“สดศรี” งงศาลปกครองรับคำร้อง ส.ว.ไข้พิษหุ้น ติงทำอำนาจ กกต.หมดความขลัง เผยรับลูก “ส.ว.เรืองไกร” ร้องจัดการ “ประสพสุข” ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ผิด ม.157 ประมวล กม.อาญา ขณะที่ 18 ส.ค.นี้ ยันลงดาบ 44 ส.ส.
วันนี้ (14 ส.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองรับคำร้องของ 13 ส.ว.ที่ถูก กกต.ตัดสินแล้วว่าขาดคุณสมบัติกรณีถือหุ้นสื่อและสัมปทานรัฐว่า คำร้อง 13 ส.ว.ที่ยื่นต่อศาลปกครอง ต้องการให้มีการเพิกถอนมติ กกต. ซึ่งขณะนี้ กกต.กำลังทำคำชี้แจงต่อศาลปกครองภายใน 30 วัน โดยในคำชี้แจงจะแย้งเรื่องอำนาจศาลปกครองว่ามีมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ตนเห็นว่าควรยื่นเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาขอบเขตอำนาจศาลปกครองด้วย เพราะต่อไปหาก กกต.ต้องพิจารณาแจกใบเหลืองใบแดง แล้วหากคู่ความไม่พอใจ เกิดไปร้องต่อศาลปกครองแล้วรับเรื่องไว้อีก ก็จะเกิดเป็นปัญหาตามมา นอกจากนี้ กรณีนี้ยังรวมไปถึง ส.ส. หรือ ส.ว.ที่ไม่พอใจคำตัดสินของ กกต.ก็อาจไปร้องต่อศาลปกครองได้ โดยหากเป็นเช่นนั้น ก็คงต้องแก้กฎหมาย
นางสดศรีกล่าวว่า หากต่อไป กกต.พิจาณาแจกใบเหลืองใบแดงกับใครภายหลังประกาศรับรองผลซึ่งเป็นหน้าที่ของศาลยุติธรรมที่จะพิจารณาต่อ แต่หากระหว่างนั้นศาลปกครองเกิดสั่งระงับจะทำอย่างไร และเป็นการขัดกันของอำนาจศาลปกครองและศาลยุติธรรมหรือไม่ รวมถึงเป็นการตัดอำนาจศาลยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งต้องให้คณะกรรมการวินิจฉัยอำนาจศาล เป็นผู้พิจารณา ซึ่งเรื่องนี้ยืดเยื้ออย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นางสดศรียังได้กล่าวถึงกรณีที่ กกต.รับเรื่องร้องเรียนจาก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่ขอให้ดำเนินการกับ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรา 91 วรรคท้าย ซึ่งไม่ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญและกระทำการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 กรณีการแทรกแซงข้าราชการ รวมไปถึงกรณีมาตรา 231 วรรคท้าย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจศาลปกครอง ทำให้ทาง กกต. ต้องนำเอามาพิจารณา
“กกต.คงไม่แจ้งดำเนินคดีอาญาต่อนายประสพสุข ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เพราะการฟ้องเช่นนี้ น่าจะเป็นเรื่องว่ากันเองระหว่างผู้ที่มีส่วนได้เสียอย่าง นายเรืองไกร ที่เป็นผู้ร้อง ส่วน กกต.ก็ถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรีกล่าวต่อว่า แม้ศาลปกครองจะรับเรื่องไว้วินิจฉัย แต่จะไม่กระทบต่อการเดินหน้าพิจารณาอีก 44 ส.ส. โดยจะนัดลงมติในวันที่ 18 ส.ค.นี้ เมื่อถามว่า เท่าที่ได้ดูสำนวนถือว่าขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ตนได้ให้เจ้าหน้าที่แยกประเภทของข้อมูลให้เสร็จโดยเร็ว เพราะทาง กกต.ต้องการลงมติเลย เนื่องจากเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง โดยหากการตัดสินเสร็จสิ้นจะมีบุคคลใดไปร้องต่อศาลปกครองอีกก็เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่สามารถกระทำได้
