนก็ได้ไปถามนายเนวิน นายเนวินได้ยืนยันว่าไม่ได้ไป ต้องบอกตรงๆ ว่ารัฐบาลนี้จัดตั้งได้ เพราะนายสุเทพถือว่าเป็นนั่งร้านที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯ เพราะท่านพยายามประสานงานกับหลายพรรคจนเกิดงูเห่าขึ้น ตนจึงอยากบอกว่า นายสุเทพมีความสำคัญต่อรัฐบาลชุดนี้ จึงได้บอกพรรคร่วมรัฐบาลว่าต้องช่วยกันดูแล และพรรคร่วมฯ มีอะไร ก็ให้นายสุเทพดูแล ตนจะไม่ก้าวล่วงไปทางพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าแต่ดูเหมือนว่านายกฯ จะไม่ให้ความสำคัญรับฟังนายสุเทพ นายบรรหารกล่าวว่า โดยเฉพาะเรื่องโผตำรวจ ตนไม่อยากพูดซ้ำจะกลายเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า อะไรที่ควรทำก็ทำ อะไรไม่สมควรทำก็ละไว้ ไม่ได้พูดถึงใครแล้วเรื่องงาน ก็อย่าเอามาไว้ที่ตัวให้มากเกินไป มันก็จะสบายใจ สมองปรอดโปร่ง แต่ถ้าไปทำทุกเรื่องก็มีปัญหาเกิดขึ้น ตนไม่ได้ว่านายกฯแต่พูดถึงทุกๆ คน อย่างตนหากไปรับภาระทุกเรื่องก็ไม่เอา ก็ปล่อยวาง คนเราความสุขอยู่ที่ไหน คนเราความสุขอยู่ที่ใจ แต่ถ้ามีงานปัญหามากมาย ทำให้กายเป็นทุกข์ ใจก็ไม่เป็นสุข แต่ถ้าใจเป็นสุขกายก็เป็นสุขด้วย จะไม่เจ็บป่วยไม่ต้องกินยาแก้เครียด อย่างนี้ต้องทำใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับกลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่มเสื้อแดง นายบรรหารกล่าวว่า อยู่ที่ว่าเสนอไปแล้วทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับและยอมเลิกหรือไม่ จะปลดสีเสื้อของตัวเองมาใส่เสื้อสีขาวหรือเปล่า ปัญหามันอยู่ตรงนี้แต่เสนอไปแล้วเหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้น มันก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องถามว่าทั้ง 2 ฝ่ายยอมหรือไม่ ถ้าไม่ยอมก็ไม่มีปัญหาถือเป็นสิ่งที่ดีด้วย
เมื่อถามว่าควรจะครอบคลุมไปถึงนักการเมืองหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ควร เพราะนักการเมืองมีกฎหมายกำหนดไว้ แต่ก็มีเรื่องที่น่าคิดว่าบางทีทำความผิดไว้ ความผิดก็ร้ายแรงพอสมควร แล้วจะไปนิรโทษมันเหมาะหรือเปล่า มันก็เป็นความผิดทั้ง 2 ฝ่าย เสื้อเหลืองก็ยึดสนามบิน เสื้อแดงก็บุกยึดพัทยา
เมื่อถามถึงผลงานในรอบ 6 เดือนของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายบรรหารกล่าวว่า รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ แต่บางอย่างก็มีปัญหาอุปสรรค ซึ่งก็ต้องแก้ไข แต่ในฐานะคนนอกอยากให้กราฟของรัฐบาลมันขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้มันขึ้นและค้างอยู่ แต่สิ้นปีมันคงจะพุ่งขึ้นไป แต่ถ้าไม่ขึ้นก็คงต้องลง แต่ตอนสิ้นปีจะมีเม็ดเงินลงไปก็อาจจะพุ่งขึ้น ทั้งจากไทยเข็มแข็ง ซึ่งปลายปีจะปรากฏผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่ารัฐบาลอาจจะสะดุดขาตัวเอง นายบรรหารกล่าวว่า เม็ดเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ลงไปต้องคุมให้เกิดความชัดเจน อย่าให้มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่อย่างว่านายกฯคงลงไปดูไม่ทั่วถึงทุกโครงการ ก็อยู่ที่ผู้รับผิดชอบต้องทำให้ถูกต้องและดีด้วย เสียดายที่ตนไม่ได้นั่งอยู่ใน ครม. มิเช่นนั้นตนจะให้ข้อสังเกตได้เยอะ
เมื่อถามว่านายบรรหารได้ฝากแกนนำพรรคร่วมฯทุกพรรค ที่เข้าร่วมอวยพรว่า ให้ช่วยดูแลพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย หมายความว่าอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า ตนบอกให้ช่วยดูแลพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน
“คุณดูผม ผมดูคุณ ไม่ใช่ให้คุณดูผมฝ่ายเดียว ต่างคนต่างดู ถ้อยทีถ้อยอาศัย และที่ได้ฝากคุณเนวินดูแล หมายถึงตัวผมจะไปฝากให้ดูแลพรรคผมได้อย่างไร เพราะผมอายุมากแล้วเขายังหนุ่มอยู่ ผมอายุมากแล้วไปไหน ก็จูงมือหน่อย อย่าแปลความหมายผิดไม่ได้หมายถึงให้ดูแลพรรค ถ้าหากผมจะหกล้ม คุณเนวินก็ช่วยประคองอย่าให้ล้ม แต่ถ้าคุณเนวินล้มผมก็จะช่วยยกเขาขึ้นมา ได้บอกว่าวันที่ 21 ก.ย.ว่าเราคนไทยด้วยกัน เขาได้รับความทุกข์ก็อยากให้เขาพ้นทุกข์ก็เท่านั้นเอง อยากจะไปบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ก็ไม่ได้ อย่างกรณีพรรคชาติไทย ผมบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ถึง 20 แห่งไม่สำเร็จสักแห่งเลย” นายบรรหารกล่าว
เมื่อถามว่าอนาคตทางการเมืองหลังพ้นการตัดสิทธิ์ นายบรรหารกล่าว่า ไม่ต้องห่วง อายุ 90 ปีก็ยังเล่น เล่นจนหมดลมหมดแรง แต่ว่าเงินจะมีหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ลูกๆ จะเอาไปหมดหรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในโอกาสครบรอบวันเกิดอยากได้พรอะไรเป็นของขวัญ นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าขอได้ จะขอเรื่องการเมือง บุคคลใดที่เข้ามาควบคุมดูแลทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือส่วนหนึ่งทางการเมือง ถ้าเราใช้จิตที่สะอาดบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมาอย่ามีอคติ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นนักวิชาการหรือใครก็แล้วแต่ จะทำให้ประเทศชาติเราไปรอด ก็อยากฝากไว้ว่า ขณะนี้ประเทศของเราจะดีหรือเลว ไม่ได้อยู่ที่ภาวะเศรษฐกิจ แต่อยู่ที่การเมืองเป็นหลัก ถ้าการเมืองนิ่งทุกอย่างก็จะเข้ามา ดังนั้นจึงฝากทุกคนที่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มหรือคนสาว รัฐบาลหรือไม่ก็แล้วแต่ขอให้ช่วยกัน เพื่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี จะได้คลี่คลายพระราชหฤทัยและมองเห็นประชาชนมีความสุข ส่วนตนแม้จะลำบากยากเย็นอะไร ไม่ได้คำนึงศักดิ์ศรีว่าเป็นอดีตนายกฯ แต่จะทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด หากมีอะไรที่ช่วยเหลือสังคมได้ก็จะทำ เพื่อให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาอวยพรวันเกิดหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยโทรมาหาตนเลย แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากคุยกับท่าน คุยแบบเปิดอกตนอยู่รัฐบาลชุดไหนก็เจ็บตัว อยู่กับคนนี้คนโน้นก็ด่า เมื่อเข้ากับพรรคไทยรักไทยคราวโน้นก็เจ็บตัว มาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์คราวนี้ก็เจ็บตัวอีก ถูกด่าทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะเข้าวัดแล้ว
เมื่อถามต่อว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณโทร.มาจะบอกอะไร นายบรรหารกล่าวว่า จะขอกินข้าวด้วยกัน จะชวนไปกินหูฉลาม เมื่อถามต่อว่าก็ต้องไปที่ดูไบ นายบรรหารกล่าวว่า ไปกินที่ร้านซ้งไม่ได้หรือ