ที่ประชุม กกต.รับลูก “เรืองไกร-พิชา” มีมติรวมคำร้อง สอบ “อภิสิทธิ์” กระทำการเข้าข่ายแทรกแซง สตช.คดียิง “สนธิ” พร้อมเร่งสรรหา ส.ว.ใหม่ แทน “ไรน่าน” กำหนด 17 ส.ค.เริ่มกระบวนการสรรหา
วันนี้ (6 ส.ค.) นายปกครอง สุนทรสุทธิ์ รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้รวมคำร้องกรณีที่ นายพิชา วิจิตร์ศิลป์ 1 ในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างตัวเป็นประธานชมรมกฎหมายภิวัตน์และเครือข่าย และ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182(7) กรณีเข้าแทรกแซงการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะในสำนวนคดีการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าเป็นสำนวนเดียวกัน และตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นตรวจสอบ ซึ่งในที่ประชุม กกต.ไม่มี กกต.คนใดอภิปรายว่าเรื่องดังกล่าว กกต.มีอำนาจที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ คาดว่า จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไต่สวนที่ตั้งขึ้นจะเป็นผู้พิจารณา โดยระยะเวลาการสอบสวนจะเป็นไปตามระเบียบของ กกต.ที่กำหนดไว้เบื้องต้นครั้งแรก 30 วัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบกรณีที่ นายไรน่าน อรุณรังษี ส.ว.สรรหา ที่มาจากสายวิชาชีพสื่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา จะเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องจัดให้มีการสรรหา ส.ว.ใหม่ ภายในระยะเวลา 60 วัน นับแต่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง โดย กกต.มีมติกำหนดให้วันที่ 17 ส.ค.เป็นวันเริ่มกระบวนการสรรหา และวันที่ 18 ส.ค.-1 ก.ย.จะเปิดให้มีการลงทะเบียนขององค์กรวิชาชีพต่างๆ ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และต้องการจะเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็น ส.ว.เข้ามา จากนั้นก็จะมีการส่งรายชื่อให้กับคณะกรรมการสรรหาดำเนินการ โดยจะมีเวลาในการทำงานทั้งสิ้น 22 วัน อย่างไรก็ตาม การสรรหา ส.ว.แทน นายไรน่าน ไม่จำเป็นที่คณะกรรมการสรรหาจะต้องเลือกผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรวิชาชีพสื่อ ที่ นายไรน่าน ได้รับคัดเลือกมา เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้