เกาะกระแส โดย ก้อนกรวด
00 ต้องออกตัวก่อนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่อง “ละเอียดอ่อน” และต้องได้รับคำชี้แจงให้กระจ่างจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้ใช้อำนาจแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ขึ้นมารักษาราชการแทน ผบ.ตร. รวมไปถึงเจ้าตัวเองก็ต้องออกมา “เคลียร์” ให้ชัด
00 ยืนยันว่าการ “เร่งเร้า” แบบนี้ไม่ใช่ประเภทที่ยังมีคนเข้าใจว่าเมื่อไม่ได้ดั่งใจแล้ว “งอแง” หรือ “พาลพาโล” เพราะไม่ว่าใครได้เห็นหนังสือจาก “สมุหราชองครักษ์” และ “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจราชสำนักประจำ” เมื่อเดือนกันยายน 2549 รับรองว่า ไมใช่เรื่องเล็กแน่นอน ซึ่งถ้ามีคำสั่งยกเลิกคำสั่งดังกล่าวและแสดงเหตุผลแล้วก็ถือว่าจบ
00 จะทำให้ “เข้าทาง” พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ “พี่ชาย” พจมาน ณ ป้อมเพชร(ชินวัตร) ที่รีบออกมาบีบน้ำตาอ้าง “อาวุโส” สูงสุด ทวงความชอบธรรมในการรักษาราชการตำแหน่ง ผบ.ตร. ถ้ามองให้ไกลข้ามช็อตไปข้างหน้าก็อาจมองได้ว่า “เป้าหมาย” ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ข้างในก็คือ เพื่อหวัง “ดักคอ” การเสนอชื่อผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ตัวจริงคนใหม่ ตามที่นายกฯออกมายืนยันว่าต้องเรียบร้อยภายในสิ้นเดือนนี้ ทำนองต้องยึดอาวุโสสูงสุดหรือเปล่า
00 มองอีกมุมหนึ่งการแอบอ้างอาวุโสสำหรับ เพรียวพันธุ์ อาจไม่เหมาะนัก เพราะหากย้อนกลับไปดูในยุคที่ “อดีตน้องเขย” คือ นช.ทักษิณ ชินวัตร เป็นใหญ่ ตัวเองก็ก้าวกระโดดพรวดพราด “ข้ามหัว”ใครขึ้นมาบ้าง ความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้หลายคนก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นคำพูดล่าสุดแม้มองว่า “เค้น” ออกมาจากใจ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะถูกมองว่า “มีคนดันหลัง” ให้ออกมา “ขย่ม”
00 ผ่านไปแล้วสำหรับงานแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 6 เดือน ซึ่งหากดูด้วยสายตาด้วยความเป็นธรรมด้วยข้อจำกัดสารพัดและปัจจัยจากภายนอกเป็นตัวกำหนดก็ต้องถือว่าสอบผ่าน แต่แบบ “ฉิวเฉียด” ที่สำคัญนับจากนี้ไปต้องมีลูก “หนักๆ” ออกมาให้เห็น โดยเฉพาะรัฐมนตรี “หน่อมแน้ม” ทั้งหลาย ถ้ามีโอกาสก็รีบโละไปให้พ้นๆได้แล้ว เพราะนี่คือภาวะวิกฤตจะเฉื่อยแฉะอีกไม่ได้
00 เรื่องอื่นก็ว่ากันไป แต่สำหรับ “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร เที่ยวนี้ถือว่า ชัดเจนใช้ได้กับ “เสียงเข้ม” ปราม “เสื้อแดง-ทักษิณ” ให้หยุดกระทำเรื่องมิบังควร เห็นว่าการล่าชื่อถวายฎีกาเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ผิดกับ “น้องป๊อก” ที่พอถูกถามก็ตอบว่า “ไม่มีความเห็น” ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้หายหูอื้อแล้วหรือยัง !!