“ปฐมพงษ์” ชี้ พฤติกรรมบังอาจของ “เดียรัจฉาน” ของ “ดา ตอร์ปิโด” ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กระทำร่วมกันเป็นขบวนการ เชื่อมโยงกับผู้ที่เสียอำนาจ-ผู้มีอำนาจ และฝ่ายข้าราชการที่วางเฉย และเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ทำให้เราต้องเสียพระวิหาร จี้ ใช้มาตรการเชิงรุกจับตาคนกลุ่มนี้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอคำตอบใน 3 วัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ปราศรัย
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่เวทีสะพานมัฆวาน พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด โดยก่อนที่จะเริ่มปราศรัย ก็ได้กล่าวขอบคุณ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณเอเอสทีวี และพี่น้องประชาชนที่ดำเนินการจนนำไปสู่การจับกุมคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และทำให้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีก
พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้เรียกร้องให้ทหารได้ทำหน้าที่ราชองครักษ์ที่สมบูรณ์ และว่า รู้สึกดีใจที่สุดที่มีการจับกุมคนที่บังอาจที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เพราะเป็นคำพูดที่เดียรัจฉานดีๆ นี่เอง
พล.อ.ปฐมพงษ์ ย้ำว่า จากนี้ไปจะประสานกับคณะกรรมการพลังแผ่นดิน ที่มี พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เป็นประธาน เพื่อปฏิบัติการเชิงรุก มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
“จากหลักฐานด้านการข่าว พบว่า มีหลายคนร่วมเป็นขบวนการ และคนๆ นี้ไม่ได้ทำคนเดียว มีทั้งผู้สนับสนุน ผู้ปฏิบัติการ และผู้ที่เพิกเฉย ต้องกำจัดให้สิ้นซาก ผมยังเห็นว่า ตำรวจยังปรานีผมว่าเลือดชั่วแบบนี้จะเปื้อนเปรอะแผ่นดินไทยทำไม” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ระบุ และว่า การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคนกลุ่มนี้ เชื่อมโยงกับการเสียดินแดนแน่นอน
พล.อ.ปฐมพงษ์ เรียกร้องให้ทหารราชองครักษ์ และตำรวจราชสำนัก ให้จับตาการเคลื่อนไหวของขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตลอด 24 ชั่วโมง และอย่าปรานีกับคนเหล่านี้แม้แต่นิดเดียว และว่า ได้ประสานไปยังนักวิชาการที่เชี่ยวชาญในเรื่องปราสาทพระวิหาร เช่น อาจารย์เทพมนตรี อาจารย์สมปอง ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวอย่างครบถ้วน รวมทั้งประสานไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ให้ปกป้องพี่น้องประชาชนที่รักแผ่นดิน ถ้าใครละเลยถือว่าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
“การจับกุมเดียรัจฉานเข้าคุกนวันนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่า ไม่ใช่มีคนเดียว และต่อไป จักรภพ และ นพดล หรือคนอื่นจะต้องได้รับกรรมโดยเร็ว โดยจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการกับบุคคลที่เหลือโดยเร็วที่สุด และขอให้มีคำตอบภายใน 3 วัน” พล.อ.ปฐมพงษ์ ระบุและว่า คนกลุ่มนี้เชื่อมโยงกับผู้ที่สูญเสียอำนาจ ผู้มีอำนาจในปัจจุบัน และผู้ปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ทำหน้าที่ ซึ่งในวันนี้ทหารหลายคนได้ตื่นตัวขึ้นมาแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ปราศรัย
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่เวทีสะพานมัฆวาน พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด โดยก่อนที่จะเริ่มปราศรัย ก็ได้กล่าวขอบคุณ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอบคุณเอเอสทีวี และพี่น้องประชาชนที่ดำเนินการจนนำไปสู่การจับกุมคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และทำให้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีก
พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้เรียกร้องให้ทหารได้ทำหน้าที่ราชองครักษ์ที่สมบูรณ์ และว่า รู้สึกดีใจที่สุดที่มีการจับกุมคนที่บังอาจที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เพราะเป็นคำพูดที่เดียรัจฉานดีๆ นี่เอง
พล.อ.ปฐมพงษ์ ย้ำว่า จากนี้ไปจะประสานกับคณะกรรมการพลังแผ่นดิน ที่มี พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เป็นประธาน เพื่อปฏิบัติการเชิงรุก มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
“จากหลักฐานด้านการข่าว พบว่า มีหลายคนร่วมเป็นขบวนการ และคนๆ นี้ไม่ได้ทำคนเดียว มีทั้งผู้สนับสนุน ผู้ปฏิบัติการ และผู้ที่เพิกเฉย ต้องกำจัดให้สิ้นซาก ผมยังเห็นว่า ตำรวจยังปรานีผมว่าเลือดชั่วแบบนี้จะเปื้อนเปรอะแผ่นดินไทยทำไม” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ระบุ และว่า การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคนกลุ่มนี้ เชื่อมโยงกับการเสียดินแดนแน่นอน
พล.อ.ปฐมพงษ์ เรียกร้องให้ทหารราชองครักษ์ และตำรวจราชสำนัก ให้จับตาการเคลื่อนไหวของขบวนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตลอด 24 ชั่วโมง และอย่าปรานีกับคนเหล่านี้แม้แต่นิดเดียว และว่า ได้ประสานไปยังนักวิชาการที่เชี่ยวชาญในเรื่องปราสาทพระวิหาร เช่น อาจารย์เทพมนตรี อาจารย์สมปอง ให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวอย่างครบถ้วน รวมทั้งประสานไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ให้ปกป้องพี่น้องประชาชนที่รักแผ่นดิน ถ้าใครละเลยถือว่าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
“การจับกุมเดียรัจฉานเข้าคุกนวันนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเชื่อว่า ไม่ใช่มีคนเดียว และต่อไป จักรภพ และ นพดล หรือคนอื่นจะต้องได้รับกรรมโดยเร็ว โดยจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการกับบุคคลที่เหลือโดยเร็วที่สุด และขอให้มีคำตอบภายใน 3 วัน” พล.อ.ปฐมพงษ์ ระบุและว่า คนกลุ่มนี้เชื่อมโยงกับผู้ที่สูญเสียอำนาจ ผู้มีอำนาจในปัจจุบัน และผู้ปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ทำหน้าที่ ซึ่งในวันนี้ทหารหลายคนได้ตื่นตัวขึ้นมาแล้ว
