xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยันข้อมูลผู้นำท้องถิ่นทำตัวเป็นทาส ล่าชื่อไถ่บาป “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์(นั่งกลาง)
โฆษก ปชป.การันตีข้อมูลผู้นำท้องถิ่นจ้าง ปชช.ล่าชื่อไถ่บาปให้ “แม้ว” แนะ มหาดไทย ผนึกกำลังกับหน่วยงานยุติธรรมสกัดด่วน พร้อมหนุนแนวคิดนายกฯทวงคืนระบบคุณธรรมล้างบางยกแก๊ง

วันนี้ (9 ส.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครั้งล่าสุด ที่ระบุว่า “บ้านเมืองไม่มีความพัฒนาเพราะรัฐบาลไร้ฝีมือ” ตอบโต้ว่า บ้านเมืองในขณะนี้มีสถานะวิกฤตซ้อนวิกฤต โดยมี 3 สาเหตุสำคัญที่เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และการชักใยของรัฐบาลที่ถูกชักใยโดย พ.ต.ท.ทักษิณ 1. การคอรัร์ปชัน 2.การใช้อำนาจสร้างความแตกแยก และ 3.ระบบคุณธรรมได้ถูกทำลายลงไปและมีระบบพวกพ้องเข้ามาแทนที่ ทำให้บ้านเมืองสู่ทางตัน

ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า ฝีมือของรัฐบาลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้างนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนจะต้องดูที่พฤติกรรมของรัฐบาล นักการเมืองมากกว่าคำพูด อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาการทำงานทั้ง 6 เดือนของรัฐบาลก็ได้มีการทำตามคำมั่นสัญญา เช่น นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ซึ่งประสบผลสำเร็จไปแล้วในขณะนี้ และรัฐบาลขอเดิมพันด้วยสัญญาประชาคมเรื่องการสร้างงานจำนวน 1.5 ล้านตำแหน่ง ที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นไว้ ว่าก็จะดำเนินหน้าโครงการต่อไปเพื่อให้เกิดความสำเร็จจงได้ เพื่อพิสูจน์การทำงานของรัฐบาล

“ขณะนี้ยังคงมีความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มน้อย ที่ใช้ทรัพยากรเงินจำนวนมาก เพื่อสร้างความเคลื่อนไหว ทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าการยื่นถวายฏีกาที่ผิดขั้นตอนในครั้งนี้นั้น หวังผลในการสร้างความแตกแยกเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง มากกว่าผลลัพท์ที่จะได้จากการขอให้ใช้ พระราชอำนาจในการขอพระราชทานอภัยโทษ”

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า จะฟิตร่างกายเพื่อกลับมา และขอบคุณประชาชนที่ร่วมลงชื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยนั้น สอดคล้องกับข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับรายงานจากหลายพื้นที่ เช่น ใน จ.สุโขทัย เกี่ยวกับกระบวนการที่ขนคนมาก่อเหตุความไม่สงบทางการเมืองเมื่อเดือนเมษายน ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น ในการว่าจ้างประชาชนให้เกิดความเข้าใจผิด และให้ทำการลงชื่อเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ มีความเชื่อมั่นว่า จะนำข้อเสนอของคณะกรรมการทั้งสองคณะ คือ คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรเพื่อให้ระบบสภาเป็นทางออกในการแก้ไขความขัดแย้งของบ้านเมือง

ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประเมินสถานการณ์ทั้งหมด ซึ่งเราขอสนับสนุนแนวความคิด ของนายกรัฐมนตรีที่จะทวงคืนความสำคัญของระบบคุณธรรม ที่ถูกทำลายลงไปในอดีต โดยไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงและใช้ระบบพวกพ้อง เพื่อให้ระบบตำรวจกลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้สนองต่อนโยบายการเมืองในอดีตเหล่านั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เช่น คดีฆ่าตัดตอน แต่ทั้งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่ยังมีความยุติธรรม จะต้องได้รับโอกาสในการทำงานเพื่อเข้ามาบริหารสถาบันนี้บนพื้นฐานของระบบความยุติธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น