“วัชระ” ร่วมวงฝ่ายค้านประเมินผลงานรัฐบาล ชี้ สอบผ่านแก้ปัญหาเศรษฐกิจทำตัวเลขเขยิบสูงขึ้น แต่ระบุสอบตกแก้ปัญหาการเมือง ปล่อย “นช.แม้ว” ปั่วหัวประชาชนทำแตกแยก ให้คะแนนแก้ปัญหาการเมืองแค่ 5 เต็ม 10 ด้าน “มาตุภูมิ” ร่วมสับผลงานรัฐบาลไร้ทิศทาง
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อเวลา 13.30 น.นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลแถลงผลงาน 6 เดือน ว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจถือว่าสอบผ่าน เพราะมีดัชนีชี้วัดต่างๆ ว่า เศรษฐกิจกำลังเขยิบตัวสูงขึ้น แต่สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นห่วง คือ การแก้ไขปัญหาทางด้านการเมืองการปกครอง ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาทางการเมือง จึงได้แค่ 5.0 จากคะแนนเต็ม 10 เพราะวันนี้รัฐบาลยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ที่ชัดเจน เพราะความรู้สึกของประชาชนยังแตกแยกกันอยู่อย่างมาก อย่างเช่น การถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดง และการคัดค้านการถวายฎีกา พรรคชาติไทยพัฒนาอยากเห็นการแก้ไขปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจควบคู่กันไป ไม่เช่นนั้น ประชาชน และข้าราชการบางส่วนก็จะรอและไม่ทำอะไรเลย ใส่เกียร์ว่าง เพราะยังรอพ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ดังนั้น นายกฯต้องทำอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถคุมสภาพการเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ด้านนายมุข สุไลมาน โฆษกพรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงการแถลงผลงานของรัฐบาล 6 เดือนว่า ยังมีหลายเรื่องไม่ได้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงไว้ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นทิศทางที่ดีขึ้นเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะคนต่างงานที่ยังคงมีอยู่จริงจำนวนมาก ขณะที่ราคาสินค้าของชาวเกษตรกรก็ยังเป็นปัญหาหลายเรื่องที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด และข้าว อีกทั้งความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลยังทำให้ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขในทิศทางที่ถูกต้อง รวมทั้งการขึ้นภาษีน้ำมันที่ส่งผลกระทบรอบด้าน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องมีการบวกต้นทุนเพิ่มขึ้นและกระทบต่อประชาชน ขณะที่ภาษีสุรากลับปล่อยให้นายทุนได้รับประโยชน์ ทำให้รัฐบาลเสียโอกาสเก็บภาษีปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้นโยบายสมานฉันท์ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือมีแนวโน้มในแนวทางที่ดีขึ้น ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ทางการเมืองรายวันที่เป็นการซ้ำเติมให้ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่นายสุระ เตชะทัต ผู้ช่วยโฆษกพรรคมาตุภูมิ กล่าวเสริมว่าจากผลงานที่นายกรัฐมนตรีออกมานั้นยังไม่เห็นผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจน มีแต่เห็นว่ารัฐบาลแสดงการยอมรับนโยบายประชานิยมแล้วที่นโยบายรัฐบาลชุดนี้หลายอย่างต่อยอดมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ขณะเดียวกันกับเห็นพฤติกรรมคนในรัฐบาลที่ส่อไปในทางทุจริตเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะล่าสุดการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง นอกจากนี้ยังรู้สึกเป็นห่วงกับการกู้เงินไปใช้อย่างสุรุ่ยสุหร่าย หรือการออกนโยบายที่ไม่ได้เป็นการสร้างการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน เช่น เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ซึ่งจะเป็นภาระของชาติในอนาคต ที่จะมีภาระเรื่องดอกเบี้ยและเป็นภาระของประชาชน ซึ่งยังเห็นรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะนำเงินจากไหนมาชำระเงินกู้ ทั้งนี้จากการติดตามทำงานของรัฐบาลมาตลอด 6 เดือน รัฐบาลนายอภิสิทธิ์เปรียบเหมือน “สุนัขลากเกวียน” ที่ใช้คนไม่ถูกกับงานทำให้แนวทางประเทศยังไม่ไปถึงไหน
